
เทพมรณะ หรือ บลีช เป็นผลงานการ์ตูนญี่ปุ่นของคุโบะ ไทเทะ ซึ่งในขณะนี้ถูกตีพิมพ์ลงนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2544 ส่วนในประเทศไทยนั้น บลีชกำลังถูกตีพิมพ์ในนิตยสารบูม โดยมีสำนักพิมพ์เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์
เทพมรณะเป็นเรื่องของ คุโรซากิ อิจิโกะ นักเรียนมัธยมปลายอายุ 15 ปีผู้มีความสามารถมองเห็นวิญญาณ อิจิโกะได้พบกับยมทูตหญิงชื่อ คุจิกิ ลูเคีย ในขณะที่เธอกำลังตามล่าฮอลโลว์ตนหนึ่ง ลูเคียเสียท่าให้กับฮอลโลว์ตนนั้นจึงจำเป็นต้องถ่ายทอดพลังของยมทูตให้กับอิจิโกะ นับจากนั้นอิจิโกะจึงต้องทำหน้าที่ยมทูตแทนลูเคียจนกว่าพลังของเธอจะกลับมา
นอกจากนี้เทพมรณะได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน สองอะนิเมะโอวีเอ สามภาพยนตร์ ละครเพลง วีดีโอเกม และการ์ดเกม โดยภาพยนตร์การ์ตูนออกอากาศทางสถานีทีวีโตเกียว ในเมืองไทยฉายที่ช่อง ทรู สปาร์ค และลิขสิทธิ์ดีวีดีและวีซีดีในประเทศไทยโดย โรส มิเดีย เอ็นเตอร์เทนเมนต์
เทพมรณะเป็นเรื่องของ คุโรซากิ อิจิโกะ นักเรียนมัธยมปลายอายุ 15 ปีผู้มีความสามารถมองเห็นวิญญาณ อิจิโกะได้พบกับยมทูตหญิงชื่อ คุจิกิ ลูเคีย ในขณะที่เธอกำลังตามล่าฮอลโลว์ตนหนึ่ง ลูเคียเสียท่าให้กับฮอลโลว์ตนนั้นจึงจำเป็นต้องถ่ายทอดพลังของยมทูตให้กับอิจิโกะ นับจากนั้นอิจิโกะจึงต้องทำหน้าที่ยมทูตแทนลูเคียจนกว่าพลังของเธอจะกลับมา
นอกจากนี้เทพมรณะได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน สองอะนิเมะโอวีเอ สามภาพยนตร์ ละครเพลง วีดีโอเกม และการ์ดเกม โดยภาพยนตร์การ์ตูนออกอากาศทางสถานีทีวีโตเกียว ในเมืองไทยฉายที่ช่อง ทรู สปาร์ค และลิขสิทธิ์ดีวีดีและวีซีดีในประเทศไทยโดย โรส มิเดีย เอ็นเตอร์เทนเมนต์
โลกของบลีช
โซลโซไซตี้ ในโลกของบลีช กรรมที่คนคนหนึ่งทำขณะมีชีวิตเป็นตัวกำหนดที่ที่วิญญาณของคนคนนั้นจะไปหลังความตาย วิญญาณของคนดี จะถูกส่งไปที่ โซล โซไซตี้ (Soul Society) ซึ่งคนโดยทั่วไปเรียกว่า "สวรรค์" สำหรับฮอลโลว์ที่ถูกทำลายด้วยดาบฟันวิญญาณ ดาบฟันวิญญาณจะชำระบาปที่ทำไปในระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้ หากก่อนตายเป็นคนดีก็ไปโซลโซไซตี้ หากเป็นคนชั่วจะถูกส่งไปยังนรก แม้ว่านรกในบลีชจะมีความหมายเหมือนนรกโดยทั่วไปคือเป็นสถานที่สำหรับลงโทษผู้ทำบาป แต่โซลโซไซตี้ไม่ใช่สถานที่ปูนบำเหน็จผู้ทำกรรมดีเหมือนสวรรค์ กลับเป็นแค่ชุมชนของวิญญาณที่มีสภาพสังคมคล้ายกับประเทศญี่ปุ่นสมัยโบราณ โซลโซไซตี้ทำหน้าเป็นที่พักของวิญญาณก่อนที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกครั้ง แบ่งเขตเป็น 2 เขตใหญ่คือ "ลูคอนไก" (流魂街) ซึ่งมีเขตการปกครองทั้งหมด 320 เขต ซึ่งเป็นสถานที่อาศัยของวิญญาณเร่ร่อน กับ "เซย์เรย์เทย์" (瀞霊廷) ที่อยู่กึ่งกลางของโลกโซลโซไซตี้ ซึ่งเป็นที่อาศัยของเหล่ายมทูตและตระกูลขุนนางในโซลโซไซตี้ พวกที่ไม่ใช่ยมทูตแต่ทำการบุกเข้ามาในเขตของเซย์เรเทย์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกเรียกว่า "เรียวกะ" ซึ่งหากทาง 13 หน่วยพิทักษ์สามารถควบคุมตัวไว้ได้ เรียวกะจะถูกนำไปพิพากษาโทษหนักหรือเบาตามความผิดที่ได้ก่อไว้กับทางเซย์เรย์เทย์
โซลโซไซตี้ เป็นมิติที่ประกอบด้วยอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าสิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ ก้อนหิน หรือพื้นดิน ดังนั้นวิญญาณที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้จึงอยู่ในสภาพของสิ่งมีชีวิตที่มีอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน คล้ายคลึงกับโลกที่มีอนุภาคต่างๆ เป็นพื้นฐานของมวลสารนั่นเอง วิญญาณจึงมีอวัยวะมีเลือดเฉกเช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ต่างกันเพียงอนุภาคมูลฐานเท่านั้นเอง
นรก
สถานที่ซึ่งวิญญาณที่มีบาปในจิตใจจะต้องไป ในเรื่องเทพมรณะนี้ เมื่อเหล่าวิญญาณที่กลายสภาพเป็นฮอลโล่ว์และทำชั่วในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ประตูนรกก็จะมาปรากฏและดึงวิญญาณดวงนั้นลงสู่ขุมนรกในทันที เพราะดาบฟันวิญญาณของยมทูตจะชำระบาปที่ทำระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้เท่านั้น(บาปหลังความตาย) ไม่ได้ชำระบาปที่ทำขึ้นในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่
(สังเกตว่า ประตูนรกจะปรากฏในเล่ม2เท่านั้นเพราะ เนื้อเรี่องอ.คุโบเขียนกำหนดไว้ว่า ฮอลโลว์ที่เคยทำบาปใหญ่หลวงไว้มีแค่ ชริคเกอร์ ที่เคยเป็นฆาตกร)
โซลโซไซตี้ ในโลกของบลีช กรรมที่คนคนหนึ่งทำขณะมีชีวิตเป็นตัวกำหนดที่ที่วิญญาณของคนคนนั้นจะไปหลังความตาย วิญญาณของคนดี จะถูกส่งไปที่ โซล โซไซตี้ (Soul Society) ซึ่งคนโดยทั่วไปเรียกว่า "สวรรค์" สำหรับฮอลโลว์ที่ถูกทำลายด้วยดาบฟันวิญญาณ ดาบฟันวิญญาณจะชำระบาปที่ทำไปในระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้ หากก่อนตายเป็นคนดีก็ไปโซลโซไซตี้ หากเป็นคนชั่วจะถูกส่งไปยังนรก แม้ว่านรกในบลีชจะมีความหมายเหมือนนรกโดยทั่วไปคือเป็นสถานที่สำหรับลงโทษผู้ทำบาป แต่โซลโซไซตี้ไม่ใช่สถานที่ปูนบำเหน็จผู้ทำกรรมดีเหมือนสวรรค์ กลับเป็นแค่ชุมชนของวิญญาณที่มีสภาพสังคมคล้ายกับประเทศญี่ปุ่นสมัยโบราณ โซลโซไซตี้ทำหน้าเป็นที่พักของวิญญาณก่อนที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกครั้ง แบ่งเขตเป็น 2 เขตใหญ่คือ "ลูคอนไก" (流魂街) ซึ่งมีเขตการปกครองทั้งหมด 320 เขต ซึ่งเป็นสถานที่อาศัยของวิญญาณเร่ร่อน กับ "เซย์เรย์เทย์" (瀞霊廷) ที่อยู่กึ่งกลางของโลกโซลโซไซตี้ ซึ่งเป็นที่อาศัยของเหล่ายมทูตและตระกูลขุนนางในโซลโซไซตี้ พวกที่ไม่ใช่ยมทูตแต่ทำการบุกเข้ามาในเขตของเซย์เรเทย์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกเรียกว่า "เรียวกะ" ซึ่งหากทาง 13 หน่วยพิทักษ์สามารถควบคุมตัวไว้ได้ เรียวกะจะถูกนำไปพิพากษาโทษหนักหรือเบาตามความผิดที่ได้ก่อไว้กับทางเซย์เรย์เทย์
โซลโซไซตี้ เป็นมิติที่ประกอบด้วยอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าสิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ ก้อนหิน หรือพื้นดิน ดังนั้นวิญญาณที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้จึงอยู่ในสภาพของสิ่งมีชีวิตที่มีอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน คล้ายคลึงกับโลกที่มีอนุภาคต่างๆ เป็นพื้นฐานของมวลสารนั่นเอง วิญญาณจึงมีอวัยวะมีเลือดเฉกเช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ต่างกันเพียงอนุภาคมูลฐานเท่านั้นเอง
นรก
สถานที่ซึ่งวิญญาณที่มีบาปในจิตใจจะต้องไป ในเรื่องเทพมรณะนี้ เมื่อเหล่าวิญญาณที่กลายสภาพเป็นฮอลโล่ว์และทำชั่วในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ประตูนรกก็จะมาปรากฏและดึงวิญญาณดวงนั้นลงสู่ขุมนรกในทันที เพราะดาบฟันวิญญาณของยมทูตจะชำระบาปที่ทำระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้เท่านั้น(บาปหลังความตาย) ไม่ได้ชำระบาปที่ทำขึ้นในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่
(สังเกตว่า ประตูนรกจะปรากฏในเล่ม2เท่านั้นเพราะ เนื้อเรี่องอ.คุโบเขียนกำหนดไว้ว่า ฮอลโลว์ที่เคยทำบาปใหญ่หลวงไว้มีแค่ ชริคเกอร์ ที่เคยเป็นฆาตกร)
ฮูเอโค มุนโด้
โลกของเหล่าฮอลโล่ว์
โลกของเหล่าฮอลโล่ว์
คาแร็กเตอร์ของเทพมรณะ
[แก้] มนุษย์
ในเรื่องเทพมรณะ เหล่ามนุษย์ที่ในเรื่องจะดำเนินในสังคมของประเทศญี่ปุ่น มนุษย์ในที่นี้ก็จะเหมือนกับในโลกของความเป็นจริง โดย ทุกคนจะอาศัยกายหยาบเพื่อการมีชีวิต วิญญาณกับกายหยาบจะเชื่อมต่อกันด้วย "โซ่แห่งผลกรรม" ที่จะติดอยู่ที่ส่วนอกของวิญญาณกับกายหยาบ และถ้ามีมนุษย์คนใดได้รับผลกระทบจากการกระทำของวิญญาณ ก็อาจจะไปกระตุ้นพลังวิญญาณในตัวของเขาจนสามารถมองเห็นวิญญาณได้ หรืออาจจะมีพลังพิเศษจากพลังวิญญาณได้เช่นกัน
[แก้] วิญญาณ
เมื่อมนุษย์ตาย วิญญาณของจะไม่ไปยังโซลโซไซตี้หรือนรกในทันที วิญญาณเหล่านี้เรียกว่า "พลัส (Plus)" เป็นวิญญาณของคนส่วนใหญ่ซึ่งปรากฏให้เห็นเป็นร่างมนุษย์ โดยโซ่แห่งผลกรรมที่หน้าอกจะขาดออกจากกายหยาบแล้วซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึง ความตายของคนๆนั้น และตราบใดที่ยังไม่มียมทูตมาชี้นำที่ไปให้ยังที่ๆควรไป พวกเขาก็จะวนเวียนไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่เหล่าวิญญาณจะวนเวียนอยู่ในสถานที่ซึ่งตนเองตายหรือคุ้นเคย และวิญญาณเหล่านี้จะมีตัวตนอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งในบางครั้งสามารถสัมผัสได้
[แก้] ฮอลโลว์
ฮอลโลว์ (Hollow) คือวิญญาณที่โซ่กรรมขาดทำให้เกิดการรุกกินจน หน้าอกเป็นรู ในที่สุดก็จะกลายร่างเป็นอสูรกาย ฮอลโลว์ทุกตนจะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกตัวจะสวมหน้ากากไว้เพื่อปิดบังใบหน้าของตนและหน้ากากจะป้องกันสันดาน ดิบหรือนิสัยเก่าก่อนที่จะเป็นฮอลโลว์ และส่วนอกที่เคยมีชิ้นส่วนของโซ่แห่งผลกรรมที่หลงเหลืออยู่จะถูกแทนที่ด้วย รูกลวงสัญลักษณ์ของการเสียดวงจิต(เป็นที่มาของชื่อฮอลโลว์) เหล่าฮอลโลว์จะกินวิญญาณธรรมดาและวิญญาณของคนที่มีพลังวิญญาณสูง ซึ่งทำได้แม้แต่การฆ่าคนเพื่อเอาวิญญาณมาดับความหิวกระหาย ไม่ก็ดับความทรมาณของตนเอง โดยเหล่าฮอลโลว์แม้คนธรรมดาจะมองไม่เห็น แต่ก็มีตัวตนสัมผัสได้ โลกที่เหล่าฮอลโล่ว์มารวมกันและอาศัยอยู่คือ "ฮูเอโก้ มุนโด้" ส่วนฮอลโลว์ชั้นสูงจะถูกเรียกว่า "เมนอส" ซึ่งในหมู่เมนอสเองแล้ว ก็สามารถแบ่งได้อีก 3 ประเภทเช่นกัน คือ
กิลเลียน เมนอสที่พวกอิจิโกะเรียกกันว่า "เมนอสกรังเด้" นั้นแท้จริงแล้วคือพวก "กิลเลียน" เป็นเมนอสชั้นต่ำที่สุด ร่างใหญ่ เคลื่อนไหวช้า มีปัญญาราวกับสัตว์ป่าเท่านั้น
แอดจูคาส เมนอสที่มีขนาดเล็กกว่ากิลเลียน มักเป็นผู้นำฝูงของกิลเลียน และมีขนาดเล็กกว่า ฉลาดกว่า
วาสโทรเด้ เมนอสชั้นสูงสุด มีขนาดเท่ากับมนุษย์ มีจำนวนน้อย รวมทั้งหมดในฮูเอโก้ มุนเด้ มีอยู่ไม่กี่ตนเท่านั้น ว่ากันว่า ความสามารถของวาสโทรเด้นั้นมีมากกว่าหัวหน้าหน่วยของหน่วยของยมทูตเสียอีก และฮิตสึกายะ โทชิโร่เคยพูดไว้ว่าถ้ามีวาสโทรเด้ อยู่กับไอเซ็นตั้งแต่10ตนขึ้นไปโซลโซไซตี้อวสานแน่
[แก้] ยมทูต
ยมทูต (ญี่ปุ่น: 死神 Shinigami ; Death's God ?) เป็นผู้ปกครองโซลโซไซตี้ ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณวิญญาณที่ถ่ายเทระหว่างโลกมนุษย์กับโซลโซไซตี้ นอกจากนี้ยังมีภารกิจสำคัญอีกสองประการ คือ การทำพิธีส่งพลัสไปยังโซลโซไซตี้ และการชำระฮอลโลว์ ตัวชินิกามิเองนั้นเป็นวิญญาณ ด้วยเหตุนี้คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็น ได้ยิน หากแต่สัมผัสชินิกามิได้ในบางครั้ง ชินิกามิทุกตนมีร่างเป็นมนุษย์ สวมชุดฮากะมะสีดำเป็นเครื่องแบบและมีอาวุธประจำกายเรียกว่า ซัมปาคุโต (斬魄刀 "ดาบฟันวิญญาณ"(ภาษาอังกฤษเรียก "Soul Slayer / Soul Cutter") สำหรับใช้ต่อสู้กับฮอลโลว์ นอกจากนี้ชินิกามิยังสามารถใช้คิโด (มนต์ดำ, Demon Art(หรือ "วิถีมาร") ในการต่อสู้ได้อีกด้วย และสำหรับระดับหัวหน้าแล้วยังมีการปลดปล่อยสวัสดิกะ(บังไค:卍解)โดยการเรียกชื่อดาบของตนซึ่งมียมทูตจำนวนไม่มากนักที่สามารถทำได้
[แก้] ควินซี่
ควินซี่ (Quincy) หรือที่ช่อง TRUE Spark (43) แปลว่า "พรตปราบมาร" คือ ตระกูลนักปราบมารที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก คอยฝึกฝนตัวเองเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถต่อสู้กับฮอลโลว์ได้ และ สูญสิ้นไปกว่า 200 ปีมาแล้วจากการกวาดล้างของยมทูต เนื่องจากเจตนาของควินชี่ในการกำจัดฮอลโลว์ที่ต่างกันกับเหล่ายมทูต เพราะว่า ควินชี่มุ่งที่จะสังหารฮอลโลว์เท่านั้นไม่เหมือนกับยมทูตที่ส่งวิญญาณ ฮอลโลว์ไปสู่โซลโซไซตี้ ควินซี่จะไม่ใช้อาวุธอื่นใดนอกจากธนู
[แก้] อารันคาร์
อารันคาร์ (Arrancar) คือเหล่าฮอลโล่ว์ที่ถอดหน้ากากและได้รับพลังยมทูต กลายเป็นฮอลโลว์ที่มีทั้งความสามารถของทั้งฮอลโลว์และยมทูต เหล่าอารันคาร์จะมีหน้ากากที่ถอดออกไปส่วนหนึ่งทำให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงใน ระดับหนึ่ง และจะอยู่ในร่างที่เกือบจะเป็นมนุษย์ (แต่จะเป็นร่างมนุษย์แบบสมบูรณ์ถ้าเป็นร่างแปลงของฮอลโลว์ระดับสูง) และยังคงมีรูกลวงตรงกลางอยู่เช่นเดิม เหล่าอารันคาร์จะสวมชุดเสื้อคลุมสีขาว และจะมีดาบฟันวิญญาณเช่นเดียวกับยมทูต การปลดปล่อยดาบของอารันคาร์จะไม่ใช่การเปลี่ยนอาวุธชิ้นหนึ่งเป็นอีกแบบ หนึ่ง แต่ดาบฟันวิญญาณของอารันคาร์ก็คือแก่นแห่งพลังของอารันคาร์ตนนั้น เมื่อปลดปล่อย อารันคาร์จะกลับคืนสู่ร่างที่แท้จริงและมีพลังเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายสิบเท่า เรียกว่า Resurrection สำหรับเผ่าอารันคาร์ อ.คุโบ เลือกที่จะให้ชื่อและชื่อของดาบฟันวิญญาณเป็นภาษาสเปน (แม้แต่เพลงประกอบในอะนิเมะก็เลือกใช้ดนตรีในสไตล์สเปนหรือลาตินอเมริกา)
เดิมที อารันคาร์มีจำนวนน้อยแต่เดิม และเป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อได้รับพลังจากโฮเงียวคุของไอเซ็น อารันคาร์จึงพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด จนถึงระดับสมบูรณ์แบบ(แต่จากเนื้อเรื่องปัจจุบัน ยังไม่มีอารันคาร์ที่สมบูรณ์แบบเลยยกเว้น วอนเดอร์ไวซ์ ที่เกิดจากโฮเงียคุที่มีพลังเต็มร้อย)
อารันคาร์ที่ถูกคัดเลือก 10 ตน จะถูกเรียกว่า เอสปาด้า (Espada) และจะมีอำนาจปกครอง อารันคาร์ด้วยกันเอง เอส ปาด้าแต่ละตนจะมีวังอยู่ใน ลาส์ นอเช่ ซึ่งแต่ล่ะวังจะล้อมรอบวังของไอเซ็นเอาไว้ เอสปาด้ามีสิทธิ์เลือกคนสนิทไว้ใช้สอยตามแต่ตัวเองจะพอใจ ซึ่งเรียกอารันคาร์ที่เป็นคนสนิทของเอสปาด้าว่า ฟราเชี่ยน(fracion) แต่ที่จริงแล้วเอสปาด้าจะเรียงจากเบอร์ 0-9 และตนที่เป็นเบอร์ 0 ก็คือยามี่ เอสปาด้าจะมีความสามารถในการใช้เหตุผลของความ"ตาย" ได้เช่น บารากัน แก่ตายจึงสามารถควบคุมเวลาหรือทำให้ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวหมดอายุไขได้ พวกที่ถูกถอดออกจากเอสปาด้าจะกลายเป็น พรีวารอน เอสปาด้า (อดีตเอสปาด้า) จะมีเลขลำดับเป็นเลข 3 หลัก (เทรสซีรัฟ) ที่จะอยู่ในกำแพงด้านนอกของลาส์ นอเช่
[แก้] เอสปาด้า
เอสปาด้าทั้งหมดมีดังนี้
1. พริเมโร่ เอสปาต้า (Primero Espada)[Coyote Starkk] โคโยเต้ สตาร์ค และ ลิลิเน็ต จินเจอร์แบ็ค เอสปาด้าหมายเลข 1 มักนอนหลับบ่อยๆจึงถูกลิลิเน็ตแกล้ง โดยมีหมายเลขอยู่ที่หลังมือซ้าย ยืนยันโดยbleach ตอนที่ 339 คำปลดปล่อย " จงไล่ต้อน" ลอสโลบอส ( ฝูงหมาป่า )โดน เคียวราคุ ชุนซุย ฆ่าตายแล้ว ยืนยันโดยบลีชตอนที่ 374
2. เซกุนโด้ เอสปาต้า (Segundo Espada) บารากัน ลุยเซนเบิร์น (Barakan) เอสปาด้าหมายเลข 2เป็นชายแก่หน้าบาก และในตอนที่ไอเซ็นบุกโลกมนุษไอเซ็นโดนไฟจากดาบผ่าวิณญาณของหัวหน้าหน่วย 1 ไม่สามารถสั่งการได้ บารากันได้เป็นคนสั่งแทน เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะหยิ่งในตนเอง มีดาบฟันวิญญาณเป็นขวานขนาดใหญ่ ซึ่งหยิบออกมาจากที่นั่ง ปรากฏในตอนที่ 355 และเขาได้ปลดปล่อยดาบออกมาโดยคำปลดปล่อยคือ "จงเสื่อมสลาย" ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "อาโรน์กันเต้(ราชาหัวกะโหลก)" ยังไม่ตาย หรือ มีรอยขีดข่วนเลย (โดนบังไคของซุยฟงยิง)โดน ซุยฟง กับ ฮัจจิ(1ในไวเซิท)ฆ่าตายแล้ว
3. เทรส เอสปาต้า (Tesaro Espada) เทีย ฮาริเบล (Tia Haribell) เอสปาด้าหมายเลข 3 เป็นผู้หญิงเพียงตนเดียวที่เป็นเอสปาด้า ยืนยันโดย bleach ตอนที่ 339 โดยมีหน้ากากฮอลโลว์อยู่ตั้งแต่ปากจนถึงบริเวณหน้าอก และมีหมายเลข 3 สักไว้ที่หน้าอกข้างขวา มีดาบฟันวิญญาณชื่อ ทิบูรอน คำปลดปล่อยคือ "จงโรมรัน" จะกลายเป็นดาบคล้ายฉลามเงิน โดยดาบจะอยู่ที่มือข้างขวา(แต่ทำไมก็ไม่รู้ว่า หมายเลข 3 ต้องเป็นผู้หญิงเสมอนะ) โดนท่าไม้ตายของฮิซึงายะแล้วยังรอด แต่โดนไอเซ็นฆ่าเองกับมือ ยืนยันโดยบลีชตอนที่ 375
4. ควอโทร เอสปาด้า (Cuator Espada) อุลคิโอร่า ชิฟเฟอร์ (Ulquiorra Schiffer) มีดาบฟันวิญญาณชื่อว่า มูรเซียร์เอลาโก้ คำปลดปล่อยคือ "จงพันธนาการ" และเขามีหมายเลข 4 อยู่ทางด้านหน้าอกข้างซ้าย ได้พ่ายแพ้ให้กับฮอลโลว์ในตัวของคุโรซากิ อิจิโกะ และสิ้นชีวิตเองเนื่องจากอวัยวะภายในบอบช้ำเป็นอย่างมากจนไม่สามารถฟื้นฟู ได้ จนสลายเป็นเถ้าถ่านไปในที่สุด [Ulquiorra เป็นเพียงเอสปราด้าตนเดียวที่สาสมารถ ปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณได้ถึงขึ้นที่ 2 ยืนยันโดย Bleach 348 ข้าเป็นเอสปาด้าเพียงตนเดียว ที่สามารถปลดปล่อยได้ถึงสองระดับ แม้แต่ท่านไอเซ็น ก็ไม่เคยเห็นข้าแบบนี้]
5. ควินโต้ เอสปาต้า (Quinto Espada) นอยโทร่า จิลก้า (Noitora Jilka)อดีตเอสปาด้าหมายเลข 8 (อ้างอิงจาก เล่ม 33 หน้า 155 ช่องที่ 1 จากทางด้านขวา) มีหมายเลข 5 อยู่ที่ลิ้นของตนเอง เป็นคนที่เคียดแค้นเนเลียน ที่แข็งแกร่งกว่าตน เนื่องจาก เขาไม่ชอบให้มีผู้หญิงอยู่ในสนามรบ และมักจะหาเรื่องให้เนเลียนสู้ได้ทุกครั้งเลย (แต่ไม่รู้ในใจคิดอย่างไรนะ) สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตด้วยฝีมือของ ซาราคิ เค็นปาจิ ที่ใช้วิชา เค็นโด้ ในการจับดาบ 2 มือปลิดชีพ
เวลาจะปลดปล่อยดาบจะใช้ชื่อว่า "จงภาวนา" ซานต้าเทเรซ่า (บทภาวนาตั๊กแตนตำข้าว) โดยร่างกายจะมีแขนเป็น 6 แขน และถืออาวุธข้างละ 1 แขน
6. เซ็คต้า เอสปาด้า (Sextar Espada) กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค (Grimjaw Jackerjack)กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค มีหมายเลข 6 อยู่ที่หลังทางด้านขวา ข้าง ๆ รูโบ๋กลางลำตัว เป็นเอสปาด้าที่ค่อนข้างเที่ยงตรง และ ไม่ชอบหน้าของผู้ที่อ่อนแอ ปะทะกับอิจิโกะมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งปัจจุบันไม่รู้ว่าตายหรือยัง แต่ถือว่าเป็นคนดีในระดับหนึ่ง ที่รักษาแผลของอิจิโกะให้ และช่วย โอริฮิเมะมา สุดท้ายอิจิโกะก็สามารถเอาชนะกริมจอว์ได้
เวลาจะปลดปล่อยดาบจะใช้ชื่อว่า จงเสียดเสียง แพนเทร่า (ราชันย์พยัคฆ์เปล่งเสียง) โดยรูปร่างของตนจะมีร่างกายคล้ายพยัคฆ์แต่จะมีความเร็วและรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
7. เซปติโม่ เอสปาต้า (Semtimo Espada) โซมารี เลอรูซ์ (Zomari Le Roux)โซมารี เลอรูว์ ไม่ปรากฏว่าตัวเลข 7 นั้นอยู่ตรงไหน เป็นคนที่ศรัทธาในตัวไอเซ็นมากที่สุดใน 10 คน ถือเป็นคนที่ฉลาดพอดู ปะทะกับคุจิกิ เบียคุยะ เลยทำให้รู้ว่า ถึงจะควบคุมสิ่งที่ก็ตาม การควบคุมก็มีจำกัด ไม่สามารถควบคุมไปได้ทั่วถึงนั้นเอง สุดท้ายก็ตามด้วย เซ็มบ้งซากุระ คาเงโยชิ ของเบียคุยะ
เวลาจะปลดปล่อยดาบจะใช้ชื่อว่า จงสงบนิ่ง บรูเฮเรีย (นักบวชเนตรคำสาป) โดยร่างกายจะเป็นดวงตา 50 ดวง มีความสามารถในการควบคุมสิ่งที่ดวงตามองนั้นมองเห็น
8. อ็อคตาบา เอสปาด้า (Octava Espada) ซาเอล อพอลโล แกรนท์ (Szayel Aporro Grant)ไม่ปรากฏว่าหมายเลข 8 อยู่ที่ไหน เป็นนักวิทยาศาสตร์คล้ายมายูริ แต่ทว่าเป็นผู้มีไสยศาสตร์ด้วยในการใช้ ตุ๊กตาลงทัณฑ์ ในอดีตเป็นคนที่ช่วยให้นอยโทร่า จัดการเนเลียนได้สำเร็จ เป็นผู้ที่แม้บาดเจ็บเพียงใด แค่กินฮอลโลว์ 1 ตัวก็จะสามารถฟื้นฟูตนเองได้อย่างรวดเร็ว แล้วสุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อคุโรซึจิ มายูริ ด้วย ยาอภิมนุษย์ (ยาทำให้เวลาในร่างกายผ่านไปนาน) และพ่ายแพ้ในที่สุด
เวลาจะปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณจะใช้ชื่อว่า จงสูดแทรก ฟอร์นิคารัส (ราชินีมาร) โดยมี 3 ความสามารถคือ 1. ปล่อยน้ำเมือกออกมา เมื่อสัมผัสกับร่างกายใคร ก็จะสร้างตัวปลอมขึ้นมา 2. การดูดมนุษย์เข้าไป และสร้างตุ๊กตาลงทัณฑ์ขึ้นมาแทน 3. กาเบรียล คือ การแฝงตัวเข้าไปในร่างแม่ และฟักตัวใหม่ และคืนชีพออกมาใหม่ (ซึ่งในครั้งนี้เนมุเป็นผู้เคราะห์ร้ายไปแต่มายูริก็ช่วยเอาไว้ได้)
9. นูเบโน่ เอสปาด้า (Noveno Espada) อาโรนีโร่ อาลูเอรี่ (Aoniro Aruerie)เป็นกิลเลียนตนเดียวในเอสปาด้าหมายเลข 9 อยู่ที่สมองของเขาเอง ในอดีตเป็นฮอลโลว์ที่ชิบะ ไคเอ็น เสี่ยงชีวิตเข้าไปต่อสู้ และได้สิ้นชีพ เพราะคุจิกิ ลูเคีย (อ่านในเล่ม 16) วิญญาณของฮอลโลว์ตัวนั้นจึงมาที่ ฮูเอโกมุนโด้ และได้ใช้ร่างสุดท้ายที่สิง ก็คือชิบะ ไคเอ็น มาใช้ได้ เป็นเอสปาด้าคนเดียวที่เป็นอารันคาร์ที่พัฒนาได้ไม่หยุดยั้ง สุดท้ายก็สิ้นชีวิตโดย คุจิกิ ลูเคีย
เวลาจะปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณจะใช้ชื่อว่า จงกลืนกินให้หมดสิ้น โกลโตเนเรีย (กลืนกินฮอลโลว์) และเวลาใช้ร่างชิบะไคเอ็นจะปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณจะใช้ชื่อว่า น้ำแห่งฟากฟ้าจงคลี่คลาย เนจิบานะ (ดอกเกศานารี)
10. เดซิโม่ เอสปาด้า (Dasimo Espada) ยามี่ เรียลโก้(Yammy Rialgo) เอสปาด้าหมายเลข 10 มีดาบฟันวิญญาณชื่อ Era(ไอย์ร่า)(อสูรกราดเกรี้ยว) คำปลดปล่อยคือ"จงทำลาย" แต่แท้ทีจริงแล้วยามี่เป็นเอสปาด้าหมายเลข 0 ซึ่งเมื่อปลดปลอดดาบด้วยพลังเต็มที่แล้ว เลข 10 จะกลาย เป็นเลข 0 (เลข 1 หลุดออกไป) หรือคือ ซีโร่ เอสปาด้า (Zero Espada)ซึ่งแข็งแกร่งมาก
[แก้] อดีตเอสปาด้า
อดีต เอสปาด้า (จากความทรงจำของ Dordoni ทำให้เราทราบว่าแต่เดิมก็มีอารันคาร์ระดับเอสปาด้าอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ "โฮเคียคุ" มาทำให้อารันคาร์รุ่นใหม่ๆ มีความแข็งแกร่งสูงกว่าอารันคาร์ที่เป็นเอสปาดารุ่นเก่า เอสปาด้ารุ่นเก่าหลายคนจึงถูกลดขั้นลงมา)
(อดีตเอสปาด้า) เนเลียล โท โอเดลชูแวงค์ (Neliel to O'dell Svank) อดีต เอสปาด้า หมายเลย 3 มี Pesshe กับ Dondojacker เป็น fraccion พ่ายแพ้ให้กับนอยโทรา(ภายใต้ความช่วยเหลือของซาเอลอพอลโล) จนศูนย์เสียพลังและความทรงจำไปช่วงหนึ่ง อันเป็นการบ่งบอกว่า ไม่ว่าฝีมือเก่งกาจปานใด แต่ "จุดอ่อน" ของอารันคาร์ก็คือ "หน้ากาก" ที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้านั่นเอง
(อดีตเอสปาด้า) ลูปี (Lupe) สิ้นชีวิตด้วยฝีมือ กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค อดีตเอสปาด้า หมายเลข 6 (หลังจากกริมจอร์แขนขาดด้วยฝีมือโทเซ็นและเสียตำแหน่งไป ลูปี้ก็ขึ้นมาแทน)
[แก้] เอสปาด้าตกชั้น
103 Dordoni พ่ายแพ้ให้กับ อิจิโกะ เพียงพริบตาเดียว
105 Chirucchi Thunderwitch พ่ายแพ้ให้กับ อิชิดะ
107 Gantenbein Mosqueda พ่ายแพ้ให้กับ ชาโดะ ยาสึโทระ
นอกจากนี้ยังมีอารันคาร์ซึ่งมีเลข 2 หลัก เรียงตามลำดับการเกิดดังนี้
11 Shauron เป็น fraccion ของ กริมจอร์ สิ้นชีวิตด้วยมือ ฮิซึกายะ โทชิโร่ (หัวหน้าหน่วย 10)
13 Eldorado Rineosu เป็น Fraccion ของกริมจอร์ พ่ายให้กับอิคคาคุ(นักสู้ลำดับ 3 หน่วย 11)
15 Ilforte Grantz เป็น Fraccion ของกริมจอร์ พ่ายให้กับ เรนจิ (รองหัวหน้าหน่วย 6)
(ไม่ทราบลำดับ) Nukeim เป็น Fraccion ของกริมจอร์ พ่ายแพ้ให้กับ มัตสึโมโตะ รันงิคุ (รองห้วหน้าหน่วย 10)
16 Deroy เป็น fraccion ของ กริมจอร์ ประมือกับลูเคียแล้วแพ้
(ไม่ทราบลำดับ) Tesla เป็น fraccion ของ นอยโทร่า ถูกเคมปาจิฟันตาย
Wonderwitz อารันคาร์ท่าทางเอ๋อๆ ชอบติดตามโทเซ็น คานาเมะ ไม่ค่อยชอบหน้าอิชิมารุ งิน
หน่วย ล่าสังหาร(Executional Force) ประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นอารันคาร์จำนวนหนึ่ง สวมหน้ากากรูปเขากระทิงหรือวัวเหมือนกันทุกตน ออกปฏิบัติการณ์เป็นกลุ่ม แต่ละตนฝีมือไม่สูงนัก(หมาหมู่ว่างั้น)ได้ปะทะกับคุจิกิ ลูเคียแล้วลูเคียก็สามารถเอาชนะได้
[แก้] ไวเซิร์ด(กองทัพหน้ากาก)
ไวเซิร์ด(Wizard) เป็นอดีตยมทูตขั้นหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วยรุ่นแรกๆ ที่ถูก ไอเซ็น ใช้วิชาต้องห้ามทดลอง ให้ยมทูตกลายเป็นฮอลโลว์การทดลองดูเหมือนจะล้มเหลวแต่สามารถได้ผลตามที่ ไอเซ็นต้องการ เป็นสาเหตุที่ทำให้อุราฮาระ โดนเข้าใจผิดและจึงถูกเนรเทศออกจากโซลโซไซตี้มาอยู่ที่โลกมนุษย์ ซึ่งอุราฮาระได้ใช้โฮเงียคุ ในการรักษาไวซาร์ดให้คงสติไว้ได้นั่นเอง ด้วยเหตุผลที่กล่าวมากลุ่มไวซาร์ดจึงมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ ขั้นสูง และจะมีพลังมากขึ้นอีกเมื่อสวมหน้ากากฮอลโลว์ และนอกจากนี้ยังรู้เรื่องราวความเป็นมาของเหตุการณ์ต่างๆในโซลโซไซตี้และฮู เอโก้ มุนโด้เป็นอย่างดี ซึ่งในโลกมนุษย์ทีปรากฏอยู่รวม 8 คนด้วยกัน 1. ฮิราโกะ ชินจิ (อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 5) 2. ซารุงากิ ฮิโยริ (อดีตรองฯหน่วยที่ 12) 3. มุกุรุม่า เค็นเซย์ (อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 9) 4. คุนะ มาชิโระ (อดีตรองฯหน่วยที่ 9) 5. ยาโดมารุ ริสะ (อดีตรองฯหน่วยที่ 8) 6. ไอคาว่า เลิฟ (อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 7) 7. โอโทโรบาชิ โรจูโร่ (อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 3) 8. อุโชดะ ฮาจิเง็น (อดีตรองฯหน่วยวิถีมาร)
[แก้] ตัวละครหลักระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ
คุโรซากิ อิจิโกะคุโรซากิ อิจิโกะ (ญี่ปุ่น
黒崎一護 Kurosaki Ichigo ?)
ตัวละครเอกของเรื่อง นักเรียนมัธยมปลายที่มีความสามารถมองเห็นและสื่อสารกับวิญญาณได้และเป็นคนที่มีพลังวิญญาณมหาศาล(แต่ควบคุมไม่เป็น) ได้รับถ่ายทอดพลังของยมทูต(ชินิกามิ)จากคุจิกิ ลูเคีย จึงต้องทำหน้าที่เป็นยมทูต(ชินิกามิ)แทนจนกว่าลูเคียจะได้พลังของตนกลับคืนมาและได้สู้กับคุจิกิ เบียคุยะจนสูญเสียพลังยมทูตและได้ไปฝึกกับอุรุฮารา 10 วัน จนได้พลังยมทูตกลับคืนมาและได้ดาบฟันวิญญาณใหม่ชื่อซันเงสึ (ผ่าจันทรา) แล้ว ไปช่วยลูเคียและได้ฝึกกับโยรุอิจิจนปลดปล่อยขั้นสวัสดิกะได้และได้ช่วยลูเคียได้สำเร็จ เขาสับสนกับพลังฮอลโลว์ที่อยู่ภายในตัวเอง ทำไมไม่สามารถใช้พลังต่อสู้ได้อย่างเต็มที่และเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องคนอื่นๆได้ ภายหลังการต่อสู้กับอารันคาร์แล้วได้ไปฝึกกับเหล่าไวเซิร์ด ทำให้สามารถควบคุมฮอลโลว์ในตัวเองให้สงบลงได้ และยังได้ความสามารถของฮอลโลว์มาอีกด้วย
คุจิกิ ลูเคียคุจิกิ ลูเคีย (ญี่ปุ่น
朽木ルキア Kuchiki Rukia ?)ชิคิกามิ (ยมทูต) จากโซล โซไซตี้ ที่ถูกสถานการณ์บังคับให้ถ่ายทอดพลังของตนให้กับคุโรซากิ อิจิโกะ นับจากนั้นเธอก็ใช้ร่างเทียมที่ อุร่าฮาระ ทำขึ้นและย้ายเข้าเข้าโรงเรียนเดียวกับอิจิโกะเพื่อควบคุมให้เขาทำงานของยมทูต(ชินิกามิ)แทนตน ชอบกระต่ายแชปปี้และชอบใส่เสื้อผ้าไม่รัด ในตอนเด็กนั้น เธอเป็นเพื่อนสนิทกับอาบาราอิ เร็นจิ รองหัวหน้าหน่วย 6 ของโซลโซไซตี้ แต่ไม่นานก็ถูกตระกูลคุจิกิรับเป็นน้องสาวบุญธรรม มีดาบฟันวิญญาณชื่อ โซเดะโนะ ชิรายูกิ (หิมะขาวในแขนเสื้อ) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงร่ายรำ"
ซาโดะ ยาสึโทระ
ซาโดะ "แช้ด" ยาสึโทระ (ญี่ปุ่น
茶渡泰虎 Sado Yasutora ?)
เพื่อนร่วมชั้นและเป็นเพื่อนสนิทของอิจิโกะ มีเชื้อสายอเมริกากลาง มีร่างกายกำยำแข็งแกร่ง(ตัวเหมือนเหล็กก็ว่าได้)แต่ร่างกายของเขามีไว้เพื่อปกป้องคนอื่นเท่านั้น ชอบสวมเสื้อยืดฮาวายและใส่สร้อยคอที่มีจี้เป็นเหรียญเม็กซิกัน โดยแขนขวาของเขานั้นคือแขนที่ใช้เพื่อปกป้อง ซึ่งมีวิญญาณอาบูเอโร่ ซึ่งเป็น คนเลี้ยงดูแช้ดเมื่อตอนเด็ก ๆ นั้นสิงสู่อยู่ ส่วนแขนซ้ายของเขามีพลังดิอาโบล หรือ บราโซ อิสคิเอร์ด้า เดล ดิอาโบล (แขนซ้ายแห่งจอมมาร) เพื่อการโจมตีที่ทำให้เขาโค่นอารันคาร์ได้หลายต่อหลายตัว และเขายังไปที่ โซลโซไซตี้ และฮูเอโก้ มุนโด้ กับอิจิโกะด้วย
อิชิดะ อุริวอิชิดะ อุริว (ญี่ปุ่น
石田雨竜 Ishida Uryū ?)
เพื่อนร่วมห้องของคุโรซากิ อิจิโกะ อยู่ชมรมเย็บปักถักร้อย มีฝีมือขั้นเทพ เขาเป็นควินซี่ซึ่งคนที่สอนวิชาแก่เขาคือปู่ของเขาเองซึ่งได้ถูกฆ่าตายโดยพวกฮอว์โลว์ เขาเป็น1 ในกลุ่มคนที่ไปช่วยคุจิกิ ลูเคียจากการถูกประหาร ซึ่งทำให้เขาสูญเสียพลังของควินซี่ไปจากการต่อสู่กับคุโรสึจิ มายูริ หัวหน้ายมทูตหน่วย 12 พ่อของเขา อิชิดะ ริวเค็นได้ฟื้นฟูพลังของควินซี่ให้ โดยแลกเปลี่ยนกับข้อตกลงบางอย่าง คือ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับยมทูตอีกเป็นครั้งที่ 2 แต่อิชิดะก็แอบไป ฮูเอโก้ มุนโด้ กับอิจิโกะและแช้ด และเมื่อไปถึงก็ได้ธนูใหม่ที่ชื่อ งินเรย์ โคจาคุ (เกาทัณฑ์นกกระจอกภูผาเงิน) ซึ่งยิ่งศรได้ 1,200 ดอก ต่อวินาที
อิโนอุเอะ โอริฮิเมะอิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ (ญี่ปุ่น
井上織姫 Inoue Orihime ?)
เป็นเพื่อนร่วมชั้นของอิจิโกะ มีผมสีส้ม เธอแอบชอบอิจิโกะอยู่ เธอมีพี่ชายอยู่ 1 คนแต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว พี่ชายของเธอได้กลายเป็นฮอว์โลว์และเข้ามาทำร้ายเธอ แต่เธอก็ได้ถูกช่วยไว้โดยคุโรซากิ อิจิโกะ และคุจิกิ ลูเคีย กิ๊บติดผมที่เป็นของสำคัญของเธอก็ได้มาจากพี่ชายของเธอเอง พลังของเธอคือ 6 บุปผาโล่พิทักษ์ ที่สถิตอยู่ที่กิ๊บติดผมของเธอ โดยมีฮินางิคุ ไบกอน และลิลลี่ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "ม่านพลังสามสวรรค์ ชั้นขอปฏิเสธ") ที่สามารถยับยั้งภายนอกโล่ (สร้างกำแพงป้องกัน) ซึบากิ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "โล่พิฆาต สวรรค์เดี่ยว ชั้นขอปฏิเสธ") มีความสามารถในการ ยับยั้งสองฟากข้างโล่ (ผ่าศัตรูเป็นสองซีก) ชุนโอ (หัวหน้าหกบุปผาโล่พิทักษ์) และอายาเมะ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "ม่านสวรรค์คู่คืนสู่โล่ ชั้นขอปฏิเสธ") มีความสามารถคือ ยับยั้งภายในโล่ หรือก็คือ "ปฏิเสธเหตุการณ์" เธอสามารถปฏิเสธเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไอเซ็นต้องการพลังของเธอ จึงใช้อุลคิโอร่าไปจับตัวเธอมา ปัจจุบันอยู่ในปราสาทของพวกอารันคาร์ในฮูเอโก้ มุนโด้อาบาราอิ เร็นจิ (ญี่ปุ่น
阿散井恋次 Abarai Renji ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 6 แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์ในโซลโซไซตี้ แม้ว่าในตอนแรกจะปรากฏตัวในฐานะศัตรูกันก็ตาม แต่ในที่สุดก็เป็นเพื่อนกับพวกอิจิโกะในที่สุด จึงทำให้ตอนหลังมักจะถูกส่งตัวมาปฏิบัติงานที่โลกมนุษย์พร้อมกับลูเคียเสมอ โดยหัวหน้าหน่วยของเขา คือ คุจิกิ เบียคุยะ โดยเร็นจิมีเป้าหมายที่จะโค่นเบียคุยะให้ได้อุราฮาระ คิสึเกะ
อดีตหัวหน้าหน่วยที่12 มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือพวกอิจิโกะและคอยฝึกวิชาให้อิจิโกะ ในตัวเขานั้นยังมีปริศนาอีกมากมาย และตัวเขาเองนั้นน่าจะรู้จักกับอิชิดะ ริวเค็น,คุโรซากิ อิชชินเป็นอย่างดีแน่นอน แล้วตัวเขานั้นได้มาช่วยเหลือพวกอิจิโกะต่อสู้กับอารันคาร์โดยได้เข้าต่อสู้กับยามี่อาร์รันคาร์ระดับเอสปาด้าอันดับ10ก็เกือบเอาชนะได้แต่อุลคิโอร่ามาขวางไว้ก่อน
[แก้] โลกมนุษย์
[แก้] ครอบครัวคุโรซากิคุโรซากิ อิชชิน (ญี่ปุ่น
黒崎一心 Kurosaki Isshin ?)
พ่อบ้าๆบอๆของอิจิโกะ เป็นหมอ ปกติแม้จะดูพึ่งพาไม่ค่อยได้ แต่แท้จริงแล้วเป็นอดีตยมทูตระดับหัวหน้าหน่วยที่มีฝีมือแข็งแกร่งคนหนึ่งดาบฟันวิญญาณยังไม่ปรากฏ ดูเหมือนว่าจะรู้จักกับ อิชิดะ ริวเค็น และ อุราฮาร่า คิสึเกะ เป็นอย่างดี
คุโรซากิ มาซากิ (ญี่ปุ่น
黒崎真咲 Kurosaki Masaki ?)
แม่ของอิจิโกะซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว โดยฝีมือของฮอลโลว์ แกรนด์ฟิชเชอร์
คุโรซากิ ยูซึ (ญี่ปุ่น
黒崎遊子 Kurosaki Yuzu ?)
น้องสาวของอิจิโกะ มีความสามารถในการปฐมพยาบาลได้ และเป็นคนที่ตั้งชื่อให้กอนเป็นบอสตาฟแทน เป็นแฟนตัวยงของ ดอน คันออนจิ มีพลังวิญญาณเล็กน้อย
คุโรซากิ คาริน (ญี่ปุ่น
黒崎夏梨 Kurosaki Karin ?)
น้องสาวของอิจิโกะ มีนิสัยห้าวๆเหมือนเด็กผู้ชาย นอกจากนี้ยังมีพลังในการเตะบอลสูง และชอบหาเรื่องคนอื่น แต่จริงๆแล้วก็เป็นคนที่อ่อนโยนคนนึง มีท่าไม้ตายคือ "ชู้ตปลิดชีพ สำนักคาริน" มีพลังวิญญาณมหาศาลในระดับเดียวกับอิจิโกะจึงทำให้คารินเห็นอิจิโกะในร่างยมทูตและภายหลังก็แน่ใจว่าพี่ชายตนเป็นยมทูต
[แก้] ร้านอุราฮาร่าอุราฮาร่า คิสึเกะ (ญี่ปุ่น
浦原喜助 Urahara Kisuke ?)
ชายหนุ่มวัยกลางคนเจ้าของร้านขายของอุราฮาร่า แรกเริ่มเดิมทีเหมือนว่าเขาเป็นเพียงตัวกลางของโซลโซไซตี้ที่มาอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์เท่านั้น แต่ภายหลังเราจะได้รับทราบว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นถึงอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 12 ของโซลโซไซตี้ ที่ถูกเนรเทศออกมาตลอดกาลเพราะสร้างโฮเคียคุขึ้นมา นอกจากนี้แล้วเขายังมีความลับอีกมากมายแต่ก็มีบางอย่างที่แน่ชัดก็คือ ฝีมือดาบของอุราฮาร่านั้นดีสมราคาหัวหน้าหน่วยเลยทีเดียว เขานั้นสนิทกับชิโฮอิน โยรุอิจิ และมีความสามารถทางด้านวิทยาการ(แบบโซลโซไซตี้)อยู่ในระดับสูง เคยรู้จักกับคุโรซากิ อิชชินกับอิชิดะ ริวเคน ผู้เป็นพ่อของอุริวมาก่อน
สึคาบิชิ เท็ตไซ (ญี่ปุ่น
握菱テッサイ Tsukabishi Tessai ?)
ชายวัยกลางคนผู้มีเอกลักษณ์ชอบผูกผ้ากันเปื้อนตลอดเวลา ทำงานอยู่ในร้านของคิสึเกะ มีความสามารถในการใช้วิถีมารได้หลากหลาย และคอยช่วยอุราฮาร่าในการฝึกเหล่าอิจิโกะและเพื่อนอยู่เสมอ
ในสมัยก่อน สึคาบิชิ เท็ตไซ เคยเป็นหัวหน้าหน่วยของสมาคมวิถีมาร โดยมี อุโชดะ ฮาจิเง็น(หรือฮัตช์ หนึ่งในไวเซิร์ด) เป็นรองหัวหน้าหน่วยวิถีมารอยู่ในขณะนั้น
สึมุงิยะ อุรูรุ (ญี่ปุ่น
紬屋雨 Tsumugiya Ururu ?)
เด็กสาวที่ทำงานอยู่ในร้านของคิสึเกะ มักถูกจินตะแกล้งประจำ ทั้งๆที่แก่กว่าจินตะ 3 ปี มีความรู้สึกไวต่อฮอลโลว์สูง และสามารถต่อสู้กับยมทูตได้โดยไม่ต้องมีอาวุธ มีอาวุธประจำกายคือ ปืนใหญ่ และยังเป็นฮีโร่ในนาม "คาราคุระ พิงค์" อีกด้วย
ฮานาคาริ จินตะ (ญี่ปุ่น
花刈ジン太 Hanakari Jinta ?)
เด็กชายที่ชอบอู้งานในร้านของคิสึเกะ มักชอบแกล้งอุรุรุเสมอ มีท่าไม้ตายคือ จิตะโฮมรัน และเป็นฮีโร่ในนาม "คาราคุระ เรด" ร่วมกับคารินอีกด้วยชิโฮอิน โยรุอิจิ (ญี่ปุ่น
四楓院夜一 Shihōin Yoruichi ?)
หญิงสาวผู้ได้รับสมญานาม "เท็นชิ เฮย์ โซบัง" เจ้าหญิงแห่งตระกูลชิโฮอิน และ "เทพพริบตาโยรุอิจิ" เธอเป็นผู้นำตระกูลชิโฮอิน 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูง และยังเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่ 2 รวมถึงหน่วยลงทัณฑ์ของโซลโซไซตี้ ภายหลังถูกถอดถอนเนื่องจากช่วยอุราฮาร่า คิสึเกะหลบหนี ปัจจุบันใช้ร่างแมวสีดำเพื่ออำพรางร่างที่แท้จริง
[แก้] โรงเรียนคาราคุระ
อะริซาว่า ทัตสึกิอาริซาว่า ทัตสึกิ (ญี่ปุ่น
有沢竜貴 Arisawa Tatsuki ?)
เพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสมัยเด็กของอิจิโกะ และกลายเป็นเพื่อนสนิทของโอริฮิเมะสมัยมัธยมต้น มีลักษณะห้าวคล้ายเด็กผู้ชาย มีความสามารถทางการต่อสู้และวาดรูปสูง ว่ากันว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
อาซาโนะ เคโงะ (ญี่ปุ่น
浅野啓吾 Asano Keigo ?)
เพื่อนของอิจิโกะที่ชอบทำตัวบ้าๆบอๆ มีพี่สาวโระ
โคจิมะ มิซึอิโระ(ญี่ปุ่น
小島水色 Kojima Mizuiro ?)
เด็กหนุ่มที่เป็นเพื่อนสนิทของเคโงะ(เป็นคู่หูก็ว่าได้)ชนะเคย์โงะทุกเรื่อง(ยกเว้นความนิยมตัวละครครั้งที่2) งานอดิเรกคือหลีหญิงที่โตกว่า แอบคิดว่าอิจิโกะกับลูเคียเป็นแฟนกัน ชอบใช้มือถือเป็นกิจวัตร มีความเชื่อว่าจะสามารถติดต่อโลกอีกโลกนึงไดนชอบโอริฮิเมะ นิสัยทะเล้นทะลึ่งตึงตัง ชอบทะเลาะกับทัตสึกิเป็นประจำ
โองาวะ มิจิรุ (ญี่ปุ่น
小川みちる Ogawa Michiru ?)
สาวตัวเล็กแอบชอบอิชิดะ มักขอให้อิชิดะเย็บตุ๊กตาให้เสมอๆ
คุนิเอดะ เรียว
เป็นนักวิ่งกรีฑาระยะ100เมตร เธอสามารถสอบเข้าโรงเรียนคาราคุระเป็นอันดับ 1 จึงทำให้อาจารย์หลายคนไม่กล้าหือกับเธอเท่าไรนัก
โอชิมะ เรอิจิ (ญี่ปุ่น
大島麗一 浅野みづ穂 Asano Mizuho ?)
อาจารย์คางิเนะ (ญี่ปุ่น: 鍵根先生 Kagine Sensei ?)
โอจิ มิซาโตะ (ญี่ปุ่น
越智美諭 Ochi Misato ?)
อาจารย์สาวใส่แว่น เป็นคนง่ายๆสบายๆ แม้แต่นักเรียนโดดเรียนยังเช็คชื่อให้ตลอด โอ้ว สุดยอดอาจารย์
[แก้] โซลโซไซตี้
[แก้] 13 หน่วยพิทักษ์
[แก้] หน่วยที่ 1ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ (ญี่ปุ่น
山本元柳斎重國 Yamamoto-Genryūsai Shigekuni ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 1 และเป็นหัวหน้าใหญ่ผู้ควบคุม 13 หน่วยพิทักษ์ในเวลาเดียวกัน คำปลดปล่อยขั้นต้นของดาบฟันวิญญาณคือ "จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน ริวจินจักกะ" (วิถีเพลิงชำระ) โดยจะมีความสามารถเปลี่ยนดาบเป็นพลังไฟความร้อนสูง เป็นดาบฟันวิญญาณสายเพลิงที่เก่าแก่ และ ทรงอานุภาพมากที่สุดในโซลโซไซตี้ซาซาคิเบะ โชจิโร่ (ญี่ปุ่น
雀部長次郎 Sasakibe Chōjirō ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 1 เป็นชายผมสีเงิน สุขุม พูดน้อย มีดาบฟันวิญญาณชื่อ กอนเรียวมารุ (วิญญาณร้าย) คำปลดปล่อยคือ "จงทะลวง"
[แก้] หน่วยที่ 2
อดีตหัวหน้าหน่วย : ชิโฮอิน โยรุอิจิ (ญี่ปุ่น
四楓院夜一 Shihōin Yoruichi ?)
เป็นผู้นำตระกูลชิโฮอิน ขณะนั้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 2 ควบกับหัวหน้าหน่วยลับและหน่วยปราบปราม แต่ถูกปลดออกเนื่องจากช่วยอุราฮาร่า คิสึเกะหลบหนี ปัจจุบันอาศัยอยู่ในร้านอุราฮาร่า และแฝงตัวอยู่ในร่างแมว
บางทีก็ติดต่อกับซุยฟงเพื่อสืบหาเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นในโลกมนุษย์ (ภาค The Movie)ซุยฟง (ญี่ปุ่น
砕蜂 Soifong หรือ Sùifēng ในภาษาจีนกลาง ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 2 แห่ง "13 หน่วยพิทักษ์" และยังควบตำแหน่งผู้บัญชาการของ "หน่วยปราบปราม" แห่ง "หน่วยลับ" ในอดีตเคยเป็นลูกน้องของ ชิโฮอิน โยรุอิจิ เมื่อที่โยรุอิจิยังเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 2 ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "ซึซึเมะบาจิ (ตัวต่อ)" คำปลดปล่อยดาบคือ "จงไล่ล่าเสียบสังหาร" มีท่าดาบคือ "โฮมงกะ (บุปผาลายผึ้ง)" ซึ่งสามารถสร้างตรา ได้ที่ตำแหน่งของศัตรูที่ถูกซึซึเมะบาจิฟัน และถ้าฟันจุดเดิมซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ก็จะทำให้ศัตรูตายในทันที ปลอดปล่อยสวัสดิกะคือ "จาคุโฮไรโคเบ็น(คฑาตัวต่อสายฟ้า)" ซึ่งดูแล้วคล้ายเข็มเล่มโตมากกว่าจะเป็นดาบ ส่วนของดาบที่ติดกับแขนและไหล่นั้นขึ้นรูปเป็นลักษณะคล้ายโล่หรือเกราะ สำหรับบังหน้า ซึ่งเจ้าตัวนั้นก็ไม่ค่อยจะชอบปลดปล่อยสวัสดิกะของตัวเองซักเท่าไหร่เพราะปลดปล่อยสวัสดิกะนี่น่ะมันค้านกับความภาคภูมิใจในฐานะนักลอบสังหารอย่างที่สุดเลย ทั้งขนาดที่ใหญ่โตจนเก็บซ่อนไม่ได้ ทั้งน้ำหนักที่มากเกินกว่าจะใช้พลางเคลื่อนไหวรวดเร็วไปพลาง มันโดดเด่นจนเกินกว่าจะเรียกว่า 'ลอบสังหาร' ได้โอมาเอดะ มาเระจิโยะ (ญี่ปุ่น
大前田希千代 Ōmaeda Marechiyo ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 2 มีร่างกายอ้วนล่ำใหญ่โต ไว้ผมทรงแห้ว และชอบกินขนมกรุบกรอบ มีดาบฟันวิญญาณชื่อ เกะเกะซึบุริ (ห้าหัว) คำปลดปล่อยคือ "จงบดขยี้"
[แก้] หน่วยที่ 3
อดีตหัวหน้าหน่วย : โรส (ญี่ปุ่น
ローズ Rōzu ?)
โรส หรือ ชื่อจริง โอโทริบาชิ โรจูโร่ เป็นอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 3 โดยเขาได้เป็นหัวหน้าหน่วยก่อนอุราฮาระ คิสึเกะเพียง 1 ปีเท่านั้น เขามีรูปร่างสูงใหญ่ ผมบลอนด์และหยักศก คำปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณ "จงบรรเลง" ชื่อดาบฟันวิญญาณ "คินซาระ (ดอกสาละ)"
อดีตหัวหน้าหน่วย : อิชิมารุ งิน (ญี่ปุ่น
市丸ギン Ichimaru Gin ?)
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 3 และอดีตรองหัวหน้าหน่วยที่ 5 ในอดีต เป็นชายตาตี่ขี้เล่นยิ้มตลอด สนิทกับรันงิคุในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก อตีดเป็นรองหัวหน้าของไอเซ็น และปัจจุบันได้เข้าร่วมกับไอเซ็น ดาบฟันวิญญาณของเขาคือ "ชินโซ (หอกเทวะ)" ซึ่งตามปกติจะเป็นดาบสั้นแต่เมื่อเขาปลดปล่อยดาบขั้นต้นแล้วจะตัวดาบจะพุ่งเข้าหาศัตรูอย่างรวดเร็วราวกับยิงออกไป จึงเหมาะสมกับคำปลดปล่อยของเขาที่ "จงพุ่งสังหาร" ยิ่งนัก เป็นที่น่าสังเกตคือ
เวลาปลดปล่อยดาบ งินจะลืมตาทุกครั้ง ทั้งที่ปกติแล้วจะหลับตาอยู่เสมอ
อดีตหัวหน้าอามางาอิ ชูสึเกะ (ญี่ปุ่น
天貝繍助 Amagai Shūsuke ?) เป็นหัวหน้าหน่วยที่ 3 คนปัจจุบันแทนอิชิมารุ งินที่ได้เข้าร่วมกับไอเซ็น อามาไกเป็นตัวละครพิเศษที่ปรากฏตัวเฉพาะในอะนิเมะเท่านั้น ลักษณะภายนอกเป็นชายที่ดูซกมกแต่ก็เป็นคนร่าเริงแจ่มใสและไม่ถือตัว เพราะอามาไกเป็นยมทูตที่ใช้เวลาส่วนใหญ่คอยตรวจตราอยู่บริเวณที่ห่างไกลจากโซลโซไซตี้ ในช่วงแรกยมทูตในหน่วยที่ 3 ไม่ค่อยไว้ใจเขาเท่าไหร่นัก ตอนที่เขาแนะนำตัวในที่ทำการหน่วยทุกหน่วย ในอะนิเมะได้ดำเนินเรื่องในส่วนของอามาไกอย่างรวดเร็ว เขามีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เขาเข้ามาเป็นยมทูตใน 13 หน่วยพิทักษ์เพื่อแก้แค้นหัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะที่ฆ่าพ่อของเขาและเก็บไว้เป็นความลับ หลังจากผู้สมรู้ร่วมคิดของเขาถูกฆ่าตาย อามาไกได้ต่อสู้กับหัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะจนกระทั่งถูกอิจิโกะปราบลงและได้รับรู้เรื่องราวที่แท้จริงเกี่ยวกับการตายของพ่อตัวเอง และเขาได้ชดเชยความผิดที่เขาได้กระทำขึ้นมา
ดาบฟันวิญญาณของอามาไกมีชื่อว่า "ไรคะ" (ญี่ปุ่น: 雷火 Raika ?) โดยกล่าวคำปลดปล่อยขั้นต้นว่า "จงตัด" (ญี่ปุ่น: たちきれ tachikire ?) มีลักษณะเป็นดาบฟันวิญญาณยาวสีขาวทั้งเล่ม คมดาบเป็นรูปโค้งคล้ายกับขลุ่ย คมดาบจะส่องแสงเปลวไฟและเกิดความร้อนขึ้น สามารถปลดปล่อยลูกไฟบนพื้นดิน และผ่าไฟเป็นรอยแยกเพื่อโจมตีศัตรู บังไค มีลักษณะเป็นโล่ ขนาดใหญ่คิระ อิซึรุ (ญี่ปุ่น
吉良イヅル Kira Izuru ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 3 เพื่อนร่วมรุ่นของ อาบาราอิ เร็นจิ และ ฮินาโมริ โมโมะ ดูเหมือนจะแอบชอบฮินาโมริอยู่เขาคอยติดตามงิน เพื่อที่จะปกป้องไม่ให้ฮินาโมริเป็นอันตรายแต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล ดาบฟันวิญญาณของเขามีชื่อว่า "วาบิซึเกะ (ขออภัยโทษ)" มีความสามารถในการเพิ่มน้ำหนักของสิ่งที่โดนฟันได้ครั้งละสองเท่า (ตัวอย่าง: 2->4->8->16...) ส่วนคำปลดปล่อยขั้นต้นของเขาคือ "จงเชิดหน้าขึ้น"
[แก้] หน่วยที่ 4อุโนฮานะ เร็ตสึ (ญี่ปุ่น
卯ノ花烈 Unohana Retsu ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 4 ซึ่งเป็นหน่วยรักษาพยาบาล เธอเป็นหัวหน้าที่สงบเรียบร้อยและมากไปด้วยความสามารถ (แต่หากเธอจะโหดเมื่อไหร่ก็สามารถข่มได้แม้กระทั่งหน่วย 11) ดาบของเธอมีชื่อว่า "มินาซึกิ" ถึงแม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดใดๆมากนักแต่เมื่อเธอปลดปล่อยดาบขั้นต้น ดาบจะแปลงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายปลากระเบนยักษ์ที่สามารถบินได้ และสามารถรักษาบาดแผลของคนอื่นได้โดยการกลืนคนผู้นั้นเข้าไปในท้องโคเท็ตสึ อิซาเนะ (ญี่ปุ่น
虎徹勇音 Kotetsu Isane ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 4 เป็นพี่สาวของ โคเท็ตสึ คิโยเนะ นักสู้ลำดับที่ 3 ของหน่วยที่ 13 มีความเชี่ยวชาญด้านวิถีมารเพื่อการสื่อสารภายในโซลโซไซตี้ อิซาเนะเป็นคนที่มีร่างกายสูงใหญ่ แต่มักจะซุ่มซ่ามทำของตกบ่อย และยังชอบฝันร้ายเป็นประจำ ดาบของเธอมีชื่อว่า "อิเทะกุโมะ" เมื่อทำการปลดปล่อยดาบจะมีลักษณะเป็นกิ่งก้าน
อิเอมูระ ยาโซจิกะ (ญี่ปุ่น
伊江村八十千和 Iemura Yasochika ?)
นักสู้อันดับ 3 ของหน่วยที่ 4 เป็นชายร่างสูง สวมแว่นหน้า คอยสั่งการในสถานพยาบาลช่วงที่หัวหน้าและรองหัวหน้าไม่อยู่ยามาดะ ฮานาทาโร่ (ญี่ปุ่น
山田花太郎 Yamada Hanatarō ?)
นักสู้อันดับ 7 ของหน่วยที่ 4 เป็นยมทูตตัวเล็ก ท่าทางเซ่อๆซ่าๆ มักถูกคนในหน่วยหลอกเป็นประจำ มีดาบฟันวิญญาณที่สามารถรักษาบาดแผลได้
โองิโด ฮารุโนบุ (ญี่ปุ่น
荻堂春信 Ogidō Harunobu ?)
ลำดับที่8ของหน่วย4ชอบกวนประสาทลำดับ3อิมูเอระเป็นอย่างมาก
[แก้] หน่วยที่ 5
อดีตหัวหน้าหน่วย : ฮิราโกะ ชินจิ (ญี่ปุ่น
平子真子 Hirako Shinji ?)
อดีตหัวหน้าหน่วย 5 ขณะนั้นไว้ผมยาว ดูไม่ค่อยเอาการเอางานเท่าที่ควร สนิทกับฮิโยริซึ่งขณะนั้นเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 12 มาก่อน และเป็นคนที่คอยสังเกตการอุราฮาร่าขณะที่เขาได้เลื่อนเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 12 ช่วงแรก เป็นไวเซิร์ดที่มาชวนอิจิโกะให้ฝึกพลังฮอลโลว์ในตัว
อดีตหัวหน้าหน่วย : ไอเซ็น โซสึเกะ (ญี่ปุ่น
藍染惣右介 Aizen Sōsuke ?)
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 5 ดาบของเขาชื่อ"เคียวขะซุยเงสึ" (กระจก บุปผา จันทรา วารี) ซึ่งมีพลังในการสะกดโดยสมบูรณ์ เขาได้ใช้พลังของดาบสะกดให้เห็นว่าตนถูกฆ่าตาย เขาเป็นตัวการที่แท้จริงของเหตุการณ์บุก โซลโซไซตี้ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทุกอย่าง แท้จริงแล้วเป้าหมายของเขาคือ "โฮเคียคุ" ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของคุจิกิ ลูเคีย เขาเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฮอว์โลว์กลายเป็นอารันคาร์ได้โดยใช้โฮเคียคุ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าของเหล่าอารันคาร์
ในอดีตเขาเคยเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 5 มาก่อน ขณะนั้นฮิราโกะเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 5 อยู่ โดยไอเซ็นสงสัยในตัวของคิสึเกะมากที่สุดฮินาโมริ โมโมะ (ญี่ปุ่น
雛森 桃 Hinamori Momo ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 5 ฮินาโมริเป็นคนที่ใช้วิถีมารเก่งมากและยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับฮิซึกายะ โทชิโร่ หัวหน้าหน่วยที่ 10 ด้วย ฮินาโมริเคยถูกไอเซ็นช่วยชีวิตจากฮอลโลว์เมื่อยังเป็นนักเรียนในเซย์เรย์เทย์อยู่ ตั้งแต่นั้นเธอจึงรักและนับถือไอเซ็นมาก และตั้งมั่นว่าถ้าได้เป็นยมทูตเมื่อใดเธอจะเข้าสังกัดหน่วยที่ 5 ให้ได้
[แก้] หน่วยที่ 6
อดีตหัวหน้าหน่วย : คุจิกิ งินเรย์ (ญี่ปุ่น
朽木銀嶺 Kuchiki Ginrei ?)
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 6 เป็นปู่ของเบียคุยะ และเป็นหัวหน้าตระกูลคุจิกิในขณะนั้น คอยขัดเกลาเบียคุยะให้เป็นผู้นำตระกูลคุจิกิมาตั้งแต่ยังเล็กคุจิกิ เบียคุยะ (ญี่ปุ่น
朽木白哉 Kuchiki Byakuya ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 6 เป็นหัวหน้าตระกูล "คุจิกิ" 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูง และว่ากันว่าเบียคุยะนั้นมีฝีมือเก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลคุจิกิอันยาวนาน ดาบฟันวิญญาณของเขาคือ "เซมบง ซากุระ(ซากุระพันกลีบ)" มีคำปลดปล่อยขั้นต้นคือ "จงโปรยปราย" เมื่อปลดปล่อยขั้นต้นแล้วใบดาบของดาบจะหายไปกลายเป็นใบมีดเล็กๆนับพันที่สามารถฟันศัตรูให้เป็นชิ้นๆได้อย่างรวดเร็ว และแสงของใบมีดนี้จะเปล่งประกายระยิบระยับราวกับกลีบซากุระ ส่วนชื่อของปลดปล่อยสวัสดิกะคือ "เซมบง ซากุระ คาเงโยชิ" (เงาหาญซากุระพันกลีบ)เซมบงซากุระคาเงโยชิมีรูปร่างที่จริงมีชื่อว่า "เซ็นเคย์ เซมบงซากุระคาเงโยชิ มีรูปร่างเป็นดาบพันเล่มล้อมรอบศัตรู เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสังหาร
ในสมัยก่อนหน่วยที่ 6 มี คุจิกิ งินเรย์ (ซึ่งเป็นปู่ของคุจิกิ เบียคุยะ) เป็นหัวหน้าหน่วย 6 อยู่ในขณะนั้นอาบาราอิ เร็นจิ (ญี่ปุ่น
阿散井恋次 Abarai Renji ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 6 เจ้าของผมแดง แว่นตาราคาแพง (ว่ากันว่าแว่นของเจ้าตัวนั้นมีราคาเท่ากับเงินเดือนครึ่งปีรวมกัน) และรอยสักบนหน้าผากกับลำตัวว่ากันว่าได้มาตอนที่เข้ามาเป็นยมทูต เขาเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ ฮินาโมริ โมโมะ และ คิระ อิซึรุ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนเก่าของ คุจิกิ ลูเคีย มาตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้เข้ามาศึกษาในเซย์เรย์เทย์ ดาบฟันวิญญาณของเขาคือ "ซาบิมารุ" คำปลดปล่อยคือ"จงคำราม" ชื่อของปลดปล่อยสวัสดิกะคือ "ฮีฮีโอ ซาบิมารุ" (ราชันย์บาบูน)
ชิโรงาเนะ มิฮาเนะ (ญี่ปุ่น
銀美羽 Shirogane Mihane ?)
ริคิจิ (ญี่ปุ่น
理吉 Rikichi ?)
ยมทูตในหน่วยที่ 6 ที่ผมมีสายไฟห้อยอยู่ โดยริคิจิเป็นยมทูตเพราะชื่นชมในตัวเร็นจิเป็นอย่างมาก
[แก้] หน่วยที่ 7
อดีตหัวหน้าหน่วย : ไอกาว่า เลิฟ (ญี่ปุ่น
愛川羅武 Aigawa Love ?)
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 7 ในขณะนั้น ไว้ผมทรงแอฟโฟร่ ชอบอ่านการ์ตูนของโชเน็นจั๊มป์ เป็นเพื่อนสนิทของโรสซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 3 ชื่อดาบฟันวิญญาณ "เท็นงูมาระ" คำปลดปล่อยดาบ "จงทุบให้แหลก"โคมามูระ ซาจิน (ญี่ปุ่น
狛村左陣 Komamura Sajin ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 7 ปกติมักจะสวมหมวกปิดบังใบหน้าไว้เสมอ เนื่องจากมีใบหน้าเป็นหมาป่า อดีตเคยเป็นเพื่อนรักกับโทเซ็น คานาเมะ หัวหน้าหน่วยที่ 9 มีดาบฟันวิญญาณ ชื่อ"เท็นเค็น"(เชือกดำ) คำปลดปล่อย "จงกู่ร้อง" ส่วนปลดปล่อยสวัสดิกะชื่อ "โคคุโจเท็นเค็นเมียวโอ"(อนึ่ง ตัว โคคุโจ ในชื่อปลดปล่อยสวัสดิกะของโคมามุระนั้นเป็นชื่อของนรกใหญ่หนึ่งใน 8 ขุมนรก ชื่อว่า กาฬสุตตนรก โดยเป็นนรกที่ลงโทษสัตว์นรกด้วยการจับมัดไว้ด้วยด้ายดำ แล้วใช้มีดผ่าสับร่างเป็นท่อนๆ)
ในสมัยก่อนหน่วยที่ 7 มี ไอคาว่า เลิฟ(1ในไวเซิร์ด) เป็นหัวหน้าหน่วย 7 อยู่ในขณะนั้นอิบะ เท็ตซึซาเอมอน (ญี่ปุ่น
射場鉄左衛門 Iba Tetsuzaemon ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 7 อดีตเคยสังกัดอยู่หน่วยที่ 11 ก่อนมาเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 7 มีความทะเยอทะยานฝึกฝนตนเองเพื่อให้เป็นรองหัวหน้าเสมอ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ละทิ้งสไตล์การต่อสู้ของตัวเอง
อิคคังซากะ จิโรโบ (ญี่ปุ่น
一貫坂慈楼坊 Ikkanzaka Jirōbō ?)
ได้รับฉายาว่า "เคียวสายลม" เป็นผู้ใช้อาวุธบินเก่งสุดในโซโซลไซตี้ ชื่อของดาบฟันวิญญาณของเขาคือ ซันซาคิการาซึ(อีกาทะลวง) คำปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณคือ "จงกระพือปีก"
[แก้] หน่วยที่ 8เคียวราคุ ชุนซุย (ญี่ปุ่น
京楽春水 Kyōraku Shunsui ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 8 เป็นคนเจ้าชู้มาก แถมยังชอบใส่เสื้อผ้าสีสันบาดตาบาดใจ แต่ก็เป็นคนที่มีฝีมือสูงมากคนนึง มีดาบฟันวิญญาณชื่อ "กะเท็นเคียวคตสึ"(บุบผาสวรรค์กระดูกทมิฬ)"คำปลดปล่อย"วายุบุปผาปั่นป่วน เทพบุปผาร่ำร้อง ส่วนปลดปล่อยสวัสดิกะนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด
ในสมัยก่อนหน่วยที่ 8 มี ยาโดมารุ ริสะ (1 ในไวเซิร์ด) เป็นรองหัวหน้าหน่วย 8 อยู่ในขณะนั้น
อดีตรองหัวหน้าหน่วย : ยาโดมารุ ริสะ (ญี่ปุ่น
矢胴丸リサ Yadōmaru Risa ?)
เป็นรองหัวหน้าที่ 8 ขณะนั้น มีนิสัยเงียบขรึม ใส่ชุดยมทูตกระโปรงสั้นเหมือนชุดนักเรียน มีประสบการณ์ในการต่อสู้ขึ้นสูง ได้เข้าไปสืบหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ยมทูตหน่วยที่ 9 หายไปอย่างไร้ร่องรอยอิเสะ นานาโอะ (ญี่ปุ่น
伊勢七緒 Ise Nanao ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 8 เป็นรองหัวหน้าที่เป็นคนคุมหัวหน้าซะงั้น ความเก่งก็อยู่ในขั้นสูงไม่เบา
เอ็นโจจิ ทัตสึฟุสะ (ญี่ปุ่น
円乗寺辰房 Enjōji Tatsufusa ?)
นักสู้ลำดับ 3 ของหน่วยที่ 8 ถูกแช้ดโจมตีขณะที่กำลังผ่านที่ทำการหน่วยที่ 8 ในตอนที่มาช่วยคุจิกิ ลูเคีย
[แก้] หน่วยที่ 9โทเซ็น คานาเมะ (ญี่ปุ่น
東仙 要 Tōsen Kaname ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 9 ตาบอด อดีตเคยมีหญิงสาวที่หลงรักอยู่แต่หญิงสาวคนนั้นถูกฆ่าโดยสามีของหล่อนเอง เขาเป็นคนที่รักความยุติธรรมมาก ปัจจุบันไปเข้าร่วมกับไอเซ็น ชื่อดาบฟันวิญญานคือ ซึซึมูชิ (จิ้งหรีด)คำปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณคือ "จงส่งเสียง" ปลดปล่อยสวัสดิกะคือ ซึซึมุชิ เอ็นม่าโคโรงิ สร้างขอบเขตจำเพาะเพื่อตัดประสาทการรับรู้ทั้ง 4 ของคู่ต่อสู้ได้ แต่หากสัมผัสถูกตัวโทเซ็นจึงจะได้รับประสาทการรับรู้กลับคืนมา
ในสมัยก่อนหน่วยที่ 9 มี มุกุรุม่า เค็นเซย์(1ในไวเซิร์ด) เป็นหัวหน้าหน่วย 9 และมีคุนะ มาชิโระ(1ในไวเซิร์ด) เป็นรองหัวหน้าหน่วย 9 อยู่ในขณะนั้นฮิซากิ ชูเฮย์ (ญี่ปุ่น
檜佐木修兵 Hisagi Shūhei ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 9 ให้ความนับถือโทเซ็น คานาเมะมาก เคยสอบเข้าโรงเรียนยมทูตถึง 2 ครั้ง จึงสามารถเข้าเรียนได้ เขาเป็นรุ่นพี่ของอาบาราอิ เร็นจิ, คิระ อิซึรุ และฮินาโมริ โมโมะ สมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนยมทูตนั้น ฮิซากิ คือรุ่นพี่ปี 6 คนเดียวที่รอดจากการไปอบรมรุ่นน้อง (คนอื่นถูกฮอลโลว์ฆ่าตาย) ซึ่งฮิซากิ และรุ่นน้องทั้งสาม คือ เร็นจิ, คิระ และฮินาโมริ ได้รับการช่วยเหลือจากไอเซ็น โซสึเกะ (อดีต) หัวหน้าหน่วยที่ 5 และอิชิมารุ งิน รองหัวหน้าหน่วยที่ 5 ในเวลานั้น ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ คาเซะชินิ คำปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณคือ "จงสะบั้น"
อุเมซาดะ โทชิโมริ (ญี่ปุ่น
梅定敏盛 Umesada Toshimori ?)
[แก้] หน่วยที่ 10ฮิตสึกายะ โทชิโร่ (ญี่ปุ่น
日番谷冬獅郎 Hitsugaya Tōshirō ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 10 เป็นเด็กอัจฉริยะ มีความสามารถด้านการใช้ดาบสูงพอๆ กับผู้ใหญ่คำปลดปล่อยคือ "จงสถิตเหนือฟ้าเหมันต์" ดาบคือเฮียวรินมารุ ซึ่งเป็นดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในสายน้ำแข็ง เป็นเพื่อนสมัยเด็กของฮินาโมริ โมโมะ ชื่อของการปลดปล่อยสวัสดิกะของฮิตสึกายะคือ "ไดงูเร็น เฮียวรินมารุ (วงแหวนน้ำแข็งดอกบัวโลหิต)"มัตสึโมโตะ รันงิคุ (ญี่ปุ่น
松本乱菊 Matsumoto Rangiku ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 10 เพื่อนสมัยเด็กของอิชิมารุ งิน เคยถูกอิชิมารุช่วยไว้จากการเป็นลม และอิชิมารุยังได้ตั้งให้ "วันที่ได้เจอกันครั้งแรก" เป็นวันเกิดของรันงิคุด้วย มีดาบฟันวิญญานชื่อ "ไฮเนโกะ (แมวขี้เถ้า)" คำปลดปล่อย "จงครํ่าครวญ" ถึงแม้ว่าจะมีหัวหน้าหน่วยอายุน้อยกว่าตัวเองแต่ก็ให้ความเคารพหัวหน้าเป็นอย่างดี
ทาเคโซเอะ โคคิจิโร่ (ญี่ปุ่น
竹添幸吉郎 Takezoe Kōkichirō ?)
[แก้] หน่วยที่ 11ซาราคิ เคมปาจิ (ญี่ปุ่น
更木剣八 Zaraki Kenpachi ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 11 ที่ชอบการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ เป็นหัวหน้าหน่วยเพียงคนเดียว ใน 13 หน่วยพิทักษ์ที่ปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณไม่ได้ ทั้งขั้นต้น และสวัสดิกะ เนื่องจากไม่รู้ชื่อดาบฟันวิญญาณของตัวเอง(ที่จำไม่ได้เพราะเวลาที่สู้ไม่เคยทำไห้เคมปาจิต้องปลดปล่อยดาบ) หลังจากการต่อสู้กับอิจิโกะ มีอยู่ฉากหนึ่งที่ซาราคิ ถามชื่อดาบของตัวเองและหมดสติไป เป็นไปได้ว่าอาจจะถูกดาบฟันวิญญาณ เรียกไปสนทนาด้วย แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ชื่อดาบ และยังปล่ดปล่อยไม่ได้) คลั่งไคล้การต่อสู้ ใช้แต่ฝีมือของตนเองเท่านั้น ไม่พึ่งพาดาบฟันวิญญาณเลย เขาเคยพูดกับอิจิโกะว่า "เลือดแล้วเนื้อที่ถูกฟัดมันเป็นแค่การเสียสละเพื่อจะได้สนุกกับการฆ่ากันเท่านั้น" ตอนสู้กับ นอยโทร่า เคมปาจิ ได้ใช้วิชาเคนโด้ เพื่อเพิ่มพลัง ในการฟันทำให้นอยโทร่า แพ้ไป(เคนโด้ คือ การที่จับดาบ 2 มือ ปกติ เคมปาจิ จะจับดาบแค่มือเดียว)
ในสมัยก่อนผู้ใดที่ได้เป็นหัวหน้าหน่วย 11 จะต้องใช้นามประจำหัวหน้าหน่วยที่สืบทอดกันมา คือ เคมปาจิคุซาจิชิ ยาจิรุ (ญี่ปุ่น
草鹿八千流 Kusajishi Yachiru ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 11 เป็นเด็กที่ถูก ซาราคิ เค็มปาจิ เก็บมาเลี้ยงและตั้งชื่อให้ มักจะเรียกเค็มปาจิว่า เค็นจัง มีความสามารถในการวิ่งได้อย่างรวดเร็วมาก (แต่ปกติจะชอบอยู่บนหลังของ ซาราคิ เค็มปาจิ ซะมากกว่า) แถมยังรั้งตำแหน่ง ประธานสมาคมยมทูตสตรี อีกด้วยมาดาราเมะ อิกคาคุ (ญี่ปุ่น
斑目一角 Madarame Ikkaku ?)
นักสู้อันดับ 3 ของหน่วยที่ 11 มีหัวโล้น ดาบฟันวิญญาณของเขาคือ "โฮซึคิมารุ" คำขึ้นต้นเวลาปลดปล่อย "จงยืดออก" เวลาปลดปล่อยสวัสดิกะชื่อว่า "ริวมอนโฮซึคิมารุ (โคมอสูรลายมังกร)"อายาเซะงาวะ ยูมิจิกะ (ญี่ปุ่น
綾瀬川弓親 Ayasegawa Yumichika ?)
นักสู้ลำดับ 5 ของหน่วยที่ 11 เพื่อนซี้ของมาดาราเมะ อิกคาคุ เป็นคนค่อนข้างรักสวยรักงาม มีดาบฟันวิญญาณชื่อ "รุริอิโระ คุจากุ" ซึ่งตัวยูมิจิกะเองต้องการปกป้องความสามารถที่แท้จริงของดาบฟันวิญญาณตัวเองจากยมทูตคนอื่นๆ จึงมักเรียกชื่อดาบตัวเองว่า "ฟูจิ คุจากุ" เสมอๆ เพื่อให้ดาบฟันวิญญาณของตนปลดปล่อยพลังงานเพียงบางส่วน และสาเหตุที่ยูมิจิกะขอเป็นนักสู้ลำดับที่ 5 เนื่องจากเขาถือว่าเลข 4 ไม่เป็นมงคล คำปลดปล่อย" จงฉีกกระชากคลุ้มคลั่ง "
อารามากิ มาคิโซ (ญี่ปุ่น
荒巻真木造 Aramaki Makizō ?)
นักสู้ในหน่วยที่ 11 ยาจิรุตั้งชื่อให้ว่า มาคิมาคิ, หนวดแหยม เริ่มมีบทบาทจากการพาโอริฮิเมะหนีไปตามคำสั่งของอิชิดะ อุริว โดยมาคิโซพามาที่หน่วยที่ 4 เพื่อให้รับการรักษา
อิจิโนเสะ มากิ (一之瀬 真樹,)(อดีตยมทูต)
นักสู้ในหน่วยที่ 11 หนีออกจากเซย์เรย์เทร์เพราะว่า ซาราคิ เค็นปาจิ ฆ่าหัวหน้าหน่วย 11 คนก่อนจึงไม่อยากเคารพต่อซาราคิ เค็นปาจิ หลังจากที่ไปอยู่กับเบาท์ ก็กลับมาที่โซลโซไซตี้เพื่อขัดขวางพวก ฮิซึกายะที่จะกลับเซย์เรย์เทร์ สุดท้ายก็โดน ซาราคิ เค็นปาจิ (ในสภาพปลดปล่อยเต็มที่) สังหารในที่สุด เเต่เขาก็ถูกคาริยะ จิน หัวหน้าของเบาท์ช่วยเหลือ เเละต่อสู้กับอิจิโกะที่โซเคียคุ หลังจากนั้นเขาคิดจะฆ่าคาริยะ เเต่ด้วยพลังที่มากของคาริยะ จึงทำให้อิจิโนะเสะถูกคาริยะฆ่าในที่สุด
ยาจิรุชอบเรียกว่า มากิจัง ดาบฟันวิญญาณของอิจิโนะเสะ มากิ คือ นิจิคาซึมิ (สายรุ้งอันเปล่งประกาย) เเละ ไซจาคุ นิจิคาสึมิ (ไม่รู้ว่าใช่บังไครึเปล่า)คำปลดปล่อยคือ จงทอเเสงอันเรืองรอง
[แก้] หน่วยที่ 12
อดีตหัวหน้าหน่วย : ฮิคิฟุเนะ คิริโอะ (ญี่ปุ่น
曳舟 桐生 Hikifune Kirio ?)
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 12 ในช่วงเริ่มต้น Turn Back the Pendulum ตามเนื้อเรื่องเธอได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 0 หรือหน่วยพิเศษราชันย์ ซึ่งซารุงากิ ฮิโยรินับถือเธอเหมือนแม่
อดีตหัวหน้าหน่วย : อุราฮาร่า คิสึเกะ
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 12 ตอนนี้กลายเป็นเจ้าของร้านขายขนม เป็นคนทำให้อิจิโกะได้พลังยมทูตคืนมา รวมทั้งฝึกสอนการต่อสู้ให้อิจิโกะด้วย มักจะใส่หมวกและเกี๊ยะ อิจิโกะเลยเรียกว่า "เจ้าหมวกเกี๊ยะ" ก่อนที่จะมารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 12 นั้นเคยเป็นนักสู้อันดับ 3 ของหน่วยที่ 2 และเป็นหัวหน้าหน่วยราชทัณฑ์มาก่อนคุโรซึจิ มายูริ (ญี่ปุ่น
涅マユリ Kurotsuchi Mayuri ?)
หัวหน้าหน่วย 12 เป็นคนชอบทำการทดลองโดยไม่นึกถึงชีวิตและจิตใจของคนอื่น ร่างกายของเขาถูกดัดแปลงจนไม่เหลือความเป็นมนุษย์ เช่น แขนที่ยืดออกได้ ร่างกายสามารถงอกใหม่ได้เมื่อมียากระตุ้น ใบหูที่เปลี่ยนเป็นเคียวได้ เห็นได้จากการที่เขาระเบิดลูกน้องในหน่วยของตัวเองหน้าตาเฉยเพียงเพื่อจับตัวพวกเรียวกะ ความสามารถของดาบฟันวิญญาณของมายูริคือ เมื่อโดนฟันร่างกายของศัตรูจะขยับแขนขาไม่ได้ อดีตเคยเป็นบุคคลอันตรายที่สุดในโลกโซล โซไซตี้มาก่อน แต่เพราะอุราฮาร่ากับฮิโยริเข้ามาในคุกที่ชื่อว่า "รังหนอน" และพาตัวคุโรซึจิไปช่วยงานกองวิทยาการ โดยได้ตำแหน่งรองหัวหน้ากองวิทยาการและนักสู้ลำดับ 3 ของหน่วย 12 มีดาบฟันวิญญาณชื่อ "อะคิโซกิจิโซ" คำปลดปล่อย "จงฉีกกระชาก" ส่วนปลดสวัสดิกะมีชื่อว่า "คอนจิกิอะคิโซกิจิโซ"(อะคิโซกิจิโซสีทอง)
อดีตรองหัวหน้าหน่วย ซารุงากิ ฮิโยริ
อตีตรองหัวหน้าหน่วย 12 เป็นเด็กผู้หญิงนิสัยค่อนข้างห้าวนับถือหัวหน้าฮิคิฟุเนะเหมือนแม่ เกลียดอุราฮาร่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอภายหลังเป็นหนึ่งในไวเซิร์ดคุโรซึจิ เนมุ (ญี่ปุ่น
涅ネム Kurotsuchi Nemu ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 12 เป็นร่างที่ถูกมายูริสร้างขึ้นมีความสัมพันธ์คล้ายๆพ่อลูกกันเพียงแต่เนมุเป็นคนดีมากกว่า เห็นได้จากการที่เธอแบ่งยาถอนพิษให้อิชิดะดื่ม ร่างกายของเธอก็ถูกดัดแปลงพอๆกับคุโรซึจิ มายูริ เช่น สามารถเปลี่ยนแขนเป็นสว่านได้ อวัยวะภายในมีพิษหลากหลายชนิด มีพละกำลังมหาศาล ยกของหนักกว่าตัวได้หลายเท่า
[แก้] หน่วยที่ 13อุคิทาเกะ จูชิโร่ (ญี่ปุ่น
浮竹十四郎 Ukitake Jūshirō ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 13 เป็นหัวหน้าหน่วยเพียงคนเดียวใน 13 หน่วยพิทักษ์ที่ร่างกายอ่อนแอ เขาเป็นโรคปอดตั้งแต่เด็กทำให้ผมกลายเป็นสีขาว แต่ถึงยังงั้นก็เป็นคนเก่งคนนึงทีเดียว เห็นได้จากที่เขาสู้กับยามาโมโต้ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ และเป็นหัวหน้าของลูเคียด้วย มักจะให้ชิบะ ไคเอ็นรับหน้าที่แทนเสมอ มีดาบฟันวิญญาณชื่อ"โซเกียวโนะโคโตวาริ"(ครรลองมัจฉาคู่) "คำปลดปล่อย"จงเป็นเกราะให้กับข้าดุจดั่งเกลียวคลื่น และจงเป็นคมดาบให้กับข้าดุจดั่งอัสนี ส่วนปลดปล่อยสวัสดิกะนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดชิบะ ไคเอ็น (ญี่ปุ่น
志波海燕 Shiba Kaien ?)
อดีตรองหัวหน้าหน่วยที่ 13 เป็นคนร่าเริง รักพวกพ้อง แต่งงานและมีภรรยาแล้ว เสียชีวิตเนื่องจากถูกฮอว์โลว์ที่ฆ่าภรรยาของตนเข้าควบคุมร่างในขณะต่อสู้ และถูกสังหารโดยลูเคีย มีดาบฟันวิญญานชื่อ "เนจิบานะ" คำปลดปล่อยดาบคือ "น้ำแห่งฟากฟ้าจงคลี่คลาย" สมัยยังมีชีวิต ไคเอ็นคือผู้ที่สอนวิชาดาบให้แก่ลูเคีย เป้นคนที่รับหน้าที่แทนหัวหน้าหน่วยเสมอ ลูกน้องบ้างคนเผลอเรียกเขาว่า"หัวหน้า ไคเอ็น"
ชิบะ มิยาโกะ (ญี่ปุ่น
志波都 Shiba Miyako ?)
อดีตนักสู้ลำดับที่ 3 ของหน่วยที่ 13 ภรรยาของชิบะ ไคเอ็น เป็นคนที่มีรูปโฉมงดงามและมีความสามารถมาก จนลูเคียรู้สึกชื่นชมและอยากยึดถือเอาเป็นแบบอย่าง แต่ในวันหนึ่ง มิยาโกะได้พลาดท่าถูกฮอลโลว์สิง ทำให้เธอลงมือฆ่าพวกเดียวกันเอง และถูกฮอลโลว์ตนนั้นกลืนกินเข้าไปในที่สุด
โคสึบากิ เซ็นทาโร่ (ญี่ปุ่น
小椿仙太郎 Kotsubaki Zentarō ?)
นักสู้ลำดับที่ 3 (คนที่1) ของหน่วยที่ 13 มักจะทะเลาะกับคิโยเนะเสมอๆ
โคเท็ตสึ คิโยเนะ (ญี่ปุ่น
虎徹清音 Kotetsu Kiyone ?)
นักสู้ลำดับที่ 3 (คนที่2) ของหน่วยที่ 13 เป็นน้องสาวของโคเท็ตสึ อิซาเนะ รองหัวหน้าหน่วยที่ 4คุจิกิ ลูเคีย
(ดูที่ด้านบน)
คุรุมาดานิ เซ็นโนะสุเกะ (ญี่ปุ่น
車谷善之助 Kurumadani Zennosuke ?)
[แก้] ตระกูลชิบะ
ชิบะ กันจู (ญี่ปุ่น
志波岩鷲 Shiba Ganjū ?)
น้องชายของ ชิบะ คูคาคุ และชิบะ ไคเอ็น เป็นคนอารมณ์ร้อนและมักทำอะไรวู่วาม เคยเกลียดชังยมทูต โดยเฉพาะลูเคีย เพราะเข้าใจว่าลูเคียเป็นคนฆ่าพี่ชายของตน แม้บางครั้งจะดูติงต๊อง แต่ก็เป็นคนที่รักเพื่อนมาก กันจูเป็นผู้ที่พาพวกอิจิโกะไปในเซเรย์เทย์ เมื่อไปถึงก็ได้ต่อสู้กับกับยูมิจิกะ และสามารถเอาชนะได้ วิชาต่อสู้ของเขาคือ วิชาคลื่นหินที่สามารถทำให้สิ่งต่างๆ กลายเป็นทราย
ชิบะ คูคาคุ (ญี่ปุ่น
志波空鶴 Shiba Kūkaku ?)
พี่สาวของ ชิบะ กันจู และน้องสาวของชิบะ ไคเอ็น เป็นคนสร้างปืนใหญ่คูคาคุ และใช้วิถีมารได้เก่งทีเดียวชิบะ ไคเอ็น (ญี่ปุ่น
志波海燕 Shiba Kaien ?)
ลูกพี่ใหญ่ของตระกูลชิบะ (ดูที่ชิบะ ไคเอ็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 13)
โคงาเนะฮิโกะ และ ชิโรงาเนะฮิโกะ (ญี่ปุ่น
金彦・銀彦 Koganehiko-Shiroganehiko ?)
ลูกน้องของคูคาคุ คอยต้อนรับแขกอยู่ภายนอกบ้าน55+
[แก้] ไวเซิร์ดฮิราโกะ ชินจิ (ญี่ปุ่น
平子真子 Hirako Shinji ?)
หนุ่มผมหน้าม้าปริศนา ที่ปรากฏตัวขึ้นมาในโรงเรียนของอิจิโกะ เพื่อจะชักชวนอิจิโกะให้เข้าร่วมกับกลุ่มไวเซิร์ด โดย ฮิราโกะ ชินจิ นั้นเรียกได้ว่าเป็นหัวหน้าของเหล่าไวเซิร์ดเลยก็ว่าได้ หน้ากากฮอลโลว์ของฮิราโกะนั้นจะมีลักษณะคล้ายๆกับหน้าของชาวอียิปต์โบราณ ชินจิเคยเป็นหัวหน้าหน่วย 5 มาก่อน และได้ปลดปล่อยดาบขั้นชิไคแล้ว คือ จงโค่น "ซาคานาเดะ" ซึ่งความสามารถของมันคือตัดความรับรู้ซ้ายขวาด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งไอเซ็นได้ประมาทจึงโดนฟันที่แขนซ้ายเพียงเล็กน้อย บังไคยังไม่ปรากฎ
ซารุงากิ ฮิโยริ (ญี่ปุ่น
猿柿ひよ里 Sarugaki Hiyori ?)
เป็นหนึ่งในไวเซิร์ดที่ปรากฏตัวครั้งแรกในฉบับมังงะบทที่ 189 และในอะนิเมะตอนที่ 112 ลักษณะภายนอกคือเป็นเด็กผู้หญิงผมสีบลอนด์ ผูกผมสองข้าง สวมชุดสีแดงที่มีอักษรอยู่ที่อกเสื้อด้านซ้าย ใส่รองเท้าแตะเป็นประจำ มีนิสัยชอบทำตัวห้าวๆและดุดัน แต่ก็ซ่อนความเศร้าและเหงาเอาไว้ในใจอยู่บ้าง ในครั้งแรกที่ปรากฏตัวเธอมาเร่งให้ฮิราโกะรีบพาอิจิโกะไปหากลุ่มโดยเร็วจนมาเจอกับโอริฮิเมะและแช้ดที่ตามมา จนเกือบจะทำอะไรรุนแรงไป แต่ก็โดนฮิราโกะพาตัวออกมาเสียก่อน ซึ่งเมื่ออิจิโกะมาหาเหล่าไวเซิร์ด เธอก็ได้ใช้พลังของฮอลโลว์เข้าต่อสู้กับอิจิโกะเพื่อเป็นการทดสอบ จนสามารถไล่ต้อนอิจิโกะได้แต่ก็โดนอิจิโกะในสภาพของฮอลโลว์โต้กลับมา และหลังจากที่อิจิโกะสามารถเอาชนะฮอลโลว์ในตัวได้แล้ว เธอก็ได้เป็นคู่ซ้อมให้อิจิโกะในการฝึกควบคุมพลังฮอลโลว์ และ เป็นอดีตรองหัวหน้าหน่วย 12 หน้ากากของเธอจะมีเขาอยู่ตรงกลางหน้าผาก คล้ายยูนิคอร์น และเธอก็ได้ปลดปล่อยดาบแล้วชื่อว่า "คุบิกิริ โอโรจิ(โอโรจิปลิดเศียร)" คำปลดปล่อยคือ "จงสับ" ขณะนี้ถูกไอเซ็นฟันตัวขาด 2 ท่อน
อุโซดะ ฮาจิเง็น (ญี่ปุ่น
有昭田鉢玄 Ushōda Hachigen ?)
เป็นหนึ่งในไวเซิร์ด มีลักษณะรูปร่างใหญ่ที่สุดและสวมชุดทักซิโด้สีชมพู เขามีพลังที่สามารถกางอาณาเขตป้องกัน และสามารถซ่อมแซมสิ่งของได้ ซึ่งเป็นพลังที่คล้ายคลึงกับที่โอริฮิเมะมี เขาเป็นคนที่กางอาณาเขตป้องกันระหว่างที่อิจิโกะกำลังต่อสู้กับด้านฮอลโลว์ในโลกภายใน และช่วยซ่อมสึบากิของโอริฮิเมะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เป็นอดีตรองหัวหน้าหน่วยวิถีมาร หน้ากากของเขาจะคล้ายยักษ์ ด้านหลังหน้ากากเป็นลักษณะคล้ายหมวกขนนกของอินเดียนแดง
ยาโดมารุ ลิซ่า (ญี่ปุ่น
矢胴丸リサ Yadōmaru Risa ?)
หนึ่งในไวเซิร์ด เป็นผู้หญิงสวมแว่นผมสีดำ และสวมชุดนักเรียนแบบญี่ปุ่น เธอเป็นหนึ่งในไวเซิร์ดที่เข้าต่อต้านอิจิโกะที่กลายสภาพเป็นฮอลโลว์ในระหว่างที่กำลังต่อสู้กับด้านฮอลโลว์ในโลกภายใน ชอบอ่านหนังสือโป๊เป็นที่สุด ฝีมือการต่อสู้ของเธอเก่งขั้นสูงทีเดียว และเป็นอดีตรองหัวหน้าหน่วยที่ 8 หน้ากากของริสะคล้ายหน้ากากอัศวิน แต่เป็นรูปข้าวหลามตัด และมีลายไขว้กันเป็นรูปกางเขนอันใหญ่พาดผ่านกลางหน้ากากพอดี ดาบของเธอมีชื่อว่า "ฮากุโระ ทอนโบะ(แมลงปอเหล็กหลอม)" คำปลดปล่อยคือ "จงบดทำลาย"
ไอคาว่า เลิฟ (ญี่ปุ่น
ラヴ/羅武 Ravu/Rabu ?)
หนึ่งในไวเซิร์ด เป็นชายที่มีทรงผมแบบแอฟโฟร์ สวมแว่นดำและชุดพละ เป็นหนึ่งในไวเซิร์ดที่ต่อต้านอิจิโกะในสภาพของฮอลโลว์ เป็นอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 7 หน้ากากของเขาจะดูคล้ายใบหน้าคนบนเสาโทเท็มของอินเดียนแดง ดาบของเขามีชื่อว่า "เท็นงูมารุ" คำปลดปล่อยคือ "จงทุบให้แหลก" มีท่าโชว์เทพ คือ "ฮิฟุคิโนะ โคซึจิ"(ค้อนเพลิงเปลวอัคคี)
โรส(โอโทริบาชิ โรจูโร่) (ญี่ปุ่น
ローズ Rōzu ?)
ไวเซิร์ดอีกคน ใส่ชุดทักสิโด้สีดำ ไว้ผมหยิกสีทอง และเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 3 หน้ากากของเขารูปร่างคล้ายศีรษะกับจงอยปากของนก เป็นเพื่อนกับเลิฟ ดาบของเขามีชื่อว่า "คินชาร่า" คำปลดปล่อยคือ "จงบรรเลง" เมพคิง คือ ท่า "คินชาร่าโซนาต้าหมายเลข 11 อิซาโยอิบาระ"
มุกุรุม่า เคนเซย์(หมัดตะวันตก หกกงล้อ) (ญี่ปุ่น
六車拳西 Muguruma Kensei ?)
หนึ่งในไวเซิร์ดหัวสีเทา ใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขายาว อดีตเคยเป็นยมทูตหัวหน้าหน่วยที่ 9 เคยช่วยชีวิตชูเฮย์จากฮอลโลว์มาแล้วครั้งนึง เป็นคนหงุดหงิดขี้โมโหง่าย และมักจะยิ้มแบบเหี้ยมๆเสมอ ที่หน้าท้องของเคนเซย์มีรอยสักเลข 69 ซึ่งเหมือนกับรอยสักที่แก้มซ้ายชูเฮย์ มีฟันวิญญาณชื่อว่า "ทาชิคาเสะ(วายุตัดปฐพี)" มีคำปลดปล่อยคือ"จงพัดกระหน่ำ"ความสามรถคือดาบจะสลายไป กลายเป็นลมที่มีความคมสูง เข้าฟาดฟันศัตรู บังไคชื่อ "เทดเค็น คาชิคาเซะ"(หมัดเหล็กวายุผ่าปฐพี)ความสามารถคือ ปล่อยพลังที่ออกมาจากหมัด(คล้ายกับแช้ด)
คุนะ มาชิโระ (ญี่ปุ่น
白 Kuna Mashiro ?)
หนึ่งในไวเซิร์ดที่สามารถแปลงเป็นฮอลโลว์ได้นานที่สุด ซึ่งนานถึง 15 ชั่วโมง ฝีมือการต่อสู้ยังไม่แน่ชัด อดีตเคยเป็นรองหัวหน้าหน่วย 9 มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองและชอบแกล้งเคนเซย์
[แก้] อารันคาร์
[แก้] เอสปาด้า
พริเมร่า เอสปาด้าโคโยเต้ สตาร์ค และ ลิลิเน็ต จินเจอร์แบ็ค
เอสปาด้าหมายเลข 1 เขามักจะนอนหลับประจำ ทำให้ถูกลิลิเน็ตแกล้งอยู่บ่อยๆ และเขาดูเหมือนว่าจะมีพลังมาก เวลาปล่อยซีโร่(Cero)ก็แค่พูดแล้วซีโร่ก็จะออกมาเองเลย โดยไม่ต้องทำท่าอะไรเลย สาเหตุการตาย"ความโดดเดี่ยว" การปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณคือต้องมีลิลิเน็ตอยู่ด้วยเนื่องจากสตาร์คแยกตัวลิลิเน็ตจากตัวเค้าเอง โดยปกติแล้วเวลาฮอลโลว์กลายเป็นอารันคาร์ พลังที่แท้จริงก็จะอยู่ในรูปดาบฟันวิญญาณ แต่ในกรณีของสตาร์คแก่นพลังที่แท้จริงของเขากลับแยกออกมาเป็นลิลิเน็ต คำปลดปล่อยคือ"จงไล่ต้อน" ดาบฟันวิญญาณชื่อ"ลอส โลบอส"(ฝูงหมาป่า)
เซกุนโด้ เอสปาด้าบารากัน ลุยเซนบาร์น
เอสปาด้าหมายเลข 2 ลักษณะเป็นชายแก่มีแผลผ่าทแยงมุมที่หน้าเขา ชอบที่จะให้ลูกน้องของตนพูดกับตนเปรียบเสมือนว่าตนเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ ดาบของบารากันมีลักษณะเป็นขวานขนาดใหญ่ โดยหยิบออกมาจากที่บัลลังค์ของตนเอง สาเหตุการตาย"ความแก่ชรา"
มีดาบฟันวิญญาณชื่อ"อาโรกานเต้"(ราชันย์หัวกระโหลก) คำปลดปล่อยคือ"จงเปื่อยสลาย"
เทรส เอสปาด้าเทีย ฮาริเบลล์
เอสปาด้าหมายเลข 3 ลักษณะเป็นผู้หญิงผิวสีคล้ำ ดูท่าทางสงบเงียบ ไม่ประมาทต่อศัตรู และยังเป็นเอสปาด้าตนเดียวที่เป็นผู้หญิงในตอนนี้ คำปลดปล่อยของเธอคือ "จงจู่โจม" ชื่อของดาบคือ"ทีบูรอน(ฉลามจักรพรรดิ)" เมื่อปลดปล่อยแล้วจะมีลักษณะไม่ต่างจากเดิมมากนัก หน้ากากที่ปากจะหายไป สาเหตุการตาย"การเสียสละ"
ควอโทร เอสปาด้าอุลคิโอร่า ชิฟเฟอร์
เอสปาด้าหมายเลข 4 เปรียบเสมือนมือขวาของไอเซ็น มีนิสัยเย็นชาจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เป็นคนที่ไอเซ็นมอบหน้าที่ให้ดูแลโอริฮิเมะขณะอยู่ในฮูเอโด้ มุนโก้ และเป็นคนกำจัดอิจิโกะที่มาช่วยโอริฮิเมะ และในขณะนี้กำลังต่อสู้กับอิจิโกะอยู่ และได้ปลดปล่อยดาบแล้วคือ มูรเซียร์เอลาโก้ คำปลดปล่อยคือ"จงพันธนาการ" และรูปร่างที่แท้จริงคือมีปีกสีดำและผมยาวถึงหลัง และอุลคิโอร่าเป็นคนเดียวที่สามารถปล่อยดาบเป็นขั้นที่2ได้แค่ตนเดียว สาเหตุการตาย"ความว่างเปล่า"นอยโทร่า จิลก้า
เอสปาด้าหมายเลข 5 ดาบของเขาเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว 2 อันต่อกัน เขาสามารถรับหมัดของแช้ด (ในBleach เล่ม30)ได้ แล้วใช้ดาบของเขาฟาดเข้าใส่แช้ดทันที ซึ่งแม้แต่โล่ของเขาก็ยังกันไม่อยู่จึงเสียท่า กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่ 11 ซาราคิ เคมปาจิ โดยที่ซาราคิเป็นฝ่ายชนะ(มังงะตอนที่316)และก่อนโดนฟันนั้นนอยโทร่าได้นึกถึงคำที่เนลพูดตอนเนลเป็นเอสปาด้าว่า"ง่ายๆนายยังอ่อนแอกว่าชั้น" ดาบของนอยโทร่าคือ ซาตานเทเรสซ่า (บทภาวนาตั๊กแตนตำข้าว) คำปลดปล่อยคือ"จงภาวนา" เมื่อปลดปล่อยออกมาจะมีแขนเพิ่มขึ้นเป็น4-6แขนและหมวกบนหัวจะกลายเป็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว สาเหตุการตาย"ความสิ้นหวัง"กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค
เอสปาด้าหมายเลข 6 มีนิสัยหัวรั้นและอารมณ์รุนแรง เคยพาพวกไปบุกโลกมนุษย์ครั้งหนึ่งแต่กลับพลาดท่า จึงถูกโทเซ็นลงโทษโดยการฟันแขนขาด และตกจากชั้นเอสปาด้า แต่โอริฮิเมะช่วยรักษาแขนให้ จึงได้กลับมาเป็นเอสปาด้าดังเดิม หลังจากนั้นก็มาสู้กับอิจิโกะคำปลดปล่อยคือ "จงเสียดเสียง" ชื่อของมันคือ "แพนเทร่า"(ราชันย์พยัคฆ์) โดยแม้จะปลดปล่อยได้ แต่ก็พ่ายแพ้แก่ อิจิโกะ สาเหตุการตาย"การทำลายล้าง"(อย่างเกิดระเบิดเมื่อตอนมีชีวิต)โซมารี เลอรูซ์
เอสปาด้าหมายเลข 7 เป็นเอสปาด้าผิวดำที่ได้ต่อสู้กับเบียคุยะ ดาบฟันวิญญาณมีชื่อว่า "บรูเฮเรีย" (นักบวชเนตรอาคม) คำปลดปล่อยคือ "จงสงบนิ่ง" แต่เขาก็ถูก คุจิกิ เบียคุยะ ฆ่าไปแล้วด้วยเซ็มบงซากุระ คาเงโยชิ สาเหตุการตาย"ความลุ่มหลง"ซาเอล อพอลโล่ แกรนซ์
อารันคาร์หมายเลข8 มีดาบฟันวิญญานชื่อ "ฟอร์นิคารัส"(ราชินีมาร) คำปลดปล่อยคือ "จงสูดแทรก" ทำหน้าที่เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ของเหล่าอารันคาร์ มีพี่ชายชื่อ อิลฟอร์ท แกรนท์ ที่ถูกเร็นจิกำจัดไปแล้ว ทั้งๆ ที่โดนเร็นจิกับอิชิดะรุมสู้ก็ไม่อาจฆ่าได้ เพระซาเอลได้กินลูกน้องตัวเองจนสามารถรักษาแผลได้ กำลังต้องเผชิญหน้ากับ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่ 12 คุโรซึจิ มายูริ ซึ่งในตอนที่316 มายูริได้แทงดาบเข้าที่มือของซาเอลซึ่งเป็นดาบอาบสารบ้างอย่างเข้าไป มีความสนใจเกี่ยวกับควินซี่เหมือนมายูริ(นิสัยคล้ายๆกัน)ดาบชาเอลนั้นเมื่อปลดปล่อยแล้วจะสามารถสร้างตุ๊กตาจากเลือดของศัตรู(ตุ๊กตาวูดู)มื่อทำอะไรกับตุ๊กตาร่างจริงจะได้รับความเจ็บปวดเมื่อทำกับตุ๊กตา(ตุ๊กตาจะออกมาจะปีกย้อยๆหยดเป็นหยดน้ำแล้วออกมาเป็นตุ๊กตา)สาเหตุการตาย"ความวิปริต"อาร์โรนีโร่ อัลลูเอรี่
เอสปาด้าหมายเลข 9 มีสองหน้าอยู่ในโถแก้ว แล้วสวมหน้ากากซ้ำ เป็นเพียงกิลเลี่ยนเพียงตัวเดียวที่ไต่เต้าขึ้นมาถึงเอสปาด้า ในร่างปลอมเขาจะใช้ใบหน้าของไคเอ็น (อดีตรองหัวหน้าหน่วยที่ 13) ซึ่งแม้เป็นอารันคาร์เขาก็ยังใช้ดาบเนจิบานะของไคเอ็นได้ด้วย ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ กล็อตโนเรีย (กลืนกินฮอลโลว์) ถูกลูเคียสังหาร สาเหตุการตาย"ความโลภ"ยามี่ ริยัลโก้
เอสปาด้าหมายเลข 10 เคยไปโลกมนุษย์กับอุลคิโอร่า และเขาก็ดูดกลืนวิญญาณของคนมากมายไปด้วย ถูกอุราฮาร่าเล่นงานประจำ เขาได้ปลดปล่อยดาบออกมาแล้ว โดยดาบของเขาชื่อว่า"ไอย์ร่า" คำปลดปล่อยคือ "จงทำลาย" ภายหลังเขากลับมาอีกครั้งโดยมีขนาดตัวใหญ่กว่าเดิมและประกาศว่า ตนคือเอสปาด้าหมายเลข 0 สาเหตุการตาย"ความโกรธเกรี้ยว"(เช่นการสู้อย่างบ้าคลั่ง)
[แก้] อดีตเอสปาด้า
ลูปี
อดีตเอสปาด้าหมายเลข 6 ได้เป็นเอสปาด้าในตอนที่กริมจอว์โดนฟันแขนขาด แต่พอกริมจอว์ได้แขนคืนก็ใช้ซีโร ฆ่าลูปีทันที คำปลดปล่อยของดาบฟันวิญญาณคือ "จงรัดพัน" "เทปาโดร่า" (มารดาแห่งเถาวัลย์)
เนล หรือ เนเลียล โท ออนเดลชูเวงก์
เป็นอาร์รันคาร์เด็ก ที่ถูกอิจิโกะช่วยไว้ ความจริงแล้วเนลเป็นอดีตเอสปาด้า แต่ถูกนอยโทร่า เอสปาด้าหมายเลข 5 ผ่าหัวเลยทำให้ความจำเสื่อม อดีตเป็นเอสปาด้าหมายเลข 3 ดาบฟันวิญญานมีชื่อว่า "กามูซ่า" (อัศวินแอนทิโลป) คำปลดปล่อยคือ "จงขับขาน"
[แก้] เอสปาด้าตกชั้น
เอสปาด้าตกชั้น (พรีวารอน เอสปาด้า) หรือ เทรซซีรัฟ (3 หลัก)
ดอลโดนี่
เป็นเอสปาด้าตนหนึ่งที่ถูกคัดให้เป็นอดีตเอสปาด้า ตอนสู้กับอิจิโกะก็แทบไม่ชักดาบเลย มีพลังดาบสายพายุสามารถพัดศัตรูให้กระเด็นได้ ดอลโดนี่ถูกอิจิโกะกำจัด เป็นเอสปาดา No.103 ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "ฮิรัลลูด้า (เจ้าแห่งสลาตัน)" คำปลดปล่อยคือ "จงพัดผัน"
จิรุตจิ ธันเดอร์วิซ
เป็นเอสปาด้าตกชั้นคนเดียวที่เป็นผู้หญิง มีดาบเป็นโยโย่ ซึ่งภายหลังเธอถูกกำจัดด้วยท่าไม้ตาย เชเล่ ชไนเดอร์ ของอิชิดะ ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "โกลอนดรีน่า (กงล้อนางแอ่นเหล็ก)" คำปลดปล่อยคือ "จงขีดข่วนสะบั้น"เป็นเอสปาด้าหมายเลข105
กันเทนไบน์ มอสเคด้า
อารันคาร์ที่ดูจะเป็นสายบู๊สุดๆ เพราะสู้กับแช้ดได้สูสีมาก แต่ก็ถูกแช้ดโค่นได้ ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "ดรากุร่า"(มังกรแห่งความมืด)มีหมายเลขคือ109
[แก้] อาร์รันคาร์ชั้นนูเมรอส
อาร์รันคาร์ชั้นนูเมรอส (เลข 2 หลัก)
เชาหลง ชู่ฟง
อารันคาร์หมายเลข 11 มีดาบฟันวิญญาณที่โหดเหี้ยมมากทีเดียว แต่ถูกฮิทสึกายะกำจัด ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ ทีเจเรต้า (ตัวสามง่าม) คำปลดปล่อยดาบ "จงตัด" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของกริมจอว์
ดี รอย
อารันคาร์ที่เกือบจะฆ่าแช้ดได้ แต่โดนอิจิโกะมาบัง ถูกลูเคียกำจัด หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของกริมจอว์
อิลฟอนท์ แกรนซ์
อารันคาร์ที่ปลดปล่อยดาบมาโค่นอูรุรุ แต่ถูกเร็นจิกำจัด ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "เดลโทโร่ (เจ้าชายเขาสีน้ำเงิน)" คำปลดปล่อยดาบคือ "จงทิ่มแทง" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของกริมจอว์
เอโดราโด้ เลโอเนส
อารันคาร์หมายเลข 13 ที่มีดาบสายเพลิง ได้สู้กับอิกคาคุและพ่ายแพ้ไป ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ วัลคานิก้า (อสูรภูเขาไฟ) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงลุกไหม้" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของกริมจอว์
นาคีม
อารันคาร์ตนเดียวที่ไม่ได้ปลดปล่อยดาบในศึกอารันคาร์ ถูกรันงิคุกำจัด หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของกริมจอว์
ชาร์ลอตเต้ คูลฮอร์น
อารันคาร์รักสวยรักงาม (ตุ๊ด!)คนสนิทของบารากันได้ต่อสู้กับยูมิจิกะ มีดาบฟันวิญญาณชื่อ "เรน่า ดี โรซ่า"คำปลดปล่อยคือ "จงเปล่งประกาย" ท่าไม่ตายคือ "โรซ่า บลังก้า(การพิพากษาแห่งดอกกุหลาบขาว)" หนึ่งในฟราเชี่ยนในสังกัดของบารากัน
ชีนอน โป
อารันคาร์ร่างใหญ่(สูง)เป็นคนที่เงียบ ๆ คนสนิทของบารันการ์ต่อสู้กับอิกกาคุและเอาชนะได้ และได้สู้กับโคมามูระ ดาบฟันวิญญาณคือ"คัลร์เดรอน"คำปลดปล่อยคือ"จงพ่นลมหายใจ"(ปลาวาฬแขนยักษ์) หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของบารากัน
อาบิราม่า เรดเดอร์
อารันคาร์มีรอยเอสติกม่าที่หน้าคล้ายปีกนกในอียิปย์ เป็นคนขี้โหวกเหวกต่อสู้กับคิระ ดาบฟันวิญญาณชื่อ "อากีล่า" คำปลดปล่อยคือ"จงสะบั้นยอดภูผา" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของบารากัน
ฟินดอล คาเรียส
อารันคาร์ผมทองมีหน้ากากปิดเหนือจมูกเมื่อตีหน้ากากไปเรื่อย ๆ คล้ายกับเพิ่มระดับพลังของตัวเอง(เช่นครึ่งหน้าจะเป็นระดับ รองหัวหน้า) ได้ต่อสู้กับฮิซากิ ดาบฟันวิญญาณคือ "พินซากูด้า"(ดาบซุ่มกระแสฟาดฟัน) คำปลดปล่อยคือ "จงตัดผิวน้ำ" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของบารากัน
จีจีโอ เวก้า
อารันคาร์ผมสีดำถักผมเปีย ได้ต่อสู้กับซุยฟงมีความเร็วสูงพอ ๆ กับซุยฟง ดาบฟันวิญญาณคือ"ทิเกรสสตอร์ค"(เขี้ยวพยัคฆ์ไต้ฝุ่น) คำปลดปล่อยคือ"จงฉีกกระชากกัดกิน" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของบารากัน
นิร์เก้ ปาร์ดุ๊ค
อารันคาร์ร่างใหญ่และอ้วน ได้ต่อสู้กับโอมาเอดะ ดาบฟันวิญญาณคือ"มามูต"(ทหารช้างยักษ์) คำปลดปล่อยคือ"จงกระทืบให้แหลกลาญ" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของบารากัน
อาปาช อารันคาร์หญิงมีนิสัยใจร้อน ขวานผ่าซาก(คล้ายๆกับฮิโยริ)มีดาบฟันวิญญาณ "ซิเอลวาร์" คำปลดปล่อย"จงเผ่าโผน"หนึ่งในฟราเชี่ยนในสังกัดของฮาริเบล ตายด้วย ริวจินจักกะ ของหัวหน้าใหญ่ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ
มิร่า โรส อารันคาร์หญิงมีรูปร่างล่ำเหมือนหุ่นผู้ชาย เป็นคนผิวสี มีดาบฟันวิญญาณ " เลโอน่า " คำปลดปล่อย "จงกัดกินให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย"หนึ่งในฟราเชี่ยนในสังกัดของฮาริเบล ตายด้วย ริวจินจักกะ ของหัวหน้าใหญ่ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ
ชุนชุน อารันคาร์หญิงที่แขนเสื้อยาวจนห้อย มักเอามือปิดปากเวลาพูดเป็นคนสงบเสงี่ยม มีดาบฟันวิญญาณ " อนาคอนด้า " คำปลดปล่อย "จงรัดพันให้บรรลัย"หนึ่งในฟราเชี่ยนในสังกัดของฮาริเบล ตายด้วย ริวจินจักกะ ของหัวหน้าใหญ่ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ
[แก้] อารันคาร์อื่นๆ
วอนเดอร์ไวซ์ มัลเจร่า
อาร์รันคาร์ผมเขียว ที่ดูเหมือนจะสติไม่ค่อยดี มีดาบฟันวิญญาณขนาดใหญ่ห้อยอยู่ที่หลัง ชอบอยู่กับโทเซ็น และมีพลังกดดันวิญญาณระดับเอสปาด้า
ดอนโด้แจ็คเกอร์
หนึ่งในสามฮอลโลว์เชิญยิ้ม แต่หน้าตาหลอนสุดๆ ชอบพูดลงท้ายด้วยคำว่า "เด้อขรั่บเด้อ" เป็นผู้ที่วิ่งตามเร็นจิมาจนมาตกหลุมพรางของซาเอล อพอลโล่ แกรนท์ ไปพร้อมกับเร็นจิ เคยเป็นทหารองค์สนิทของเนลมีท่าไม้ตายรวมกับเปชเช่คือซีโร่ที่คิดค้นขึ้นมาเอง ชื่อว่าซีโร่ซิงเครติโก้[จากตอนที่290กว่า]
เปชเช่ กาตีเช่
ผู้ที่ตามอิชิดะมาในการสู้กับจิรุตจิ ใช้ไม้ตายอินฟินิตี้ สลิค (ลื่นไร้ขีดจำกัด) ใส่จิรุตจิ ทำให้จิรุตจิรู้สึกอับอายมาก จึงปลดปล่อยดาบมาสู้กับอิชิดะและเปชเช่ทันที เปชเช่ชอบเรียกอิชิดะว่าอิจิโกะเ ป็นทหารองค์สนิทเหมือนดอนโด้แจ็คเกอร์ [จากตอนที่290กว่า]
แกรนด์ ฟิชเชอร์
อารันคาร์ที่ฆ่า มาซากิ แม่ของอิจิโกะ เคยพ่ายแพ้ให้กับอิจิโกะครั้งหนึ่ง แต่หนีไปได้ ภายหลังต้องการกลับมาแก้แค้น แต่ก็ถูกอิชชิน พ่อของอิจิโกะสังหารทิ้ง
เดโมร่า
อาร์รันคาร์ตนหนึ่งที่เข้ามาขวาง พวกอิจิโกะตอนที่เพิ่งเข้ามาถึงฮูเอโก้มุนโด้ เป็นอาร์รันคาร์ร่างใหญ่แต่สติปัญญาต่ำ สามารถยืดลิ้นได้ แต่สุดท้ายก็ถูกแช้ดกำจัด
ไอสลิงเกอร์
อาร์รันคาร์อีกตนที่เข้ามาขวางพวกอิจิโกะ ตอนเข้ามาฮูเอโก้มุนโด้ เป็นอาร์รันคาร์ที่หน้ากากเป็นรูปนก ชื่อดาบฟันฟันวิญญาณคือ "อูน่า ทิโรทีล (กระสุนเล็บปลายปีก)" ซึ่งสามารถยิงได้ถึง 108 ดอกติดต่อกัน ถูกอิชิดะกำจัด
[แก้] ตัวละครอื่นๆ
คุจิกิ ฮิซานะ (ญี่ปุ่น
朽木緋真 Kuchiki Hisana ?)
เป็นภรรยาของเบียคุยะ และมีศักดิ์เป็นพี่สาวของลูเคีย เธอเสียชีวิตจากโลกมนุษย์มาอยู่ที่โซล โซไซตี้พร้อมกับลูเคีย หากแต่ด้วยร่างกายที่อ่อนแออยู่เดิมของเธอ ทำให้ไม่อาจรับภาระเลี้ยงลูเคียได้ เธอจึงต้องทิ้งลูเคียไป หลายสิบปีต่อมาเธอก็ได้เข้ามาสู่ตระกูลคุจิกิ แต่เพียง5ปีให้หลังเท่านั้น ร่างกายของเธอก็เกินที่จะทนอยู่ไหว ก่อนที่จะเสียชีวิตเธอขอร้องให้เบียคุยะตามหาน้องสาวของตน และรับเธอเป็นน้องสาวด้วย เพื่อแทนกับสิ่งที่เธอทำกับลูเคียไว้ในอดีต จนในที่สุดฮิซานะก็เสียชีวิตจากร่างกายที่อ่อนแอเกินจะรับได้อีกต่อไปแล้ว
ฮิซานะ มีบทบาทเพียงช่วงย้อนอดีตของเบียคุยะเท่านั้น
คันออนจิ มิซาโอมารุ (ญี่ปุ่น
観音寺ミサオ丸 Kanonji Misaomaru ?) หรือ ดอน คันออนจิ (ญี่ปุ่น: ドン・観音寺 Don Kanonji ?)
ชายหนุ่มผู้อ้างว่าตนเห็นวิญญาณ เขาทำรายการวิญญาณจรที่จะไปสำรวจดูวิญญาณทั่วประเทศญี่ปุ่น แล้วตอนที่ไปเมืองคาราคุระก็ไปพบอิจิโกะ และได้ช่วยกับอิจิโกะต่อสู้ปราบฮอลโลว์สำเร็จ แล้วก็บอกว่าอิจิโกะเป็นลูกศิษย์หมายเลข 1 ของตน
ในภายหลัง คันออนจิได้มาร่วมมือกับจินตะ อุรุรุ ยูซึ และคาริน ซึ่งมาปราบฮอลโลว์ในนาม "คาราคุระ ไรเซอร์"
และหลังจากนั้นอีก เขาก็มาร่วมมือกับกอนที่เป็นคาราคุไรเซอร์ในนาม"คาราคุไรเซอร์ สปริตซ์"
อิโนอุเอะ โซระ (ญี่ปุ่น
井上 昊 Inoue Sora ?)
พี่ชายของโอริฮิเมะที่เลี้ยงดูโอริฮิเมะมาตั้งแต่ยังแบเบาะ แต่ได้เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางจราจรในช่วงที่โอริฮิเมะอยู่ ม.ต้น หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว ดวงวิญญาณก็ยังคงตามคุ้มครองโอริฮิเมะ แต่เมื่อได้เห็นว่าโอริฮิเมะเริ่มหันไปคบหาเพื่อนฝูงจนหลงลืมตนเอง ก็ทำให้ความเหงาและความเศร้าเข้าครอบงำจนกลายเป็นฮอลโลว์ และกลับมาทำร้ายโอริฮิเมะที่โลกมนุษย์
อิชิดะ โซเค็น (ญี่ปุ่น
石田宗弦 Ishida Sōken ?)
เป็นทั้งปู่และอาจารย์ของอิชิดะ อุริว เสียชีวิตเพราะถูกฮอลโลว์ฆ่าตาย แต่แท้จริงแล้ว คุโรซึจิ มายูริ (หัวหน้าหน่วยที่ 12) เป็นคนขอให้ยมทูต (ที่มีหน้าที่ไปต่อสู้กับฮอลโลว์ตัวที่ฆ่าอิชิดะ โซเค็น) ไปช่วยอย่างล่าช้า ทำให้ อิชิดะ โซเค็น เสียชีวิต เพื่อจะนำวิญญาณไปวิจัยเกี่ยวกับควินซี่
อิชิดะ ริวเค็น (ญี่ปุ่น
石田竜弦 Ishida Ryūken ?)
เป็นพ่อของ อิชิดะ อุริว และถึอว่าเป็นควินซี่คนสุดท้าย นอกจากนี้ยังเป็นคนช่วยฟื้นพลังควินซี่ให้ อิชิดะ อุริว อีกด้วย
ชิบาตะ ยูอิจิ (ญี่ปุ่น
シバタユウイチ Shibata Yūichi ?)
เป็นวิญญาณเด็กที่สิงในนกแก้ว แช้ดได้ช่วยไว้จากฮอลโลว์ และได้พบกันอีกครั้งในเมืองลูคอนตัวละครออริจินอล
ตัวละครที่ปรากฏเฉพาะในภาคอะนิเมะ ไม่มีในหนังสือการ์ตูนร่างวิญญาณเทียม
ริริน
เป็นวิญญาณเทียมเพศหญิง มีความสามารถสร้างภาพลวงตาได้ชั่วขณะหนึ่ง เธอจะอาศัยอยู่ในร่างเด็กผู้หญิง ผมสั้นสีเหลือง ใส่เสื้อคลุมไหล่ทับเสื้อสีชมพูอีกที่ ร่างตุ๊กตาเป็นนกหน้าตาประหลาดใส่ชุดสีฟ้าเวลาจับพลังวิญญาณของเบาท์ คู่ของริรินคืออิจิโกะ ซึ่งก็ชอบในรูปร่างอยู่แล้ว
โนวา
[แก้] มนุษย์
ในเรื่องเทพมรณะ เหล่ามนุษย์ที่ในเรื่องจะดำเนินในสังคมของประเทศญี่ปุ่น มนุษย์ในที่นี้ก็จะเหมือนกับในโลกของความเป็นจริง โดย ทุกคนจะอาศัยกายหยาบเพื่อการมีชีวิต วิญญาณกับกายหยาบจะเชื่อมต่อกันด้วย "โซ่แห่งผลกรรม" ที่จะติดอยู่ที่ส่วนอกของวิญญาณกับกายหยาบ และถ้ามีมนุษย์คนใดได้รับผลกระทบจากการกระทำของวิญญาณ ก็อาจจะไปกระตุ้นพลังวิญญาณในตัวของเขาจนสามารถมองเห็นวิญญาณได้ หรืออาจจะมีพลังพิเศษจากพลังวิญญาณได้เช่นกัน
[แก้] วิญญาณ
เมื่อมนุษย์ตาย วิญญาณของจะไม่ไปยังโซลโซไซตี้หรือนรกในทันที วิญญาณเหล่านี้เรียกว่า "พลัส (Plus)" เป็นวิญญาณของคนส่วนใหญ่ซึ่งปรากฏให้เห็นเป็นร่างมนุษย์ โดยโซ่แห่งผลกรรมที่หน้าอกจะขาดออกจากกายหยาบแล้วซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึง ความตายของคนๆนั้น และตราบใดที่ยังไม่มียมทูตมาชี้นำที่ไปให้ยังที่ๆควรไป พวกเขาก็จะวนเวียนไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่เหล่าวิญญาณจะวนเวียนอยู่ในสถานที่ซึ่งตนเองตายหรือคุ้นเคย และวิญญาณเหล่านี้จะมีตัวตนอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งในบางครั้งสามารถสัมผัสได้
[แก้] ฮอลโลว์
ฮอลโลว์ (Hollow) คือวิญญาณที่โซ่กรรมขาดทำให้เกิดการรุกกินจน หน้าอกเป็นรู ในที่สุดก็จะกลายร่างเป็นอสูรกาย ฮอลโลว์ทุกตนจะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกตัวจะสวมหน้ากากไว้เพื่อปิดบังใบหน้าของตนและหน้ากากจะป้องกันสันดาน ดิบหรือนิสัยเก่าก่อนที่จะเป็นฮอลโลว์ และส่วนอกที่เคยมีชิ้นส่วนของโซ่แห่งผลกรรมที่หลงเหลืออยู่จะถูกแทนที่ด้วย รูกลวงสัญลักษณ์ของการเสียดวงจิต(เป็นที่มาของชื่อฮอลโลว์) เหล่าฮอลโลว์จะกินวิญญาณธรรมดาและวิญญาณของคนที่มีพลังวิญญาณสูง ซึ่งทำได้แม้แต่การฆ่าคนเพื่อเอาวิญญาณมาดับความหิวกระหาย ไม่ก็ดับความทรมาณของตนเอง โดยเหล่าฮอลโลว์แม้คนธรรมดาจะมองไม่เห็น แต่ก็มีตัวตนสัมผัสได้ โลกที่เหล่าฮอลโล่ว์มารวมกันและอาศัยอยู่คือ "ฮูเอโก้ มุนโด้" ส่วนฮอลโลว์ชั้นสูงจะถูกเรียกว่า "เมนอส" ซึ่งในหมู่เมนอสเองแล้ว ก็สามารถแบ่งได้อีก 3 ประเภทเช่นกัน คือ
กิลเลียน เมนอสที่พวกอิจิโกะเรียกกันว่า "เมนอสกรังเด้" นั้นแท้จริงแล้วคือพวก "กิลเลียน" เป็นเมนอสชั้นต่ำที่สุด ร่างใหญ่ เคลื่อนไหวช้า มีปัญญาราวกับสัตว์ป่าเท่านั้น
แอดจูคาส เมนอสที่มีขนาดเล็กกว่ากิลเลียน มักเป็นผู้นำฝูงของกิลเลียน และมีขนาดเล็กกว่า ฉลาดกว่า
วาสโทรเด้ เมนอสชั้นสูงสุด มีขนาดเท่ากับมนุษย์ มีจำนวนน้อย รวมทั้งหมดในฮูเอโก้ มุนเด้ มีอยู่ไม่กี่ตนเท่านั้น ว่ากันว่า ความสามารถของวาสโทรเด้นั้นมีมากกว่าหัวหน้าหน่วยของหน่วยของยมทูตเสียอีก และฮิตสึกายะ โทชิโร่เคยพูดไว้ว่าถ้ามีวาสโทรเด้ อยู่กับไอเซ็นตั้งแต่10ตนขึ้นไปโซลโซไซตี้อวสานแน่
[แก้] ยมทูต
ยมทูต (ญี่ปุ่น: 死神 Shinigami ; Death's God ?) เป็นผู้ปกครองโซลโซไซตี้ ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณวิญญาณที่ถ่ายเทระหว่างโลกมนุษย์กับโซลโซไซตี้ นอกจากนี้ยังมีภารกิจสำคัญอีกสองประการ คือ การทำพิธีส่งพลัสไปยังโซลโซไซตี้ และการชำระฮอลโลว์ ตัวชินิกามิเองนั้นเป็นวิญญาณ ด้วยเหตุนี้คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็น ได้ยิน หากแต่สัมผัสชินิกามิได้ในบางครั้ง ชินิกามิทุกตนมีร่างเป็นมนุษย์ สวมชุดฮากะมะสีดำเป็นเครื่องแบบและมีอาวุธประจำกายเรียกว่า ซัมปาคุโต (斬魄刀 "ดาบฟันวิญญาณ"(ภาษาอังกฤษเรียก "Soul Slayer / Soul Cutter") สำหรับใช้ต่อสู้กับฮอลโลว์ นอกจากนี้ชินิกามิยังสามารถใช้คิโด (มนต์ดำ, Demon Art(หรือ "วิถีมาร") ในการต่อสู้ได้อีกด้วย และสำหรับระดับหัวหน้าแล้วยังมีการปลดปล่อยสวัสดิกะ(บังไค:卍解)โดยการเรียกชื่อดาบของตนซึ่งมียมทูตจำนวนไม่มากนักที่สามารถทำได้
[แก้] ควินซี่
ควินซี่ (Quincy) หรือที่ช่อง TRUE Spark (43) แปลว่า "พรตปราบมาร" คือ ตระกูลนักปราบมารที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก คอยฝึกฝนตัวเองเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถต่อสู้กับฮอลโลว์ได้ และ สูญสิ้นไปกว่า 200 ปีมาแล้วจากการกวาดล้างของยมทูต เนื่องจากเจตนาของควินชี่ในการกำจัดฮอลโลว์ที่ต่างกันกับเหล่ายมทูต เพราะว่า ควินชี่มุ่งที่จะสังหารฮอลโลว์เท่านั้นไม่เหมือนกับยมทูตที่ส่งวิญญาณ ฮอลโลว์ไปสู่โซลโซไซตี้ ควินซี่จะไม่ใช้อาวุธอื่นใดนอกจากธนู
[แก้] อารันคาร์
อารันคาร์ (Arrancar) คือเหล่าฮอลโล่ว์ที่ถอดหน้ากากและได้รับพลังยมทูต กลายเป็นฮอลโลว์ที่มีทั้งความสามารถของทั้งฮอลโลว์และยมทูต เหล่าอารันคาร์จะมีหน้ากากที่ถอดออกไปส่วนหนึ่งทำให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงใน ระดับหนึ่ง และจะอยู่ในร่างที่เกือบจะเป็นมนุษย์ (แต่จะเป็นร่างมนุษย์แบบสมบูรณ์ถ้าเป็นร่างแปลงของฮอลโลว์ระดับสูง) และยังคงมีรูกลวงตรงกลางอยู่เช่นเดิม เหล่าอารันคาร์จะสวมชุดเสื้อคลุมสีขาว และจะมีดาบฟันวิญญาณเช่นเดียวกับยมทูต การปลดปล่อยดาบของอารันคาร์จะไม่ใช่การเปลี่ยนอาวุธชิ้นหนึ่งเป็นอีกแบบ หนึ่ง แต่ดาบฟันวิญญาณของอารันคาร์ก็คือแก่นแห่งพลังของอารันคาร์ตนนั้น เมื่อปลดปล่อย อารันคาร์จะกลับคืนสู่ร่างที่แท้จริงและมีพลังเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายสิบเท่า เรียกว่า Resurrection สำหรับเผ่าอารันคาร์ อ.คุโบ เลือกที่จะให้ชื่อและชื่อของดาบฟันวิญญาณเป็นภาษาสเปน (แม้แต่เพลงประกอบในอะนิเมะก็เลือกใช้ดนตรีในสไตล์สเปนหรือลาตินอเมริกา)
เดิมที อารันคาร์มีจำนวนน้อยแต่เดิม และเป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อได้รับพลังจากโฮเงียวคุของไอเซ็น อารันคาร์จึงพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด จนถึงระดับสมบูรณ์แบบ(แต่จากเนื้อเรื่องปัจจุบัน ยังไม่มีอารันคาร์ที่สมบูรณ์แบบเลยยกเว้น วอนเดอร์ไวซ์ ที่เกิดจากโฮเงียคุที่มีพลังเต็มร้อย)
อารันคาร์ที่ถูกคัดเลือก 10 ตน จะถูกเรียกว่า เอสปาด้า (Espada) และจะมีอำนาจปกครอง อารันคาร์ด้วยกันเอง เอส ปาด้าแต่ละตนจะมีวังอยู่ใน ลาส์ นอเช่ ซึ่งแต่ล่ะวังจะล้อมรอบวังของไอเซ็นเอาไว้ เอสปาด้ามีสิทธิ์เลือกคนสนิทไว้ใช้สอยตามแต่ตัวเองจะพอใจ ซึ่งเรียกอารันคาร์ที่เป็นคนสนิทของเอสปาด้าว่า ฟราเชี่ยน(fracion) แต่ที่จริงแล้วเอสปาด้าจะเรียงจากเบอร์ 0-9 และตนที่เป็นเบอร์ 0 ก็คือยามี่ เอสปาด้าจะมีความสามารถในการใช้เหตุผลของความ"ตาย" ได้เช่น บารากัน แก่ตายจึงสามารถควบคุมเวลาหรือทำให้ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวหมดอายุไขได้ พวกที่ถูกถอดออกจากเอสปาด้าจะกลายเป็น พรีวารอน เอสปาด้า (อดีตเอสปาด้า) จะมีเลขลำดับเป็นเลข 3 หลัก (เทรสซีรัฟ) ที่จะอยู่ในกำแพงด้านนอกของลาส์ นอเช่
[แก้] เอสปาด้า
เอสปาด้าทั้งหมดมีดังนี้
1. พริเมโร่ เอสปาต้า (Primero Espada)[Coyote Starkk] โคโยเต้ สตาร์ค และ ลิลิเน็ต จินเจอร์แบ็ค เอสปาด้าหมายเลข 1 มักนอนหลับบ่อยๆจึงถูกลิลิเน็ตแกล้ง โดยมีหมายเลขอยู่ที่หลังมือซ้าย ยืนยันโดยbleach ตอนที่ 339 คำปลดปล่อย " จงไล่ต้อน" ลอสโลบอส ( ฝูงหมาป่า )โดน เคียวราคุ ชุนซุย ฆ่าตายแล้ว ยืนยันโดยบลีชตอนที่ 374
2. เซกุนโด้ เอสปาต้า (Segundo Espada) บารากัน ลุยเซนเบิร์น (Barakan) เอสปาด้าหมายเลข 2เป็นชายแก่หน้าบาก และในตอนที่ไอเซ็นบุกโลกมนุษไอเซ็นโดนไฟจากดาบผ่าวิณญาณของหัวหน้าหน่วย 1 ไม่สามารถสั่งการได้ บารากันได้เป็นคนสั่งแทน เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะหยิ่งในตนเอง มีดาบฟันวิญญาณเป็นขวานขนาดใหญ่ ซึ่งหยิบออกมาจากที่นั่ง ปรากฏในตอนที่ 355 และเขาได้ปลดปล่อยดาบออกมาโดยคำปลดปล่อยคือ "จงเสื่อมสลาย" ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "อาโรน์กันเต้(ราชาหัวกะโหลก)" ยังไม่ตาย หรือ มีรอยขีดข่วนเลย (โดนบังไคของซุยฟงยิง)โดน ซุยฟง กับ ฮัจจิ(1ในไวเซิท)ฆ่าตายแล้ว
3. เทรส เอสปาต้า (Tesaro Espada) เทีย ฮาริเบล (Tia Haribell) เอสปาด้าหมายเลข 3 เป็นผู้หญิงเพียงตนเดียวที่เป็นเอสปาด้า ยืนยันโดย bleach ตอนที่ 339 โดยมีหน้ากากฮอลโลว์อยู่ตั้งแต่ปากจนถึงบริเวณหน้าอก และมีหมายเลข 3 สักไว้ที่หน้าอกข้างขวา มีดาบฟันวิญญาณชื่อ ทิบูรอน คำปลดปล่อยคือ "จงโรมรัน" จะกลายเป็นดาบคล้ายฉลามเงิน โดยดาบจะอยู่ที่มือข้างขวา(แต่ทำไมก็ไม่รู้ว่า หมายเลข 3 ต้องเป็นผู้หญิงเสมอนะ) โดนท่าไม้ตายของฮิซึงายะแล้วยังรอด แต่โดนไอเซ็นฆ่าเองกับมือ ยืนยันโดยบลีชตอนที่ 375
4. ควอโทร เอสปาด้า (Cuator Espada) อุลคิโอร่า ชิฟเฟอร์ (Ulquiorra Schiffer) มีดาบฟันวิญญาณชื่อว่า มูรเซียร์เอลาโก้ คำปลดปล่อยคือ "จงพันธนาการ" และเขามีหมายเลข 4 อยู่ทางด้านหน้าอกข้างซ้าย ได้พ่ายแพ้ให้กับฮอลโลว์ในตัวของคุโรซากิ อิจิโกะ และสิ้นชีวิตเองเนื่องจากอวัยวะภายในบอบช้ำเป็นอย่างมากจนไม่สามารถฟื้นฟู ได้ จนสลายเป็นเถ้าถ่านไปในที่สุด [Ulquiorra เป็นเพียงเอสปราด้าตนเดียวที่สาสมารถ ปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณได้ถึงขึ้นที่ 2 ยืนยันโดย Bleach 348 ข้าเป็นเอสปาด้าเพียงตนเดียว ที่สามารถปลดปล่อยได้ถึงสองระดับ แม้แต่ท่านไอเซ็น ก็ไม่เคยเห็นข้าแบบนี้]
5. ควินโต้ เอสปาต้า (Quinto Espada) นอยโทร่า จิลก้า (Noitora Jilka)อดีตเอสปาด้าหมายเลข 8 (อ้างอิงจาก เล่ม 33 หน้า 155 ช่องที่ 1 จากทางด้านขวา) มีหมายเลข 5 อยู่ที่ลิ้นของตนเอง เป็นคนที่เคียดแค้นเนเลียน ที่แข็งแกร่งกว่าตน เนื่องจาก เขาไม่ชอบให้มีผู้หญิงอยู่ในสนามรบ และมักจะหาเรื่องให้เนเลียนสู้ได้ทุกครั้งเลย (แต่ไม่รู้ในใจคิดอย่างไรนะ) สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตด้วยฝีมือของ ซาราคิ เค็นปาจิ ที่ใช้วิชา เค็นโด้ ในการจับดาบ 2 มือปลิดชีพ
เวลาจะปลดปล่อยดาบจะใช้ชื่อว่า "จงภาวนา" ซานต้าเทเรซ่า (บทภาวนาตั๊กแตนตำข้าว) โดยร่างกายจะมีแขนเป็น 6 แขน และถืออาวุธข้างละ 1 แขน
6. เซ็คต้า เอสปาด้า (Sextar Espada) กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค (Grimjaw Jackerjack)กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค มีหมายเลข 6 อยู่ที่หลังทางด้านขวา ข้าง ๆ รูโบ๋กลางลำตัว เป็นเอสปาด้าที่ค่อนข้างเที่ยงตรง และ ไม่ชอบหน้าของผู้ที่อ่อนแอ ปะทะกับอิจิโกะมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งปัจจุบันไม่รู้ว่าตายหรือยัง แต่ถือว่าเป็นคนดีในระดับหนึ่ง ที่รักษาแผลของอิจิโกะให้ และช่วย โอริฮิเมะมา สุดท้ายอิจิโกะก็สามารถเอาชนะกริมจอว์ได้
เวลาจะปลดปล่อยดาบจะใช้ชื่อว่า จงเสียดเสียง แพนเทร่า (ราชันย์พยัคฆ์เปล่งเสียง) โดยรูปร่างของตนจะมีร่างกายคล้ายพยัคฆ์แต่จะมีความเร็วและรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
7. เซปติโม่ เอสปาต้า (Semtimo Espada) โซมารี เลอรูซ์ (Zomari Le Roux)โซมารี เลอรูว์ ไม่ปรากฏว่าตัวเลข 7 นั้นอยู่ตรงไหน เป็นคนที่ศรัทธาในตัวไอเซ็นมากที่สุดใน 10 คน ถือเป็นคนที่ฉลาดพอดู ปะทะกับคุจิกิ เบียคุยะ เลยทำให้รู้ว่า ถึงจะควบคุมสิ่งที่ก็ตาม การควบคุมก็มีจำกัด ไม่สามารถควบคุมไปได้ทั่วถึงนั้นเอง สุดท้ายก็ตามด้วย เซ็มบ้งซากุระ คาเงโยชิ ของเบียคุยะ
เวลาจะปลดปล่อยดาบจะใช้ชื่อว่า จงสงบนิ่ง บรูเฮเรีย (นักบวชเนตรคำสาป) โดยร่างกายจะเป็นดวงตา 50 ดวง มีความสามารถในการควบคุมสิ่งที่ดวงตามองนั้นมองเห็น
8. อ็อคตาบา เอสปาด้า (Octava Espada) ซาเอล อพอลโล แกรนท์ (Szayel Aporro Grant)ไม่ปรากฏว่าหมายเลข 8 อยู่ที่ไหน เป็นนักวิทยาศาสตร์คล้ายมายูริ แต่ทว่าเป็นผู้มีไสยศาสตร์ด้วยในการใช้ ตุ๊กตาลงทัณฑ์ ในอดีตเป็นคนที่ช่วยให้นอยโทร่า จัดการเนเลียนได้สำเร็จ เป็นผู้ที่แม้บาดเจ็บเพียงใด แค่กินฮอลโลว์ 1 ตัวก็จะสามารถฟื้นฟูตนเองได้อย่างรวดเร็ว แล้วสุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อคุโรซึจิ มายูริ ด้วย ยาอภิมนุษย์ (ยาทำให้เวลาในร่างกายผ่านไปนาน) และพ่ายแพ้ในที่สุด
เวลาจะปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณจะใช้ชื่อว่า จงสูดแทรก ฟอร์นิคารัส (ราชินีมาร) โดยมี 3 ความสามารถคือ 1. ปล่อยน้ำเมือกออกมา เมื่อสัมผัสกับร่างกายใคร ก็จะสร้างตัวปลอมขึ้นมา 2. การดูดมนุษย์เข้าไป และสร้างตุ๊กตาลงทัณฑ์ขึ้นมาแทน 3. กาเบรียล คือ การแฝงตัวเข้าไปในร่างแม่ และฟักตัวใหม่ และคืนชีพออกมาใหม่ (ซึ่งในครั้งนี้เนมุเป็นผู้เคราะห์ร้ายไปแต่มายูริก็ช่วยเอาไว้ได้)
9. นูเบโน่ เอสปาด้า (Noveno Espada) อาโรนีโร่ อาลูเอรี่ (Aoniro Aruerie)เป็นกิลเลียนตนเดียวในเอสปาด้าหมายเลข 9 อยู่ที่สมองของเขาเอง ในอดีตเป็นฮอลโลว์ที่ชิบะ ไคเอ็น เสี่ยงชีวิตเข้าไปต่อสู้ และได้สิ้นชีพ เพราะคุจิกิ ลูเคีย (อ่านในเล่ม 16) วิญญาณของฮอลโลว์ตัวนั้นจึงมาที่ ฮูเอโกมุนโด้ และได้ใช้ร่างสุดท้ายที่สิง ก็คือชิบะ ไคเอ็น มาใช้ได้ เป็นเอสปาด้าคนเดียวที่เป็นอารันคาร์ที่พัฒนาได้ไม่หยุดยั้ง สุดท้ายก็สิ้นชีวิตโดย คุจิกิ ลูเคีย
เวลาจะปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณจะใช้ชื่อว่า จงกลืนกินให้หมดสิ้น โกลโตเนเรีย (กลืนกินฮอลโลว์) และเวลาใช้ร่างชิบะไคเอ็นจะปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณจะใช้ชื่อว่า น้ำแห่งฟากฟ้าจงคลี่คลาย เนจิบานะ (ดอกเกศานารี)
10. เดซิโม่ เอสปาด้า (Dasimo Espada) ยามี่ เรียลโก้(Yammy Rialgo) เอสปาด้าหมายเลข 10 มีดาบฟันวิญญาณชื่อ Era(ไอย์ร่า)(อสูรกราดเกรี้ยว) คำปลดปล่อยคือ"จงทำลาย" แต่แท้ทีจริงแล้วยามี่เป็นเอสปาด้าหมายเลข 0 ซึ่งเมื่อปลดปลอดดาบด้วยพลังเต็มที่แล้ว เลข 10 จะกลาย เป็นเลข 0 (เลข 1 หลุดออกไป) หรือคือ ซีโร่ เอสปาด้า (Zero Espada)ซึ่งแข็งแกร่งมาก
[แก้] อดีตเอสปาด้า
อดีต เอสปาด้า (จากความทรงจำของ Dordoni ทำให้เราทราบว่าแต่เดิมก็มีอารันคาร์ระดับเอสปาด้าอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ "โฮเคียคุ" มาทำให้อารันคาร์รุ่นใหม่ๆ มีความแข็งแกร่งสูงกว่าอารันคาร์ที่เป็นเอสปาดารุ่นเก่า เอสปาด้ารุ่นเก่าหลายคนจึงถูกลดขั้นลงมา)
(อดีตเอสปาด้า) เนเลียล โท โอเดลชูแวงค์ (Neliel to O'dell Svank) อดีต เอสปาด้า หมายเลย 3 มี Pesshe กับ Dondojacker เป็น fraccion พ่ายแพ้ให้กับนอยโทรา(ภายใต้ความช่วยเหลือของซาเอลอพอลโล) จนศูนย์เสียพลังและความทรงจำไปช่วงหนึ่ง อันเป็นการบ่งบอกว่า ไม่ว่าฝีมือเก่งกาจปานใด แต่ "จุดอ่อน" ของอารันคาร์ก็คือ "หน้ากาก" ที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้านั่นเอง
(อดีตเอสปาด้า) ลูปี (Lupe) สิ้นชีวิตด้วยฝีมือ กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค อดีตเอสปาด้า หมายเลข 6 (หลังจากกริมจอร์แขนขาดด้วยฝีมือโทเซ็นและเสียตำแหน่งไป ลูปี้ก็ขึ้นมาแทน)
[แก้] เอสปาด้าตกชั้น
103 Dordoni พ่ายแพ้ให้กับ อิจิโกะ เพียงพริบตาเดียว
105 Chirucchi Thunderwitch พ่ายแพ้ให้กับ อิชิดะ
107 Gantenbein Mosqueda พ่ายแพ้ให้กับ ชาโดะ ยาสึโทระ
นอกจากนี้ยังมีอารันคาร์ซึ่งมีเลข 2 หลัก เรียงตามลำดับการเกิดดังนี้
11 Shauron เป็น fraccion ของ กริมจอร์ สิ้นชีวิตด้วยมือ ฮิซึกายะ โทชิโร่ (หัวหน้าหน่วย 10)
13 Eldorado Rineosu เป็น Fraccion ของกริมจอร์ พ่ายให้กับอิคคาคุ(นักสู้ลำดับ 3 หน่วย 11)
15 Ilforte Grantz เป็น Fraccion ของกริมจอร์ พ่ายให้กับ เรนจิ (รองหัวหน้าหน่วย 6)
(ไม่ทราบลำดับ) Nukeim เป็น Fraccion ของกริมจอร์ พ่ายแพ้ให้กับ มัตสึโมโตะ รันงิคุ (รองห้วหน้าหน่วย 10)
16 Deroy เป็น fraccion ของ กริมจอร์ ประมือกับลูเคียแล้วแพ้
(ไม่ทราบลำดับ) Tesla เป็น fraccion ของ นอยโทร่า ถูกเคมปาจิฟันตาย
Wonderwitz อารันคาร์ท่าทางเอ๋อๆ ชอบติดตามโทเซ็น คานาเมะ ไม่ค่อยชอบหน้าอิชิมารุ งิน
หน่วย ล่าสังหาร(Executional Force) ประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นอารันคาร์จำนวนหนึ่ง สวมหน้ากากรูปเขากระทิงหรือวัวเหมือนกันทุกตน ออกปฏิบัติการณ์เป็นกลุ่ม แต่ละตนฝีมือไม่สูงนัก(หมาหมู่ว่างั้น)ได้ปะทะกับคุจิกิ ลูเคียแล้วลูเคียก็สามารถเอาชนะได้
[แก้] ไวเซิร์ด(กองทัพหน้ากาก)
ไวเซิร์ด(Wizard) เป็นอดีตยมทูตขั้นหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วยรุ่นแรกๆ ที่ถูก ไอเซ็น ใช้วิชาต้องห้ามทดลอง ให้ยมทูตกลายเป็นฮอลโลว์การทดลองดูเหมือนจะล้มเหลวแต่สามารถได้ผลตามที่ ไอเซ็นต้องการ เป็นสาเหตุที่ทำให้อุราฮาระ โดนเข้าใจผิดและจึงถูกเนรเทศออกจากโซลโซไซตี้มาอยู่ที่โลกมนุษย์ ซึ่งอุราฮาระได้ใช้โฮเงียคุ ในการรักษาไวซาร์ดให้คงสติไว้ได้นั่นเอง ด้วยเหตุผลที่กล่าวมากลุ่มไวซาร์ดจึงมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ ขั้นสูง และจะมีพลังมากขึ้นอีกเมื่อสวมหน้ากากฮอลโลว์ และนอกจากนี้ยังรู้เรื่องราวความเป็นมาของเหตุการณ์ต่างๆในโซลโซไซตี้และฮู เอโก้ มุนโด้เป็นอย่างดี ซึ่งในโลกมนุษย์ทีปรากฏอยู่รวม 8 คนด้วยกัน 1. ฮิราโกะ ชินจิ (อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 5) 2. ซารุงากิ ฮิโยริ (อดีตรองฯหน่วยที่ 12) 3. มุกุรุม่า เค็นเซย์ (อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 9) 4. คุนะ มาชิโระ (อดีตรองฯหน่วยที่ 9) 5. ยาโดมารุ ริสะ (อดีตรองฯหน่วยที่ 8) 6. ไอคาว่า เลิฟ (อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 7) 7. โอโทโรบาชิ โรจูโร่ (อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 3) 8. อุโชดะ ฮาจิเง็น (อดีตรองฯหน่วยวิถีมาร)
[แก้] ตัวละครหลักระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ
คุโรซากิ อิจิโกะคุโรซากิ อิจิโกะ (ญี่ปุ่น
黒崎一護 Kurosaki Ichigo ?)
ตัวละครเอกของเรื่อง นักเรียนมัธยมปลายที่มีความสามารถมองเห็นและสื่อสารกับวิญญาณได้และเป็นคนที่มีพลังวิญญาณมหาศาล(แต่ควบคุมไม่เป็น) ได้รับถ่ายทอดพลังของยมทูต(ชินิกามิ)จากคุจิกิ ลูเคีย จึงต้องทำหน้าที่เป็นยมทูต(ชินิกามิ)แทนจนกว่าลูเคียจะได้พลังของตนกลับคืนมาและได้สู้กับคุจิกิ เบียคุยะจนสูญเสียพลังยมทูตและได้ไปฝึกกับอุรุฮารา 10 วัน จนได้พลังยมทูตกลับคืนมาและได้ดาบฟันวิญญาณใหม่ชื่อซันเงสึ (ผ่าจันทรา) แล้ว ไปช่วยลูเคียและได้ฝึกกับโยรุอิจิจนปลดปล่อยขั้นสวัสดิกะได้และได้ช่วยลูเคียได้สำเร็จ เขาสับสนกับพลังฮอลโลว์ที่อยู่ภายในตัวเอง ทำไมไม่สามารถใช้พลังต่อสู้ได้อย่างเต็มที่และเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องคนอื่นๆได้ ภายหลังการต่อสู้กับอารันคาร์แล้วได้ไปฝึกกับเหล่าไวเซิร์ด ทำให้สามารถควบคุมฮอลโลว์ในตัวเองให้สงบลงได้ และยังได้ความสามารถของฮอลโลว์มาอีกด้วย
คุจิกิ ลูเคียคุจิกิ ลูเคีย (ญี่ปุ่น
朽木ルキア Kuchiki Rukia ?)ชิคิกามิ (ยมทูต) จากโซล โซไซตี้ ที่ถูกสถานการณ์บังคับให้ถ่ายทอดพลังของตนให้กับคุโรซากิ อิจิโกะ นับจากนั้นเธอก็ใช้ร่างเทียมที่ อุร่าฮาระ ทำขึ้นและย้ายเข้าเข้าโรงเรียนเดียวกับอิจิโกะเพื่อควบคุมให้เขาทำงานของยมทูต(ชินิกามิ)แทนตน ชอบกระต่ายแชปปี้และชอบใส่เสื้อผ้าไม่รัด ในตอนเด็กนั้น เธอเป็นเพื่อนสนิทกับอาบาราอิ เร็นจิ รองหัวหน้าหน่วย 6 ของโซลโซไซตี้ แต่ไม่นานก็ถูกตระกูลคุจิกิรับเป็นน้องสาวบุญธรรม มีดาบฟันวิญญาณชื่อ โซเดะโนะ ชิรายูกิ (หิมะขาวในแขนเสื้อ) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงร่ายรำ"
ซาโดะ ยาสึโทระ
ซาโดะ "แช้ด" ยาสึโทระ (ญี่ปุ่น
茶渡泰虎 Sado Yasutora ?)
เพื่อนร่วมชั้นและเป็นเพื่อนสนิทของอิจิโกะ มีเชื้อสายอเมริกากลาง มีร่างกายกำยำแข็งแกร่ง(ตัวเหมือนเหล็กก็ว่าได้)แต่ร่างกายของเขามีไว้เพื่อปกป้องคนอื่นเท่านั้น ชอบสวมเสื้อยืดฮาวายและใส่สร้อยคอที่มีจี้เป็นเหรียญเม็กซิกัน โดยแขนขวาของเขานั้นคือแขนที่ใช้เพื่อปกป้อง ซึ่งมีวิญญาณอาบูเอโร่ ซึ่งเป็น คนเลี้ยงดูแช้ดเมื่อตอนเด็ก ๆ นั้นสิงสู่อยู่ ส่วนแขนซ้ายของเขามีพลังดิอาโบล หรือ บราโซ อิสคิเอร์ด้า เดล ดิอาโบล (แขนซ้ายแห่งจอมมาร) เพื่อการโจมตีที่ทำให้เขาโค่นอารันคาร์ได้หลายต่อหลายตัว และเขายังไปที่ โซลโซไซตี้ และฮูเอโก้ มุนโด้ กับอิจิโกะด้วย
อิชิดะ อุริวอิชิดะ อุริว (ญี่ปุ่น
石田雨竜 Ishida Uryū ?)
เพื่อนร่วมห้องของคุโรซากิ อิจิโกะ อยู่ชมรมเย็บปักถักร้อย มีฝีมือขั้นเทพ เขาเป็นควินซี่ซึ่งคนที่สอนวิชาแก่เขาคือปู่ของเขาเองซึ่งได้ถูกฆ่าตายโดยพวกฮอว์โลว์ เขาเป็น1 ในกลุ่มคนที่ไปช่วยคุจิกิ ลูเคียจากการถูกประหาร ซึ่งทำให้เขาสูญเสียพลังของควินซี่ไปจากการต่อสู่กับคุโรสึจิ มายูริ หัวหน้ายมทูตหน่วย 12 พ่อของเขา อิชิดะ ริวเค็นได้ฟื้นฟูพลังของควินซี่ให้ โดยแลกเปลี่ยนกับข้อตกลงบางอย่าง คือ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับยมทูตอีกเป็นครั้งที่ 2 แต่อิชิดะก็แอบไป ฮูเอโก้ มุนโด้ กับอิจิโกะและแช้ด และเมื่อไปถึงก็ได้ธนูใหม่ที่ชื่อ งินเรย์ โคจาคุ (เกาทัณฑ์นกกระจอกภูผาเงิน) ซึ่งยิ่งศรได้ 1,200 ดอก ต่อวินาที
อิโนอุเอะ โอริฮิเมะอิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ (ญี่ปุ่น
井上織姫 Inoue Orihime ?)
เป็นเพื่อนร่วมชั้นของอิจิโกะ มีผมสีส้ม เธอแอบชอบอิจิโกะอยู่ เธอมีพี่ชายอยู่ 1 คนแต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว พี่ชายของเธอได้กลายเป็นฮอว์โลว์และเข้ามาทำร้ายเธอ แต่เธอก็ได้ถูกช่วยไว้โดยคุโรซากิ อิจิโกะ และคุจิกิ ลูเคีย กิ๊บติดผมที่เป็นของสำคัญของเธอก็ได้มาจากพี่ชายของเธอเอง พลังของเธอคือ 6 บุปผาโล่พิทักษ์ ที่สถิตอยู่ที่กิ๊บติดผมของเธอ โดยมีฮินางิคุ ไบกอน และลิลลี่ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "ม่านพลังสามสวรรค์ ชั้นขอปฏิเสธ") ที่สามารถยับยั้งภายนอกโล่ (สร้างกำแพงป้องกัน) ซึบากิ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "โล่พิฆาต สวรรค์เดี่ยว ชั้นขอปฏิเสธ") มีความสามารถในการ ยับยั้งสองฟากข้างโล่ (ผ่าศัตรูเป็นสองซีก) ชุนโอ (หัวหน้าหกบุปผาโล่พิทักษ์) และอายาเมะ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "ม่านสวรรค์คู่คืนสู่โล่ ชั้นขอปฏิเสธ") มีความสามารถคือ ยับยั้งภายในโล่ หรือก็คือ "ปฏิเสธเหตุการณ์" เธอสามารถปฏิเสธเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไอเซ็นต้องการพลังของเธอ จึงใช้อุลคิโอร่าไปจับตัวเธอมา ปัจจุบันอยู่ในปราสาทของพวกอารันคาร์ในฮูเอโก้ มุนโด้อาบาราอิ เร็นจิ (ญี่ปุ่น
阿散井恋次 Abarai Renji ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 6 แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์ในโซลโซไซตี้ แม้ว่าในตอนแรกจะปรากฏตัวในฐานะศัตรูกันก็ตาม แต่ในที่สุดก็เป็นเพื่อนกับพวกอิจิโกะในที่สุด จึงทำให้ตอนหลังมักจะถูกส่งตัวมาปฏิบัติงานที่โลกมนุษย์พร้อมกับลูเคียเสมอ โดยหัวหน้าหน่วยของเขา คือ คุจิกิ เบียคุยะ โดยเร็นจิมีเป้าหมายที่จะโค่นเบียคุยะให้ได้อุราฮาระ คิสึเกะ
อดีตหัวหน้าหน่วยที่12 มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือพวกอิจิโกะและคอยฝึกวิชาให้อิจิโกะ ในตัวเขานั้นยังมีปริศนาอีกมากมาย และตัวเขาเองนั้นน่าจะรู้จักกับอิชิดะ ริวเค็น,คุโรซากิ อิชชินเป็นอย่างดีแน่นอน แล้วตัวเขานั้นได้มาช่วยเหลือพวกอิจิโกะต่อสู้กับอารันคาร์โดยได้เข้าต่อสู้กับยามี่อาร์รันคาร์ระดับเอสปาด้าอันดับ10ก็เกือบเอาชนะได้แต่อุลคิโอร่ามาขวางไว้ก่อน
[แก้] โลกมนุษย์
[แก้] ครอบครัวคุโรซากิคุโรซากิ อิชชิน (ญี่ปุ่น
黒崎一心 Kurosaki Isshin ?)
พ่อบ้าๆบอๆของอิจิโกะ เป็นหมอ ปกติแม้จะดูพึ่งพาไม่ค่อยได้ แต่แท้จริงแล้วเป็นอดีตยมทูตระดับหัวหน้าหน่วยที่มีฝีมือแข็งแกร่งคนหนึ่งดาบฟันวิญญาณยังไม่ปรากฏ ดูเหมือนว่าจะรู้จักกับ อิชิดะ ริวเค็น และ อุราฮาร่า คิสึเกะ เป็นอย่างดี
คุโรซากิ มาซากิ (ญี่ปุ่น
黒崎真咲 Kurosaki Masaki ?)
แม่ของอิจิโกะซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว โดยฝีมือของฮอลโลว์ แกรนด์ฟิชเชอร์
คุโรซากิ ยูซึ (ญี่ปุ่น
黒崎遊子 Kurosaki Yuzu ?)
น้องสาวของอิจิโกะ มีความสามารถในการปฐมพยาบาลได้ และเป็นคนที่ตั้งชื่อให้กอนเป็นบอสตาฟแทน เป็นแฟนตัวยงของ ดอน คันออนจิ มีพลังวิญญาณเล็กน้อย
คุโรซากิ คาริน (ญี่ปุ่น
黒崎夏梨 Kurosaki Karin ?)
น้องสาวของอิจิโกะ มีนิสัยห้าวๆเหมือนเด็กผู้ชาย นอกจากนี้ยังมีพลังในการเตะบอลสูง และชอบหาเรื่องคนอื่น แต่จริงๆแล้วก็เป็นคนที่อ่อนโยนคนนึง มีท่าไม้ตายคือ "ชู้ตปลิดชีพ สำนักคาริน" มีพลังวิญญาณมหาศาลในระดับเดียวกับอิจิโกะจึงทำให้คารินเห็นอิจิโกะในร่างยมทูตและภายหลังก็แน่ใจว่าพี่ชายตนเป็นยมทูต
[แก้] ร้านอุราฮาร่าอุราฮาร่า คิสึเกะ (ญี่ปุ่น
浦原喜助 Urahara Kisuke ?)
ชายหนุ่มวัยกลางคนเจ้าของร้านขายของอุราฮาร่า แรกเริ่มเดิมทีเหมือนว่าเขาเป็นเพียงตัวกลางของโซลโซไซตี้ที่มาอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์เท่านั้น แต่ภายหลังเราจะได้รับทราบว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นถึงอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 12 ของโซลโซไซตี้ ที่ถูกเนรเทศออกมาตลอดกาลเพราะสร้างโฮเคียคุขึ้นมา นอกจากนี้แล้วเขายังมีความลับอีกมากมายแต่ก็มีบางอย่างที่แน่ชัดก็คือ ฝีมือดาบของอุราฮาร่านั้นดีสมราคาหัวหน้าหน่วยเลยทีเดียว เขานั้นสนิทกับชิโฮอิน โยรุอิจิ และมีความสามารถทางด้านวิทยาการ(แบบโซลโซไซตี้)อยู่ในระดับสูง เคยรู้จักกับคุโรซากิ อิชชินกับอิชิดะ ริวเคน ผู้เป็นพ่อของอุริวมาก่อน
สึคาบิชิ เท็ตไซ (ญี่ปุ่น
握菱テッサイ Tsukabishi Tessai ?)
ชายวัยกลางคนผู้มีเอกลักษณ์ชอบผูกผ้ากันเปื้อนตลอดเวลา ทำงานอยู่ในร้านของคิสึเกะ มีความสามารถในการใช้วิถีมารได้หลากหลาย และคอยช่วยอุราฮาร่าในการฝึกเหล่าอิจิโกะและเพื่อนอยู่เสมอ
ในสมัยก่อน สึคาบิชิ เท็ตไซ เคยเป็นหัวหน้าหน่วยของสมาคมวิถีมาร โดยมี อุโชดะ ฮาจิเง็น(หรือฮัตช์ หนึ่งในไวเซิร์ด) เป็นรองหัวหน้าหน่วยวิถีมารอยู่ในขณะนั้น
สึมุงิยะ อุรูรุ (ญี่ปุ่น
紬屋雨 Tsumugiya Ururu ?)
เด็กสาวที่ทำงานอยู่ในร้านของคิสึเกะ มักถูกจินตะแกล้งประจำ ทั้งๆที่แก่กว่าจินตะ 3 ปี มีความรู้สึกไวต่อฮอลโลว์สูง และสามารถต่อสู้กับยมทูตได้โดยไม่ต้องมีอาวุธ มีอาวุธประจำกายคือ ปืนใหญ่ และยังเป็นฮีโร่ในนาม "คาราคุระ พิงค์" อีกด้วย
ฮานาคาริ จินตะ (ญี่ปุ่น
花刈ジン太 Hanakari Jinta ?)
เด็กชายที่ชอบอู้งานในร้านของคิสึเกะ มักชอบแกล้งอุรุรุเสมอ มีท่าไม้ตายคือ จิตะโฮมรัน และเป็นฮีโร่ในนาม "คาราคุระ เรด" ร่วมกับคารินอีกด้วยชิโฮอิน โยรุอิจิ (ญี่ปุ่น
四楓院夜一 Shihōin Yoruichi ?)
หญิงสาวผู้ได้รับสมญานาม "เท็นชิ เฮย์ โซบัง" เจ้าหญิงแห่งตระกูลชิโฮอิน และ "เทพพริบตาโยรุอิจิ" เธอเป็นผู้นำตระกูลชิโฮอิน 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูง และยังเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่ 2 รวมถึงหน่วยลงทัณฑ์ของโซลโซไซตี้ ภายหลังถูกถอดถอนเนื่องจากช่วยอุราฮาร่า คิสึเกะหลบหนี ปัจจุบันใช้ร่างแมวสีดำเพื่ออำพรางร่างที่แท้จริง
[แก้] โรงเรียนคาราคุระ
อะริซาว่า ทัตสึกิอาริซาว่า ทัตสึกิ (ญี่ปุ่น
有沢竜貴 Arisawa Tatsuki ?)
เพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสมัยเด็กของอิจิโกะ และกลายเป็นเพื่อนสนิทของโอริฮิเมะสมัยมัธยมต้น มีลักษณะห้าวคล้ายเด็กผู้ชาย มีความสามารถทางการต่อสู้และวาดรูปสูง ว่ากันว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
อาซาโนะ เคโงะ (ญี่ปุ่น
浅野啓吾 Asano Keigo ?)
เพื่อนของอิจิโกะที่ชอบทำตัวบ้าๆบอๆ มีพี่สาวโระ
โคจิมะ มิซึอิโระ(ญี่ปุ่น
小島水色 Kojima Mizuiro ?)
เด็กหนุ่มที่เป็นเพื่อนสนิทของเคโงะ(เป็นคู่หูก็ว่าได้)ชนะเคย์โงะทุกเรื่อง(ยกเว้นความนิยมตัวละครครั้งที่2) งานอดิเรกคือหลีหญิงที่โตกว่า แอบคิดว่าอิจิโกะกับลูเคียเป็นแฟนกัน ชอบใช้มือถือเป็นกิจวัตร มีความเชื่อว่าจะสามารถติดต่อโลกอีกโลกนึงไดนชอบโอริฮิเมะ นิสัยทะเล้นทะลึ่งตึงตัง ชอบทะเลาะกับทัตสึกิเป็นประจำ
โองาวะ มิจิรุ (ญี่ปุ่น
小川みちる Ogawa Michiru ?)
สาวตัวเล็กแอบชอบอิชิดะ มักขอให้อิชิดะเย็บตุ๊กตาให้เสมอๆ
คุนิเอดะ เรียว
เป็นนักวิ่งกรีฑาระยะ100เมตร เธอสามารถสอบเข้าโรงเรียนคาราคุระเป็นอันดับ 1 จึงทำให้อาจารย์หลายคนไม่กล้าหือกับเธอเท่าไรนัก
โอชิมะ เรอิจิ (ญี่ปุ่น
大島麗一 浅野みづ穂 Asano Mizuho ?)
อาจารย์คางิเนะ (ญี่ปุ่น: 鍵根先生 Kagine Sensei ?)
โอจิ มิซาโตะ (ญี่ปุ่น
越智美諭 Ochi Misato ?)
อาจารย์สาวใส่แว่น เป็นคนง่ายๆสบายๆ แม้แต่นักเรียนโดดเรียนยังเช็คชื่อให้ตลอด โอ้ว สุดยอดอาจารย์
[แก้] โซลโซไซตี้
[แก้] 13 หน่วยพิทักษ์
[แก้] หน่วยที่ 1ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ (ญี่ปุ่น
山本元柳斎重國 Yamamoto-Genryūsai Shigekuni ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 1 และเป็นหัวหน้าใหญ่ผู้ควบคุม 13 หน่วยพิทักษ์ในเวลาเดียวกัน คำปลดปล่อยขั้นต้นของดาบฟันวิญญาณคือ "จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน ริวจินจักกะ" (วิถีเพลิงชำระ) โดยจะมีความสามารถเปลี่ยนดาบเป็นพลังไฟความร้อนสูง เป็นดาบฟันวิญญาณสายเพลิงที่เก่าแก่ และ ทรงอานุภาพมากที่สุดในโซลโซไซตี้ซาซาคิเบะ โชจิโร่ (ญี่ปุ่น
雀部長次郎 Sasakibe Chōjirō ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 1 เป็นชายผมสีเงิน สุขุม พูดน้อย มีดาบฟันวิญญาณชื่อ กอนเรียวมารุ (วิญญาณร้าย) คำปลดปล่อยคือ "จงทะลวง"
[แก้] หน่วยที่ 2
อดีตหัวหน้าหน่วย : ชิโฮอิน โยรุอิจิ (ญี่ปุ่น
四楓院夜一 Shihōin Yoruichi ?)
เป็นผู้นำตระกูลชิโฮอิน ขณะนั้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 2 ควบกับหัวหน้าหน่วยลับและหน่วยปราบปราม แต่ถูกปลดออกเนื่องจากช่วยอุราฮาร่า คิสึเกะหลบหนี ปัจจุบันอาศัยอยู่ในร้านอุราฮาร่า และแฝงตัวอยู่ในร่างแมว
บางทีก็ติดต่อกับซุยฟงเพื่อสืบหาเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นในโลกมนุษย์ (ภาค The Movie)ซุยฟง (ญี่ปุ่น
砕蜂 Soifong หรือ Sùifēng ในภาษาจีนกลาง ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 2 แห่ง "13 หน่วยพิทักษ์" และยังควบตำแหน่งผู้บัญชาการของ "หน่วยปราบปราม" แห่ง "หน่วยลับ" ในอดีตเคยเป็นลูกน้องของ ชิโฮอิน โยรุอิจิ เมื่อที่โยรุอิจิยังเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 2 ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "ซึซึเมะบาจิ (ตัวต่อ)" คำปลดปล่อยดาบคือ "จงไล่ล่าเสียบสังหาร" มีท่าดาบคือ "โฮมงกะ (บุปผาลายผึ้ง)" ซึ่งสามารถสร้างตรา ได้ที่ตำแหน่งของศัตรูที่ถูกซึซึเมะบาจิฟัน และถ้าฟันจุดเดิมซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ก็จะทำให้ศัตรูตายในทันที ปลอดปล่อยสวัสดิกะคือ "จาคุโฮไรโคเบ็น(คฑาตัวต่อสายฟ้า)" ซึ่งดูแล้วคล้ายเข็มเล่มโตมากกว่าจะเป็นดาบ ส่วนของดาบที่ติดกับแขนและไหล่นั้นขึ้นรูปเป็นลักษณะคล้ายโล่หรือเกราะ สำหรับบังหน้า ซึ่งเจ้าตัวนั้นก็ไม่ค่อยจะชอบปลดปล่อยสวัสดิกะของตัวเองซักเท่าไหร่เพราะปลดปล่อยสวัสดิกะนี่น่ะมันค้านกับความภาคภูมิใจในฐานะนักลอบสังหารอย่างที่สุดเลย ทั้งขนาดที่ใหญ่โตจนเก็บซ่อนไม่ได้ ทั้งน้ำหนักที่มากเกินกว่าจะใช้พลางเคลื่อนไหวรวดเร็วไปพลาง มันโดดเด่นจนเกินกว่าจะเรียกว่า 'ลอบสังหาร' ได้โอมาเอดะ มาเระจิโยะ (ญี่ปุ่น
大前田希千代 Ōmaeda Marechiyo ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 2 มีร่างกายอ้วนล่ำใหญ่โต ไว้ผมทรงแห้ว และชอบกินขนมกรุบกรอบ มีดาบฟันวิญญาณชื่อ เกะเกะซึบุริ (ห้าหัว) คำปลดปล่อยคือ "จงบดขยี้"
[แก้] หน่วยที่ 3
อดีตหัวหน้าหน่วย : โรส (ญี่ปุ่น
ローズ Rōzu ?)
โรส หรือ ชื่อจริง โอโทริบาชิ โรจูโร่ เป็นอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 3 โดยเขาได้เป็นหัวหน้าหน่วยก่อนอุราฮาระ คิสึเกะเพียง 1 ปีเท่านั้น เขามีรูปร่างสูงใหญ่ ผมบลอนด์และหยักศก คำปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณ "จงบรรเลง" ชื่อดาบฟันวิญญาณ "คินซาระ (ดอกสาละ)"
อดีตหัวหน้าหน่วย : อิชิมารุ งิน (ญี่ปุ่น
市丸ギン Ichimaru Gin ?)
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 3 และอดีตรองหัวหน้าหน่วยที่ 5 ในอดีต เป็นชายตาตี่ขี้เล่นยิ้มตลอด สนิทกับรันงิคุในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก อตีดเป็นรองหัวหน้าของไอเซ็น และปัจจุบันได้เข้าร่วมกับไอเซ็น ดาบฟันวิญญาณของเขาคือ "ชินโซ (หอกเทวะ)" ซึ่งตามปกติจะเป็นดาบสั้นแต่เมื่อเขาปลดปล่อยดาบขั้นต้นแล้วจะตัวดาบจะพุ่งเข้าหาศัตรูอย่างรวดเร็วราวกับยิงออกไป จึงเหมาะสมกับคำปลดปล่อยของเขาที่ "จงพุ่งสังหาร" ยิ่งนัก เป็นที่น่าสังเกตคือ
เวลาปลดปล่อยดาบ งินจะลืมตาทุกครั้ง ทั้งที่ปกติแล้วจะหลับตาอยู่เสมอ
อดีตหัวหน้าอามางาอิ ชูสึเกะ (ญี่ปุ่น
天貝繍助 Amagai Shūsuke ?) เป็นหัวหน้าหน่วยที่ 3 คนปัจจุบันแทนอิชิมารุ งินที่ได้เข้าร่วมกับไอเซ็น อามาไกเป็นตัวละครพิเศษที่ปรากฏตัวเฉพาะในอะนิเมะเท่านั้น ลักษณะภายนอกเป็นชายที่ดูซกมกแต่ก็เป็นคนร่าเริงแจ่มใสและไม่ถือตัว เพราะอามาไกเป็นยมทูตที่ใช้เวลาส่วนใหญ่คอยตรวจตราอยู่บริเวณที่ห่างไกลจากโซลโซไซตี้ ในช่วงแรกยมทูตในหน่วยที่ 3 ไม่ค่อยไว้ใจเขาเท่าไหร่นัก ตอนที่เขาแนะนำตัวในที่ทำการหน่วยทุกหน่วย ในอะนิเมะได้ดำเนินเรื่องในส่วนของอามาไกอย่างรวดเร็ว เขามีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เขาเข้ามาเป็นยมทูตใน 13 หน่วยพิทักษ์เพื่อแก้แค้นหัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะที่ฆ่าพ่อของเขาและเก็บไว้เป็นความลับ หลังจากผู้สมรู้ร่วมคิดของเขาถูกฆ่าตาย อามาไกได้ต่อสู้กับหัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะจนกระทั่งถูกอิจิโกะปราบลงและได้รับรู้เรื่องราวที่แท้จริงเกี่ยวกับการตายของพ่อตัวเอง และเขาได้ชดเชยความผิดที่เขาได้กระทำขึ้นมา
ดาบฟันวิญญาณของอามาไกมีชื่อว่า "ไรคะ" (ญี่ปุ่น: 雷火 Raika ?) โดยกล่าวคำปลดปล่อยขั้นต้นว่า "จงตัด" (ญี่ปุ่น: たちきれ tachikire ?) มีลักษณะเป็นดาบฟันวิญญาณยาวสีขาวทั้งเล่ม คมดาบเป็นรูปโค้งคล้ายกับขลุ่ย คมดาบจะส่องแสงเปลวไฟและเกิดความร้อนขึ้น สามารถปลดปล่อยลูกไฟบนพื้นดิน และผ่าไฟเป็นรอยแยกเพื่อโจมตีศัตรู บังไค มีลักษณะเป็นโล่ ขนาดใหญ่คิระ อิซึรุ (ญี่ปุ่น
吉良イヅル Kira Izuru ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 3 เพื่อนร่วมรุ่นของ อาบาราอิ เร็นจิ และ ฮินาโมริ โมโมะ ดูเหมือนจะแอบชอบฮินาโมริอยู่เขาคอยติดตามงิน เพื่อที่จะปกป้องไม่ให้ฮินาโมริเป็นอันตรายแต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล ดาบฟันวิญญาณของเขามีชื่อว่า "วาบิซึเกะ (ขออภัยโทษ)" มีความสามารถในการเพิ่มน้ำหนักของสิ่งที่โดนฟันได้ครั้งละสองเท่า (ตัวอย่าง: 2->4->8->16...) ส่วนคำปลดปล่อยขั้นต้นของเขาคือ "จงเชิดหน้าขึ้น"
[แก้] หน่วยที่ 4อุโนฮานะ เร็ตสึ (ญี่ปุ่น
卯ノ花烈 Unohana Retsu ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 4 ซึ่งเป็นหน่วยรักษาพยาบาล เธอเป็นหัวหน้าที่สงบเรียบร้อยและมากไปด้วยความสามารถ (แต่หากเธอจะโหดเมื่อไหร่ก็สามารถข่มได้แม้กระทั่งหน่วย 11) ดาบของเธอมีชื่อว่า "มินาซึกิ" ถึงแม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดใดๆมากนักแต่เมื่อเธอปลดปล่อยดาบขั้นต้น ดาบจะแปลงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายปลากระเบนยักษ์ที่สามารถบินได้ และสามารถรักษาบาดแผลของคนอื่นได้โดยการกลืนคนผู้นั้นเข้าไปในท้องโคเท็ตสึ อิซาเนะ (ญี่ปุ่น
虎徹勇音 Kotetsu Isane ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 4 เป็นพี่สาวของ โคเท็ตสึ คิโยเนะ นักสู้ลำดับที่ 3 ของหน่วยที่ 13 มีความเชี่ยวชาญด้านวิถีมารเพื่อการสื่อสารภายในโซลโซไซตี้ อิซาเนะเป็นคนที่มีร่างกายสูงใหญ่ แต่มักจะซุ่มซ่ามทำของตกบ่อย และยังชอบฝันร้ายเป็นประจำ ดาบของเธอมีชื่อว่า "อิเทะกุโมะ" เมื่อทำการปลดปล่อยดาบจะมีลักษณะเป็นกิ่งก้าน
อิเอมูระ ยาโซจิกะ (ญี่ปุ่น
伊江村八十千和 Iemura Yasochika ?)
นักสู้อันดับ 3 ของหน่วยที่ 4 เป็นชายร่างสูง สวมแว่นหน้า คอยสั่งการในสถานพยาบาลช่วงที่หัวหน้าและรองหัวหน้าไม่อยู่ยามาดะ ฮานาทาโร่ (ญี่ปุ่น
山田花太郎 Yamada Hanatarō ?)
นักสู้อันดับ 7 ของหน่วยที่ 4 เป็นยมทูตตัวเล็ก ท่าทางเซ่อๆซ่าๆ มักถูกคนในหน่วยหลอกเป็นประจำ มีดาบฟันวิญญาณที่สามารถรักษาบาดแผลได้
โองิโด ฮารุโนบุ (ญี่ปุ่น
荻堂春信 Ogidō Harunobu ?)
ลำดับที่8ของหน่วย4ชอบกวนประสาทลำดับ3อิมูเอระเป็นอย่างมาก
[แก้] หน่วยที่ 5
อดีตหัวหน้าหน่วย : ฮิราโกะ ชินจิ (ญี่ปุ่น
平子真子 Hirako Shinji ?)
อดีตหัวหน้าหน่วย 5 ขณะนั้นไว้ผมยาว ดูไม่ค่อยเอาการเอางานเท่าที่ควร สนิทกับฮิโยริซึ่งขณะนั้นเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 12 มาก่อน และเป็นคนที่คอยสังเกตการอุราฮาร่าขณะที่เขาได้เลื่อนเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 12 ช่วงแรก เป็นไวเซิร์ดที่มาชวนอิจิโกะให้ฝึกพลังฮอลโลว์ในตัว
อดีตหัวหน้าหน่วย : ไอเซ็น โซสึเกะ (ญี่ปุ่น
藍染惣右介 Aizen Sōsuke ?)
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 5 ดาบของเขาชื่อ"เคียวขะซุยเงสึ" (กระจก บุปผา จันทรา วารี) ซึ่งมีพลังในการสะกดโดยสมบูรณ์ เขาได้ใช้พลังของดาบสะกดให้เห็นว่าตนถูกฆ่าตาย เขาเป็นตัวการที่แท้จริงของเหตุการณ์บุก โซลโซไซตี้ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทุกอย่าง แท้จริงแล้วเป้าหมายของเขาคือ "โฮเคียคุ" ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของคุจิกิ ลูเคีย เขาเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฮอว์โลว์กลายเป็นอารันคาร์ได้โดยใช้โฮเคียคุ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าของเหล่าอารันคาร์
ในอดีตเขาเคยเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 5 มาก่อน ขณะนั้นฮิราโกะเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 5 อยู่ โดยไอเซ็นสงสัยในตัวของคิสึเกะมากที่สุดฮินาโมริ โมโมะ (ญี่ปุ่น
雛森 桃 Hinamori Momo ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 5 ฮินาโมริเป็นคนที่ใช้วิถีมารเก่งมากและยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับฮิซึกายะ โทชิโร่ หัวหน้าหน่วยที่ 10 ด้วย ฮินาโมริเคยถูกไอเซ็นช่วยชีวิตจากฮอลโลว์เมื่อยังเป็นนักเรียนในเซย์เรย์เทย์อยู่ ตั้งแต่นั้นเธอจึงรักและนับถือไอเซ็นมาก และตั้งมั่นว่าถ้าได้เป็นยมทูตเมื่อใดเธอจะเข้าสังกัดหน่วยที่ 5 ให้ได้
[แก้] หน่วยที่ 6
อดีตหัวหน้าหน่วย : คุจิกิ งินเรย์ (ญี่ปุ่น
朽木銀嶺 Kuchiki Ginrei ?)
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 6 เป็นปู่ของเบียคุยะ และเป็นหัวหน้าตระกูลคุจิกิในขณะนั้น คอยขัดเกลาเบียคุยะให้เป็นผู้นำตระกูลคุจิกิมาตั้งแต่ยังเล็กคุจิกิ เบียคุยะ (ญี่ปุ่น
朽木白哉 Kuchiki Byakuya ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 6 เป็นหัวหน้าตระกูล "คุจิกิ" 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูง และว่ากันว่าเบียคุยะนั้นมีฝีมือเก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลคุจิกิอันยาวนาน ดาบฟันวิญญาณของเขาคือ "เซมบง ซากุระ(ซากุระพันกลีบ)" มีคำปลดปล่อยขั้นต้นคือ "จงโปรยปราย" เมื่อปลดปล่อยขั้นต้นแล้วใบดาบของดาบจะหายไปกลายเป็นใบมีดเล็กๆนับพันที่สามารถฟันศัตรูให้เป็นชิ้นๆได้อย่างรวดเร็ว และแสงของใบมีดนี้จะเปล่งประกายระยิบระยับราวกับกลีบซากุระ ส่วนชื่อของปลดปล่อยสวัสดิกะคือ "เซมบง ซากุระ คาเงโยชิ" (เงาหาญซากุระพันกลีบ)เซมบงซากุระคาเงโยชิมีรูปร่างที่จริงมีชื่อว่า "เซ็นเคย์ เซมบงซากุระคาเงโยชิ มีรูปร่างเป็นดาบพันเล่มล้อมรอบศัตรู เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสังหาร
ในสมัยก่อนหน่วยที่ 6 มี คุจิกิ งินเรย์ (ซึ่งเป็นปู่ของคุจิกิ เบียคุยะ) เป็นหัวหน้าหน่วย 6 อยู่ในขณะนั้นอาบาราอิ เร็นจิ (ญี่ปุ่น
阿散井恋次 Abarai Renji ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 6 เจ้าของผมแดง แว่นตาราคาแพง (ว่ากันว่าแว่นของเจ้าตัวนั้นมีราคาเท่ากับเงินเดือนครึ่งปีรวมกัน) และรอยสักบนหน้าผากกับลำตัวว่ากันว่าได้มาตอนที่เข้ามาเป็นยมทูต เขาเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ ฮินาโมริ โมโมะ และ คิระ อิซึรุ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนเก่าของ คุจิกิ ลูเคีย มาตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้เข้ามาศึกษาในเซย์เรย์เทย์ ดาบฟันวิญญาณของเขาคือ "ซาบิมารุ" คำปลดปล่อยคือ"จงคำราม" ชื่อของปลดปล่อยสวัสดิกะคือ "ฮีฮีโอ ซาบิมารุ" (ราชันย์บาบูน)
ชิโรงาเนะ มิฮาเนะ (ญี่ปุ่น
銀美羽 Shirogane Mihane ?)
ริคิจิ (ญี่ปุ่น
理吉 Rikichi ?)
ยมทูตในหน่วยที่ 6 ที่ผมมีสายไฟห้อยอยู่ โดยริคิจิเป็นยมทูตเพราะชื่นชมในตัวเร็นจิเป็นอย่างมาก
[แก้] หน่วยที่ 7
อดีตหัวหน้าหน่วย : ไอกาว่า เลิฟ (ญี่ปุ่น
愛川羅武 Aigawa Love ?)
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 7 ในขณะนั้น ไว้ผมทรงแอฟโฟร่ ชอบอ่านการ์ตูนของโชเน็นจั๊มป์ เป็นเพื่อนสนิทของโรสซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 3 ชื่อดาบฟันวิญญาณ "เท็นงูมาระ" คำปลดปล่อยดาบ "จงทุบให้แหลก"โคมามูระ ซาจิน (ญี่ปุ่น
狛村左陣 Komamura Sajin ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 7 ปกติมักจะสวมหมวกปิดบังใบหน้าไว้เสมอ เนื่องจากมีใบหน้าเป็นหมาป่า อดีตเคยเป็นเพื่อนรักกับโทเซ็น คานาเมะ หัวหน้าหน่วยที่ 9 มีดาบฟันวิญญาณ ชื่อ"เท็นเค็น"(เชือกดำ) คำปลดปล่อย "จงกู่ร้อง" ส่วนปลดปล่อยสวัสดิกะชื่อ "โคคุโจเท็นเค็นเมียวโอ"(อนึ่ง ตัว โคคุโจ ในชื่อปลดปล่อยสวัสดิกะของโคมามุระนั้นเป็นชื่อของนรกใหญ่หนึ่งใน 8 ขุมนรก ชื่อว่า กาฬสุตตนรก โดยเป็นนรกที่ลงโทษสัตว์นรกด้วยการจับมัดไว้ด้วยด้ายดำ แล้วใช้มีดผ่าสับร่างเป็นท่อนๆ)
ในสมัยก่อนหน่วยที่ 7 มี ไอคาว่า เลิฟ(1ในไวเซิร์ด) เป็นหัวหน้าหน่วย 7 อยู่ในขณะนั้นอิบะ เท็ตซึซาเอมอน (ญี่ปุ่น
射場鉄左衛門 Iba Tetsuzaemon ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 7 อดีตเคยสังกัดอยู่หน่วยที่ 11 ก่อนมาเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 7 มีความทะเยอทะยานฝึกฝนตนเองเพื่อให้เป็นรองหัวหน้าเสมอ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ละทิ้งสไตล์การต่อสู้ของตัวเอง
อิคคังซากะ จิโรโบ (ญี่ปุ่น
一貫坂慈楼坊 Ikkanzaka Jirōbō ?)
ได้รับฉายาว่า "เคียวสายลม" เป็นผู้ใช้อาวุธบินเก่งสุดในโซโซลไซตี้ ชื่อของดาบฟันวิญญาณของเขาคือ ซันซาคิการาซึ(อีกาทะลวง) คำปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณคือ "จงกระพือปีก"
[แก้] หน่วยที่ 8เคียวราคุ ชุนซุย (ญี่ปุ่น
京楽春水 Kyōraku Shunsui ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 8 เป็นคนเจ้าชู้มาก แถมยังชอบใส่เสื้อผ้าสีสันบาดตาบาดใจ แต่ก็เป็นคนที่มีฝีมือสูงมากคนนึง มีดาบฟันวิญญาณชื่อ "กะเท็นเคียวคตสึ"(บุบผาสวรรค์กระดูกทมิฬ)"คำปลดปล่อย"วายุบุปผาปั่นป่วน เทพบุปผาร่ำร้อง ส่วนปลดปล่อยสวัสดิกะนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด
ในสมัยก่อนหน่วยที่ 8 มี ยาโดมารุ ริสะ (1 ในไวเซิร์ด) เป็นรองหัวหน้าหน่วย 8 อยู่ในขณะนั้น
อดีตรองหัวหน้าหน่วย : ยาโดมารุ ริสะ (ญี่ปุ่น
矢胴丸リサ Yadōmaru Risa ?)
เป็นรองหัวหน้าที่ 8 ขณะนั้น มีนิสัยเงียบขรึม ใส่ชุดยมทูตกระโปรงสั้นเหมือนชุดนักเรียน มีประสบการณ์ในการต่อสู้ขึ้นสูง ได้เข้าไปสืบหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ยมทูตหน่วยที่ 9 หายไปอย่างไร้ร่องรอยอิเสะ นานาโอะ (ญี่ปุ่น
伊勢七緒 Ise Nanao ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 8 เป็นรองหัวหน้าที่เป็นคนคุมหัวหน้าซะงั้น ความเก่งก็อยู่ในขั้นสูงไม่เบา
เอ็นโจจิ ทัตสึฟุสะ (ญี่ปุ่น
円乗寺辰房 Enjōji Tatsufusa ?)
นักสู้ลำดับ 3 ของหน่วยที่ 8 ถูกแช้ดโจมตีขณะที่กำลังผ่านที่ทำการหน่วยที่ 8 ในตอนที่มาช่วยคุจิกิ ลูเคีย
[แก้] หน่วยที่ 9โทเซ็น คานาเมะ (ญี่ปุ่น
東仙 要 Tōsen Kaname ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 9 ตาบอด อดีตเคยมีหญิงสาวที่หลงรักอยู่แต่หญิงสาวคนนั้นถูกฆ่าโดยสามีของหล่อนเอง เขาเป็นคนที่รักความยุติธรรมมาก ปัจจุบันไปเข้าร่วมกับไอเซ็น ชื่อดาบฟันวิญญานคือ ซึซึมูชิ (จิ้งหรีด)คำปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณคือ "จงส่งเสียง" ปลดปล่อยสวัสดิกะคือ ซึซึมุชิ เอ็นม่าโคโรงิ สร้างขอบเขตจำเพาะเพื่อตัดประสาทการรับรู้ทั้ง 4 ของคู่ต่อสู้ได้ แต่หากสัมผัสถูกตัวโทเซ็นจึงจะได้รับประสาทการรับรู้กลับคืนมา
ในสมัยก่อนหน่วยที่ 9 มี มุกุรุม่า เค็นเซย์(1ในไวเซิร์ด) เป็นหัวหน้าหน่วย 9 และมีคุนะ มาชิโระ(1ในไวเซิร์ด) เป็นรองหัวหน้าหน่วย 9 อยู่ในขณะนั้นฮิซากิ ชูเฮย์ (ญี่ปุ่น
檜佐木修兵 Hisagi Shūhei ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 9 ให้ความนับถือโทเซ็น คานาเมะมาก เคยสอบเข้าโรงเรียนยมทูตถึง 2 ครั้ง จึงสามารถเข้าเรียนได้ เขาเป็นรุ่นพี่ของอาบาราอิ เร็นจิ, คิระ อิซึรุ และฮินาโมริ โมโมะ สมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนยมทูตนั้น ฮิซากิ คือรุ่นพี่ปี 6 คนเดียวที่รอดจากการไปอบรมรุ่นน้อง (คนอื่นถูกฮอลโลว์ฆ่าตาย) ซึ่งฮิซากิ และรุ่นน้องทั้งสาม คือ เร็นจิ, คิระ และฮินาโมริ ได้รับการช่วยเหลือจากไอเซ็น โซสึเกะ (อดีต) หัวหน้าหน่วยที่ 5 และอิชิมารุ งิน รองหัวหน้าหน่วยที่ 5 ในเวลานั้น ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ คาเซะชินิ คำปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณคือ "จงสะบั้น"
อุเมซาดะ โทชิโมริ (ญี่ปุ่น
梅定敏盛 Umesada Toshimori ?)
[แก้] หน่วยที่ 10ฮิตสึกายะ โทชิโร่ (ญี่ปุ่น
日番谷冬獅郎 Hitsugaya Tōshirō ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 10 เป็นเด็กอัจฉริยะ มีความสามารถด้านการใช้ดาบสูงพอๆ กับผู้ใหญ่คำปลดปล่อยคือ "จงสถิตเหนือฟ้าเหมันต์" ดาบคือเฮียวรินมารุ ซึ่งเป็นดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในสายน้ำแข็ง เป็นเพื่อนสมัยเด็กของฮินาโมริ โมโมะ ชื่อของการปลดปล่อยสวัสดิกะของฮิตสึกายะคือ "ไดงูเร็น เฮียวรินมารุ (วงแหวนน้ำแข็งดอกบัวโลหิต)"มัตสึโมโตะ รันงิคุ (ญี่ปุ่น
松本乱菊 Matsumoto Rangiku ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 10 เพื่อนสมัยเด็กของอิชิมารุ งิน เคยถูกอิชิมารุช่วยไว้จากการเป็นลม และอิชิมารุยังได้ตั้งให้ "วันที่ได้เจอกันครั้งแรก" เป็นวันเกิดของรันงิคุด้วย มีดาบฟันวิญญานชื่อ "ไฮเนโกะ (แมวขี้เถ้า)" คำปลดปล่อย "จงครํ่าครวญ" ถึงแม้ว่าจะมีหัวหน้าหน่วยอายุน้อยกว่าตัวเองแต่ก็ให้ความเคารพหัวหน้าเป็นอย่างดี
ทาเคโซเอะ โคคิจิโร่ (ญี่ปุ่น
竹添幸吉郎 Takezoe Kōkichirō ?)
[แก้] หน่วยที่ 11ซาราคิ เคมปาจิ (ญี่ปุ่น
更木剣八 Zaraki Kenpachi ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 11 ที่ชอบการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ เป็นหัวหน้าหน่วยเพียงคนเดียว ใน 13 หน่วยพิทักษ์ที่ปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณไม่ได้ ทั้งขั้นต้น และสวัสดิกะ เนื่องจากไม่รู้ชื่อดาบฟันวิญญาณของตัวเอง(ที่จำไม่ได้เพราะเวลาที่สู้ไม่เคยทำไห้เคมปาจิต้องปลดปล่อยดาบ) หลังจากการต่อสู้กับอิจิโกะ มีอยู่ฉากหนึ่งที่ซาราคิ ถามชื่อดาบของตัวเองและหมดสติไป เป็นไปได้ว่าอาจจะถูกดาบฟันวิญญาณ เรียกไปสนทนาด้วย แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ชื่อดาบ และยังปล่ดปล่อยไม่ได้) คลั่งไคล้การต่อสู้ ใช้แต่ฝีมือของตนเองเท่านั้น ไม่พึ่งพาดาบฟันวิญญาณเลย เขาเคยพูดกับอิจิโกะว่า "เลือดแล้วเนื้อที่ถูกฟัดมันเป็นแค่การเสียสละเพื่อจะได้สนุกกับการฆ่ากันเท่านั้น" ตอนสู้กับ นอยโทร่า เคมปาจิ ได้ใช้วิชาเคนโด้ เพื่อเพิ่มพลัง ในการฟันทำให้นอยโทร่า แพ้ไป(เคนโด้ คือ การที่จับดาบ 2 มือ ปกติ เคมปาจิ จะจับดาบแค่มือเดียว)
ในสมัยก่อนผู้ใดที่ได้เป็นหัวหน้าหน่วย 11 จะต้องใช้นามประจำหัวหน้าหน่วยที่สืบทอดกันมา คือ เคมปาจิคุซาจิชิ ยาจิรุ (ญี่ปุ่น
草鹿八千流 Kusajishi Yachiru ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 11 เป็นเด็กที่ถูก ซาราคิ เค็มปาจิ เก็บมาเลี้ยงและตั้งชื่อให้ มักจะเรียกเค็มปาจิว่า เค็นจัง มีความสามารถในการวิ่งได้อย่างรวดเร็วมาก (แต่ปกติจะชอบอยู่บนหลังของ ซาราคิ เค็มปาจิ ซะมากกว่า) แถมยังรั้งตำแหน่ง ประธานสมาคมยมทูตสตรี อีกด้วยมาดาราเมะ อิกคาคุ (ญี่ปุ่น
斑目一角 Madarame Ikkaku ?)
นักสู้อันดับ 3 ของหน่วยที่ 11 มีหัวโล้น ดาบฟันวิญญาณของเขาคือ "โฮซึคิมารุ" คำขึ้นต้นเวลาปลดปล่อย "จงยืดออก" เวลาปลดปล่อยสวัสดิกะชื่อว่า "ริวมอนโฮซึคิมารุ (โคมอสูรลายมังกร)"อายาเซะงาวะ ยูมิจิกะ (ญี่ปุ่น
綾瀬川弓親 Ayasegawa Yumichika ?)
นักสู้ลำดับ 5 ของหน่วยที่ 11 เพื่อนซี้ของมาดาราเมะ อิกคาคุ เป็นคนค่อนข้างรักสวยรักงาม มีดาบฟันวิญญาณชื่อ "รุริอิโระ คุจากุ" ซึ่งตัวยูมิจิกะเองต้องการปกป้องความสามารถที่แท้จริงของดาบฟันวิญญาณตัวเองจากยมทูตคนอื่นๆ จึงมักเรียกชื่อดาบตัวเองว่า "ฟูจิ คุจากุ" เสมอๆ เพื่อให้ดาบฟันวิญญาณของตนปลดปล่อยพลังงานเพียงบางส่วน และสาเหตุที่ยูมิจิกะขอเป็นนักสู้ลำดับที่ 5 เนื่องจากเขาถือว่าเลข 4 ไม่เป็นมงคล คำปลดปล่อย" จงฉีกกระชากคลุ้มคลั่ง "
อารามากิ มาคิโซ (ญี่ปุ่น
荒巻真木造 Aramaki Makizō ?)
นักสู้ในหน่วยที่ 11 ยาจิรุตั้งชื่อให้ว่า มาคิมาคิ, หนวดแหยม เริ่มมีบทบาทจากการพาโอริฮิเมะหนีไปตามคำสั่งของอิชิดะ อุริว โดยมาคิโซพามาที่หน่วยที่ 4 เพื่อให้รับการรักษา
อิจิโนเสะ มากิ (一之瀬 真樹,)(อดีตยมทูต)
นักสู้ในหน่วยที่ 11 หนีออกจากเซย์เรย์เทร์เพราะว่า ซาราคิ เค็นปาจิ ฆ่าหัวหน้าหน่วย 11 คนก่อนจึงไม่อยากเคารพต่อซาราคิ เค็นปาจิ หลังจากที่ไปอยู่กับเบาท์ ก็กลับมาที่โซลโซไซตี้เพื่อขัดขวางพวก ฮิซึกายะที่จะกลับเซย์เรย์เทร์ สุดท้ายก็โดน ซาราคิ เค็นปาจิ (ในสภาพปลดปล่อยเต็มที่) สังหารในที่สุด เเต่เขาก็ถูกคาริยะ จิน หัวหน้าของเบาท์ช่วยเหลือ เเละต่อสู้กับอิจิโกะที่โซเคียคุ หลังจากนั้นเขาคิดจะฆ่าคาริยะ เเต่ด้วยพลังที่มากของคาริยะ จึงทำให้อิจิโนะเสะถูกคาริยะฆ่าในที่สุด
ยาจิรุชอบเรียกว่า มากิจัง ดาบฟันวิญญาณของอิจิโนะเสะ มากิ คือ นิจิคาซึมิ (สายรุ้งอันเปล่งประกาย) เเละ ไซจาคุ นิจิคาสึมิ (ไม่รู้ว่าใช่บังไครึเปล่า)คำปลดปล่อยคือ จงทอเเสงอันเรืองรอง
[แก้] หน่วยที่ 12
อดีตหัวหน้าหน่วย : ฮิคิฟุเนะ คิริโอะ (ญี่ปุ่น
曳舟 桐生 Hikifune Kirio ?)
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 12 ในช่วงเริ่มต้น Turn Back the Pendulum ตามเนื้อเรื่องเธอได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 0 หรือหน่วยพิเศษราชันย์ ซึ่งซารุงากิ ฮิโยรินับถือเธอเหมือนแม่
อดีตหัวหน้าหน่วย : อุราฮาร่า คิสึเกะ
อดีตหัวหน้าหน่วยที่ 12 ตอนนี้กลายเป็นเจ้าของร้านขายขนม เป็นคนทำให้อิจิโกะได้พลังยมทูตคืนมา รวมทั้งฝึกสอนการต่อสู้ให้อิจิโกะด้วย มักจะใส่หมวกและเกี๊ยะ อิจิโกะเลยเรียกว่า "เจ้าหมวกเกี๊ยะ" ก่อนที่จะมารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 12 นั้นเคยเป็นนักสู้อันดับ 3 ของหน่วยที่ 2 และเป็นหัวหน้าหน่วยราชทัณฑ์มาก่อนคุโรซึจิ มายูริ (ญี่ปุ่น
涅マユリ Kurotsuchi Mayuri ?)
หัวหน้าหน่วย 12 เป็นคนชอบทำการทดลองโดยไม่นึกถึงชีวิตและจิตใจของคนอื่น ร่างกายของเขาถูกดัดแปลงจนไม่เหลือความเป็นมนุษย์ เช่น แขนที่ยืดออกได้ ร่างกายสามารถงอกใหม่ได้เมื่อมียากระตุ้น ใบหูที่เปลี่ยนเป็นเคียวได้ เห็นได้จากการที่เขาระเบิดลูกน้องในหน่วยของตัวเองหน้าตาเฉยเพียงเพื่อจับตัวพวกเรียวกะ ความสามารถของดาบฟันวิญญาณของมายูริคือ เมื่อโดนฟันร่างกายของศัตรูจะขยับแขนขาไม่ได้ อดีตเคยเป็นบุคคลอันตรายที่สุดในโลกโซล โซไซตี้มาก่อน แต่เพราะอุราฮาร่ากับฮิโยริเข้ามาในคุกที่ชื่อว่า "รังหนอน" และพาตัวคุโรซึจิไปช่วยงานกองวิทยาการ โดยได้ตำแหน่งรองหัวหน้ากองวิทยาการและนักสู้ลำดับ 3 ของหน่วย 12 มีดาบฟันวิญญาณชื่อ "อะคิโซกิจิโซ" คำปลดปล่อย "จงฉีกกระชาก" ส่วนปลดสวัสดิกะมีชื่อว่า "คอนจิกิอะคิโซกิจิโซ"(อะคิโซกิจิโซสีทอง)
อดีตรองหัวหน้าหน่วย ซารุงากิ ฮิโยริ
อตีตรองหัวหน้าหน่วย 12 เป็นเด็กผู้หญิงนิสัยค่อนข้างห้าวนับถือหัวหน้าฮิคิฟุเนะเหมือนแม่ เกลียดอุราฮาร่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอภายหลังเป็นหนึ่งในไวเซิร์ดคุโรซึจิ เนมุ (ญี่ปุ่น
涅ネム Kurotsuchi Nemu ?)
รองหัวหน้าหน่วยที่ 12 เป็นร่างที่ถูกมายูริสร้างขึ้นมีความสัมพันธ์คล้ายๆพ่อลูกกันเพียงแต่เนมุเป็นคนดีมากกว่า เห็นได้จากการที่เธอแบ่งยาถอนพิษให้อิชิดะดื่ม ร่างกายของเธอก็ถูกดัดแปลงพอๆกับคุโรซึจิ มายูริ เช่น สามารถเปลี่ยนแขนเป็นสว่านได้ อวัยวะภายในมีพิษหลากหลายชนิด มีพละกำลังมหาศาล ยกของหนักกว่าตัวได้หลายเท่า
[แก้] หน่วยที่ 13อุคิทาเกะ จูชิโร่ (ญี่ปุ่น
浮竹十四郎 Ukitake Jūshirō ?)
หัวหน้าหน่วยที่ 13 เป็นหัวหน้าหน่วยเพียงคนเดียวใน 13 หน่วยพิทักษ์ที่ร่างกายอ่อนแอ เขาเป็นโรคปอดตั้งแต่เด็กทำให้ผมกลายเป็นสีขาว แต่ถึงยังงั้นก็เป็นคนเก่งคนนึงทีเดียว เห็นได้จากที่เขาสู้กับยามาโมโต้ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ และเป็นหัวหน้าของลูเคียด้วย มักจะให้ชิบะ ไคเอ็นรับหน้าที่แทนเสมอ มีดาบฟันวิญญาณชื่อ"โซเกียวโนะโคโตวาริ"(ครรลองมัจฉาคู่) "คำปลดปล่อย"จงเป็นเกราะให้กับข้าดุจดั่งเกลียวคลื่น และจงเป็นคมดาบให้กับข้าดุจดั่งอัสนี ส่วนปลดปล่อยสวัสดิกะนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดชิบะ ไคเอ็น (ญี่ปุ่น
志波海燕 Shiba Kaien ?)
อดีตรองหัวหน้าหน่วยที่ 13 เป็นคนร่าเริง รักพวกพ้อง แต่งงานและมีภรรยาแล้ว เสียชีวิตเนื่องจากถูกฮอว์โลว์ที่ฆ่าภรรยาของตนเข้าควบคุมร่างในขณะต่อสู้ และถูกสังหารโดยลูเคีย มีดาบฟันวิญญานชื่อ "เนจิบานะ" คำปลดปล่อยดาบคือ "น้ำแห่งฟากฟ้าจงคลี่คลาย" สมัยยังมีชีวิต ไคเอ็นคือผู้ที่สอนวิชาดาบให้แก่ลูเคีย เป้นคนที่รับหน้าที่แทนหัวหน้าหน่วยเสมอ ลูกน้องบ้างคนเผลอเรียกเขาว่า"หัวหน้า ไคเอ็น"
ชิบะ มิยาโกะ (ญี่ปุ่น
志波都 Shiba Miyako ?)
อดีตนักสู้ลำดับที่ 3 ของหน่วยที่ 13 ภรรยาของชิบะ ไคเอ็น เป็นคนที่มีรูปโฉมงดงามและมีความสามารถมาก จนลูเคียรู้สึกชื่นชมและอยากยึดถือเอาเป็นแบบอย่าง แต่ในวันหนึ่ง มิยาโกะได้พลาดท่าถูกฮอลโลว์สิง ทำให้เธอลงมือฆ่าพวกเดียวกันเอง และถูกฮอลโลว์ตนนั้นกลืนกินเข้าไปในที่สุด
โคสึบากิ เซ็นทาโร่ (ญี่ปุ่น
小椿仙太郎 Kotsubaki Zentarō ?)
นักสู้ลำดับที่ 3 (คนที่1) ของหน่วยที่ 13 มักจะทะเลาะกับคิโยเนะเสมอๆ
โคเท็ตสึ คิโยเนะ (ญี่ปุ่น
虎徹清音 Kotetsu Kiyone ?)
นักสู้ลำดับที่ 3 (คนที่2) ของหน่วยที่ 13 เป็นน้องสาวของโคเท็ตสึ อิซาเนะ รองหัวหน้าหน่วยที่ 4คุจิกิ ลูเคีย
(ดูที่ด้านบน)
คุรุมาดานิ เซ็นโนะสุเกะ (ญี่ปุ่น
車谷善之助 Kurumadani Zennosuke ?)
[แก้] ตระกูลชิบะ
ชิบะ กันจู (ญี่ปุ่น
志波岩鷲 Shiba Ganjū ?)
น้องชายของ ชิบะ คูคาคุ และชิบะ ไคเอ็น เป็นคนอารมณ์ร้อนและมักทำอะไรวู่วาม เคยเกลียดชังยมทูต โดยเฉพาะลูเคีย เพราะเข้าใจว่าลูเคียเป็นคนฆ่าพี่ชายของตน แม้บางครั้งจะดูติงต๊อง แต่ก็เป็นคนที่รักเพื่อนมาก กันจูเป็นผู้ที่พาพวกอิจิโกะไปในเซเรย์เทย์ เมื่อไปถึงก็ได้ต่อสู้กับกับยูมิจิกะ และสามารถเอาชนะได้ วิชาต่อสู้ของเขาคือ วิชาคลื่นหินที่สามารถทำให้สิ่งต่างๆ กลายเป็นทราย
ชิบะ คูคาคุ (ญี่ปุ่น
志波空鶴 Shiba Kūkaku ?)
พี่สาวของ ชิบะ กันจู และน้องสาวของชิบะ ไคเอ็น เป็นคนสร้างปืนใหญ่คูคาคุ และใช้วิถีมารได้เก่งทีเดียวชิบะ ไคเอ็น (ญี่ปุ่น
志波海燕 Shiba Kaien ?)
ลูกพี่ใหญ่ของตระกูลชิบะ (ดูที่ชิบะ ไคเอ็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 13)
โคงาเนะฮิโกะ และ ชิโรงาเนะฮิโกะ (ญี่ปุ่น
金彦・銀彦 Koganehiko-Shiroganehiko ?)
ลูกน้องของคูคาคุ คอยต้อนรับแขกอยู่ภายนอกบ้าน55+
[แก้] ไวเซิร์ดฮิราโกะ ชินจิ (ญี่ปุ่น
平子真子 Hirako Shinji ?)
หนุ่มผมหน้าม้าปริศนา ที่ปรากฏตัวขึ้นมาในโรงเรียนของอิจิโกะ เพื่อจะชักชวนอิจิโกะให้เข้าร่วมกับกลุ่มไวเซิร์ด โดย ฮิราโกะ ชินจิ นั้นเรียกได้ว่าเป็นหัวหน้าของเหล่าไวเซิร์ดเลยก็ว่าได้ หน้ากากฮอลโลว์ของฮิราโกะนั้นจะมีลักษณะคล้ายๆกับหน้าของชาวอียิปต์โบราณ ชินจิเคยเป็นหัวหน้าหน่วย 5 มาก่อน และได้ปลดปล่อยดาบขั้นชิไคแล้ว คือ จงโค่น "ซาคานาเดะ" ซึ่งความสามารถของมันคือตัดความรับรู้ซ้ายขวาด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งไอเซ็นได้ประมาทจึงโดนฟันที่แขนซ้ายเพียงเล็กน้อย บังไคยังไม่ปรากฎ
ซารุงากิ ฮิโยริ (ญี่ปุ่น
猿柿ひよ里 Sarugaki Hiyori ?)
เป็นหนึ่งในไวเซิร์ดที่ปรากฏตัวครั้งแรกในฉบับมังงะบทที่ 189 และในอะนิเมะตอนที่ 112 ลักษณะภายนอกคือเป็นเด็กผู้หญิงผมสีบลอนด์ ผูกผมสองข้าง สวมชุดสีแดงที่มีอักษรอยู่ที่อกเสื้อด้านซ้าย ใส่รองเท้าแตะเป็นประจำ มีนิสัยชอบทำตัวห้าวๆและดุดัน แต่ก็ซ่อนความเศร้าและเหงาเอาไว้ในใจอยู่บ้าง ในครั้งแรกที่ปรากฏตัวเธอมาเร่งให้ฮิราโกะรีบพาอิจิโกะไปหากลุ่มโดยเร็วจนมาเจอกับโอริฮิเมะและแช้ดที่ตามมา จนเกือบจะทำอะไรรุนแรงไป แต่ก็โดนฮิราโกะพาตัวออกมาเสียก่อน ซึ่งเมื่ออิจิโกะมาหาเหล่าไวเซิร์ด เธอก็ได้ใช้พลังของฮอลโลว์เข้าต่อสู้กับอิจิโกะเพื่อเป็นการทดสอบ จนสามารถไล่ต้อนอิจิโกะได้แต่ก็โดนอิจิโกะในสภาพของฮอลโลว์โต้กลับมา และหลังจากที่อิจิโกะสามารถเอาชนะฮอลโลว์ในตัวได้แล้ว เธอก็ได้เป็นคู่ซ้อมให้อิจิโกะในการฝึกควบคุมพลังฮอลโลว์ และ เป็นอดีตรองหัวหน้าหน่วย 12 หน้ากากของเธอจะมีเขาอยู่ตรงกลางหน้าผาก คล้ายยูนิคอร์น และเธอก็ได้ปลดปล่อยดาบแล้วชื่อว่า "คุบิกิริ โอโรจิ(โอโรจิปลิดเศียร)" คำปลดปล่อยคือ "จงสับ" ขณะนี้ถูกไอเซ็นฟันตัวขาด 2 ท่อน
อุโซดะ ฮาจิเง็น (ญี่ปุ่น
有昭田鉢玄 Ushōda Hachigen ?)
เป็นหนึ่งในไวเซิร์ด มีลักษณะรูปร่างใหญ่ที่สุดและสวมชุดทักซิโด้สีชมพู เขามีพลังที่สามารถกางอาณาเขตป้องกัน และสามารถซ่อมแซมสิ่งของได้ ซึ่งเป็นพลังที่คล้ายคลึงกับที่โอริฮิเมะมี เขาเป็นคนที่กางอาณาเขตป้องกันระหว่างที่อิจิโกะกำลังต่อสู้กับด้านฮอลโลว์ในโลกภายใน และช่วยซ่อมสึบากิของโอริฮิเมะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เป็นอดีตรองหัวหน้าหน่วยวิถีมาร หน้ากากของเขาจะคล้ายยักษ์ ด้านหลังหน้ากากเป็นลักษณะคล้ายหมวกขนนกของอินเดียนแดง
ยาโดมารุ ลิซ่า (ญี่ปุ่น
矢胴丸リサ Yadōmaru Risa ?)
หนึ่งในไวเซิร์ด เป็นผู้หญิงสวมแว่นผมสีดำ และสวมชุดนักเรียนแบบญี่ปุ่น เธอเป็นหนึ่งในไวเซิร์ดที่เข้าต่อต้านอิจิโกะที่กลายสภาพเป็นฮอลโลว์ในระหว่างที่กำลังต่อสู้กับด้านฮอลโลว์ในโลกภายใน ชอบอ่านหนังสือโป๊เป็นที่สุด ฝีมือการต่อสู้ของเธอเก่งขั้นสูงทีเดียว และเป็นอดีตรองหัวหน้าหน่วยที่ 8 หน้ากากของริสะคล้ายหน้ากากอัศวิน แต่เป็นรูปข้าวหลามตัด และมีลายไขว้กันเป็นรูปกางเขนอันใหญ่พาดผ่านกลางหน้ากากพอดี ดาบของเธอมีชื่อว่า "ฮากุโระ ทอนโบะ(แมลงปอเหล็กหลอม)" คำปลดปล่อยคือ "จงบดทำลาย"
ไอคาว่า เลิฟ (ญี่ปุ่น
ラヴ/羅武 Ravu/Rabu ?)
หนึ่งในไวเซิร์ด เป็นชายที่มีทรงผมแบบแอฟโฟร์ สวมแว่นดำและชุดพละ เป็นหนึ่งในไวเซิร์ดที่ต่อต้านอิจิโกะในสภาพของฮอลโลว์ เป็นอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 7 หน้ากากของเขาจะดูคล้ายใบหน้าคนบนเสาโทเท็มของอินเดียนแดง ดาบของเขามีชื่อว่า "เท็นงูมารุ" คำปลดปล่อยคือ "จงทุบให้แหลก" มีท่าโชว์เทพ คือ "ฮิฟุคิโนะ โคซึจิ"(ค้อนเพลิงเปลวอัคคี)
โรส(โอโทริบาชิ โรจูโร่) (ญี่ปุ่น
ローズ Rōzu ?)
ไวเซิร์ดอีกคน ใส่ชุดทักสิโด้สีดำ ไว้ผมหยิกสีทอง และเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 3 หน้ากากของเขารูปร่างคล้ายศีรษะกับจงอยปากของนก เป็นเพื่อนกับเลิฟ ดาบของเขามีชื่อว่า "คินชาร่า" คำปลดปล่อยคือ "จงบรรเลง" เมพคิง คือ ท่า "คินชาร่าโซนาต้าหมายเลข 11 อิซาโยอิบาระ"
มุกุรุม่า เคนเซย์(หมัดตะวันตก หกกงล้อ) (ญี่ปุ่น
六車拳西 Muguruma Kensei ?)
หนึ่งในไวเซิร์ดหัวสีเทา ใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขายาว อดีตเคยเป็นยมทูตหัวหน้าหน่วยที่ 9 เคยช่วยชีวิตชูเฮย์จากฮอลโลว์มาแล้วครั้งนึง เป็นคนหงุดหงิดขี้โมโหง่าย และมักจะยิ้มแบบเหี้ยมๆเสมอ ที่หน้าท้องของเคนเซย์มีรอยสักเลข 69 ซึ่งเหมือนกับรอยสักที่แก้มซ้ายชูเฮย์ มีฟันวิญญาณชื่อว่า "ทาชิคาเสะ(วายุตัดปฐพี)" มีคำปลดปล่อยคือ"จงพัดกระหน่ำ"ความสามรถคือดาบจะสลายไป กลายเป็นลมที่มีความคมสูง เข้าฟาดฟันศัตรู บังไคชื่อ "เทดเค็น คาชิคาเซะ"(หมัดเหล็กวายุผ่าปฐพี)ความสามารถคือ ปล่อยพลังที่ออกมาจากหมัด(คล้ายกับแช้ด)
คุนะ มาชิโระ (ญี่ปุ่น
白 Kuna Mashiro ?)
หนึ่งในไวเซิร์ดที่สามารถแปลงเป็นฮอลโลว์ได้นานที่สุด ซึ่งนานถึง 15 ชั่วโมง ฝีมือการต่อสู้ยังไม่แน่ชัด อดีตเคยเป็นรองหัวหน้าหน่วย 9 มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองและชอบแกล้งเคนเซย์
[แก้] อารันคาร์
[แก้] เอสปาด้า
พริเมร่า เอสปาด้าโคโยเต้ สตาร์ค และ ลิลิเน็ต จินเจอร์แบ็ค
เอสปาด้าหมายเลข 1 เขามักจะนอนหลับประจำ ทำให้ถูกลิลิเน็ตแกล้งอยู่บ่อยๆ และเขาดูเหมือนว่าจะมีพลังมาก เวลาปล่อยซีโร่(Cero)ก็แค่พูดแล้วซีโร่ก็จะออกมาเองเลย โดยไม่ต้องทำท่าอะไรเลย สาเหตุการตาย"ความโดดเดี่ยว" การปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณคือต้องมีลิลิเน็ตอยู่ด้วยเนื่องจากสตาร์คแยกตัวลิลิเน็ตจากตัวเค้าเอง โดยปกติแล้วเวลาฮอลโลว์กลายเป็นอารันคาร์ พลังที่แท้จริงก็จะอยู่ในรูปดาบฟันวิญญาณ แต่ในกรณีของสตาร์คแก่นพลังที่แท้จริงของเขากลับแยกออกมาเป็นลิลิเน็ต คำปลดปล่อยคือ"จงไล่ต้อน" ดาบฟันวิญญาณชื่อ"ลอส โลบอส"(ฝูงหมาป่า)
เซกุนโด้ เอสปาด้าบารากัน ลุยเซนบาร์น
เอสปาด้าหมายเลข 2 ลักษณะเป็นชายแก่มีแผลผ่าทแยงมุมที่หน้าเขา ชอบที่จะให้ลูกน้องของตนพูดกับตนเปรียบเสมือนว่าตนเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ ดาบของบารากันมีลักษณะเป็นขวานขนาดใหญ่ โดยหยิบออกมาจากที่บัลลังค์ของตนเอง สาเหตุการตาย"ความแก่ชรา"
มีดาบฟันวิญญาณชื่อ"อาโรกานเต้"(ราชันย์หัวกระโหลก) คำปลดปล่อยคือ"จงเปื่อยสลาย"
เทรส เอสปาด้าเทีย ฮาริเบลล์
เอสปาด้าหมายเลข 3 ลักษณะเป็นผู้หญิงผิวสีคล้ำ ดูท่าทางสงบเงียบ ไม่ประมาทต่อศัตรู และยังเป็นเอสปาด้าตนเดียวที่เป็นผู้หญิงในตอนนี้ คำปลดปล่อยของเธอคือ "จงจู่โจม" ชื่อของดาบคือ"ทีบูรอน(ฉลามจักรพรรดิ)" เมื่อปลดปล่อยแล้วจะมีลักษณะไม่ต่างจากเดิมมากนัก หน้ากากที่ปากจะหายไป สาเหตุการตาย"การเสียสละ"
ควอโทร เอสปาด้าอุลคิโอร่า ชิฟเฟอร์
เอสปาด้าหมายเลข 4 เปรียบเสมือนมือขวาของไอเซ็น มีนิสัยเย็นชาจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เป็นคนที่ไอเซ็นมอบหน้าที่ให้ดูแลโอริฮิเมะขณะอยู่ในฮูเอโด้ มุนโก้ และเป็นคนกำจัดอิจิโกะที่มาช่วยโอริฮิเมะ และในขณะนี้กำลังต่อสู้กับอิจิโกะอยู่ และได้ปลดปล่อยดาบแล้วคือ มูรเซียร์เอลาโก้ คำปลดปล่อยคือ"จงพันธนาการ" และรูปร่างที่แท้จริงคือมีปีกสีดำและผมยาวถึงหลัง และอุลคิโอร่าเป็นคนเดียวที่สามารถปล่อยดาบเป็นขั้นที่2ได้แค่ตนเดียว สาเหตุการตาย"ความว่างเปล่า"นอยโทร่า จิลก้า
เอสปาด้าหมายเลข 5 ดาบของเขาเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว 2 อันต่อกัน เขาสามารถรับหมัดของแช้ด (ในBleach เล่ม30)ได้ แล้วใช้ดาบของเขาฟาดเข้าใส่แช้ดทันที ซึ่งแม้แต่โล่ของเขาก็ยังกันไม่อยู่จึงเสียท่า กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่ 11 ซาราคิ เคมปาจิ โดยที่ซาราคิเป็นฝ่ายชนะ(มังงะตอนที่316)และก่อนโดนฟันนั้นนอยโทร่าได้นึกถึงคำที่เนลพูดตอนเนลเป็นเอสปาด้าว่า"ง่ายๆนายยังอ่อนแอกว่าชั้น" ดาบของนอยโทร่าคือ ซาตานเทเรสซ่า (บทภาวนาตั๊กแตนตำข้าว) คำปลดปล่อยคือ"จงภาวนา" เมื่อปลดปล่อยออกมาจะมีแขนเพิ่มขึ้นเป็น4-6แขนและหมวกบนหัวจะกลายเป็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว สาเหตุการตาย"ความสิ้นหวัง"กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค
เอสปาด้าหมายเลข 6 มีนิสัยหัวรั้นและอารมณ์รุนแรง เคยพาพวกไปบุกโลกมนุษย์ครั้งหนึ่งแต่กลับพลาดท่า จึงถูกโทเซ็นลงโทษโดยการฟันแขนขาด และตกจากชั้นเอสปาด้า แต่โอริฮิเมะช่วยรักษาแขนให้ จึงได้กลับมาเป็นเอสปาด้าดังเดิม หลังจากนั้นก็มาสู้กับอิจิโกะคำปลดปล่อยคือ "จงเสียดเสียง" ชื่อของมันคือ "แพนเทร่า"(ราชันย์พยัคฆ์) โดยแม้จะปลดปล่อยได้ แต่ก็พ่ายแพ้แก่ อิจิโกะ สาเหตุการตาย"การทำลายล้าง"(อย่างเกิดระเบิดเมื่อตอนมีชีวิต)โซมารี เลอรูซ์
เอสปาด้าหมายเลข 7 เป็นเอสปาด้าผิวดำที่ได้ต่อสู้กับเบียคุยะ ดาบฟันวิญญาณมีชื่อว่า "บรูเฮเรีย" (นักบวชเนตรอาคม) คำปลดปล่อยคือ "จงสงบนิ่ง" แต่เขาก็ถูก คุจิกิ เบียคุยะ ฆ่าไปแล้วด้วยเซ็มบงซากุระ คาเงโยชิ สาเหตุการตาย"ความลุ่มหลง"ซาเอล อพอลโล่ แกรนซ์
อารันคาร์หมายเลข8 มีดาบฟันวิญญานชื่อ "ฟอร์นิคารัส"(ราชินีมาร) คำปลดปล่อยคือ "จงสูดแทรก" ทำหน้าที่เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ของเหล่าอารันคาร์ มีพี่ชายชื่อ อิลฟอร์ท แกรนท์ ที่ถูกเร็นจิกำจัดไปแล้ว ทั้งๆ ที่โดนเร็นจิกับอิชิดะรุมสู้ก็ไม่อาจฆ่าได้ เพระซาเอลได้กินลูกน้องตัวเองจนสามารถรักษาแผลได้ กำลังต้องเผชิญหน้ากับ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่ 12 คุโรซึจิ มายูริ ซึ่งในตอนที่316 มายูริได้แทงดาบเข้าที่มือของซาเอลซึ่งเป็นดาบอาบสารบ้างอย่างเข้าไป มีความสนใจเกี่ยวกับควินซี่เหมือนมายูริ(นิสัยคล้ายๆกัน)ดาบชาเอลนั้นเมื่อปลดปล่อยแล้วจะสามารถสร้างตุ๊กตาจากเลือดของศัตรู(ตุ๊กตาวูดู)มื่อทำอะไรกับตุ๊กตาร่างจริงจะได้รับความเจ็บปวดเมื่อทำกับตุ๊กตา(ตุ๊กตาจะออกมาจะปีกย้อยๆหยดเป็นหยดน้ำแล้วออกมาเป็นตุ๊กตา)สาเหตุการตาย"ความวิปริต"อาร์โรนีโร่ อัลลูเอรี่
เอสปาด้าหมายเลข 9 มีสองหน้าอยู่ในโถแก้ว แล้วสวมหน้ากากซ้ำ เป็นเพียงกิลเลี่ยนเพียงตัวเดียวที่ไต่เต้าขึ้นมาถึงเอสปาด้า ในร่างปลอมเขาจะใช้ใบหน้าของไคเอ็น (อดีตรองหัวหน้าหน่วยที่ 13) ซึ่งแม้เป็นอารันคาร์เขาก็ยังใช้ดาบเนจิบานะของไคเอ็นได้ด้วย ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ กล็อตโนเรีย (กลืนกินฮอลโลว์) ถูกลูเคียสังหาร สาเหตุการตาย"ความโลภ"ยามี่ ริยัลโก้
เอสปาด้าหมายเลข 10 เคยไปโลกมนุษย์กับอุลคิโอร่า และเขาก็ดูดกลืนวิญญาณของคนมากมายไปด้วย ถูกอุราฮาร่าเล่นงานประจำ เขาได้ปลดปล่อยดาบออกมาแล้ว โดยดาบของเขาชื่อว่า"ไอย์ร่า" คำปลดปล่อยคือ "จงทำลาย" ภายหลังเขากลับมาอีกครั้งโดยมีขนาดตัวใหญ่กว่าเดิมและประกาศว่า ตนคือเอสปาด้าหมายเลข 0 สาเหตุการตาย"ความโกรธเกรี้ยว"(เช่นการสู้อย่างบ้าคลั่ง)
[แก้] อดีตเอสปาด้า
ลูปี
อดีตเอสปาด้าหมายเลข 6 ได้เป็นเอสปาด้าในตอนที่กริมจอว์โดนฟันแขนขาด แต่พอกริมจอว์ได้แขนคืนก็ใช้ซีโร ฆ่าลูปีทันที คำปลดปล่อยของดาบฟันวิญญาณคือ "จงรัดพัน" "เทปาโดร่า" (มารดาแห่งเถาวัลย์)
เนล หรือ เนเลียล โท ออนเดลชูเวงก์
เป็นอาร์รันคาร์เด็ก ที่ถูกอิจิโกะช่วยไว้ ความจริงแล้วเนลเป็นอดีตเอสปาด้า แต่ถูกนอยโทร่า เอสปาด้าหมายเลข 5 ผ่าหัวเลยทำให้ความจำเสื่อม อดีตเป็นเอสปาด้าหมายเลข 3 ดาบฟันวิญญานมีชื่อว่า "กามูซ่า" (อัศวินแอนทิโลป) คำปลดปล่อยคือ "จงขับขาน"
[แก้] เอสปาด้าตกชั้น
เอสปาด้าตกชั้น (พรีวารอน เอสปาด้า) หรือ เทรซซีรัฟ (3 หลัก)
ดอลโดนี่
เป็นเอสปาด้าตนหนึ่งที่ถูกคัดให้เป็นอดีตเอสปาด้า ตอนสู้กับอิจิโกะก็แทบไม่ชักดาบเลย มีพลังดาบสายพายุสามารถพัดศัตรูให้กระเด็นได้ ดอลโดนี่ถูกอิจิโกะกำจัด เป็นเอสปาดา No.103 ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "ฮิรัลลูด้า (เจ้าแห่งสลาตัน)" คำปลดปล่อยคือ "จงพัดผัน"
จิรุตจิ ธันเดอร์วิซ
เป็นเอสปาด้าตกชั้นคนเดียวที่เป็นผู้หญิง มีดาบเป็นโยโย่ ซึ่งภายหลังเธอถูกกำจัดด้วยท่าไม้ตาย เชเล่ ชไนเดอร์ ของอิชิดะ ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "โกลอนดรีน่า (กงล้อนางแอ่นเหล็ก)" คำปลดปล่อยคือ "จงขีดข่วนสะบั้น"เป็นเอสปาด้าหมายเลข105
กันเทนไบน์ มอสเคด้า
อารันคาร์ที่ดูจะเป็นสายบู๊สุดๆ เพราะสู้กับแช้ดได้สูสีมาก แต่ก็ถูกแช้ดโค่นได้ ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "ดรากุร่า"(มังกรแห่งความมืด)มีหมายเลขคือ109
[แก้] อาร์รันคาร์ชั้นนูเมรอส
อาร์รันคาร์ชั้นนูเมรอส (เลข 2 หลัก)
เชาหลง ชู่ฟง
อารันคาร์หมายเลข 11 มีดาบฟันวิญญาณที่โหดเหี้ยมมากทีเดียว แต่ถูกฮิทสึกายะกำจัด ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ ทีเจเรต้า (ตัวสามง่าม) คำปลดปล่อยดาบ "จงตัด" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของกริมจอว์
ดี รอย
อารันคาร์ที่เกือบจะฆ่าแช้ดได้ แต่โดนอิจิโกะมาบัง ถูกลูเคียกำจัด หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของกริมจอว์
อิลฟอนท์ แกรนซ์
อารันคาร์ที่ปลดปล่อยดาบมาโค่นอูรุรุ แต่ถูกเร็นจิกำจัด ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ "เดลโทโร่ (เจ้าชายเขาสีน้ำเงิน)" คำปลดปล่อยดาบคือ "จงทิ่มแทง" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของกริมจอว์
เอโดราโด้ เลโอเนส
อารันคาร์หมายเลข 13 ที่มีดาบสายเพลิง ได้สู้กับอิกคาคุและพ่ายแพ้ไป ชื่อดาบฟันวิญญาณคือ วัลคานิก้า (อสูรภูเขาไฟ) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงลุกไหม้" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของกริมจอว์
นาคีม
อารันคาร์ตนเดียวที่ไม่ได้ปลดปล่อยดาบในศึกอารันคาร์ ถูกรันงิคุกำจัด หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของกริมจอว์
ชาร์ลอตเต้ คูลฮอร์น
อารันคาร์รักสวยรักงาม (ตุ๊ด!)คนสนิทของบารากันได้ต่อสู้กับยูมิจิกะ มีดาบฟันวิญญาณชื่อ "เรน่า ดี โรซ่า"คำปลดปล่อยคือ "จงเปล่งประกาย" ท่าไม่ตายคือ "โรซ่า บลังก้า(การพิพากษาแห่งดอกกุหลาบขาว)" หนึ่งในฟราเชี่ยนในสังกัดของบารากัน
ชีนอน โป
อารันคาร์ร่างใหญ่(สูง)เป็นคนที่เงียบ ๆ คนสนิทของบารันการ์ต่อสู้กับอิกกาคุและเอาชนะได้ และได้สู้กับโคมามูระ ดาบฟันวิญญาณคือ"คัลร์เดรอน"คำปลดปล่อยคือ"จงพ่นลมหายใจ"(ปลาวาฬแขนยักษ์) หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของบารากัน
อาบิราม่า เรดเดอร์
อารันคาร์มีรอยเอสติกม่าที่หน้าคล้ายปีกนกในอียิปย์ เป็นคนขี้โหวกเหวกต่อสู้กับคิระ ดาบฟันวิญญาณชื่อ "อากีล่า" คำปลดปล่อยคือ"จงสะบั้นยอดภูผา" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของบารากัน
ฟินดอล คาเรียส
อารันคาร์ผมทองมีหน้ากากปิดเหนือจมูกเมื่อตีหน้ากากไปเรื่อย ๆ คล้ายกับเพิ่มระดับพลังของตัวเอง(เช่นครึ่งหน้าจะเป็นระดับ รองหัวหน้า) ได้ต่อสู้กับฮิซากิ ดาบฟันวิญญาณคือ "พินซากูด้า"(ดาบซุ่มกระแสฟาดฟัน) คำปลดปล่อยคือ "จงตัดผิวน้ำ" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของบารากัน
จีจีโอ เวก้า
อารันคาร์ผมสีดำถักผมเปีย ได้ต่อสู้กับซุยฟงมีความเร็วสูงพอ ๆ กับซุยฟง ดาบฟันวิญญาณคือ"ทิเกรสสตอร์ค"(เขี้ยวพยัคฆ์ไต้ฝุ่น) คำปลดปล่อยคือ"จงฉีกกระชากกัดกิน" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของบารากัน
นิร์เก้ ปาร์ดุ๊ค
อารันคาร์ร่างใหญ่และอ้วน ได้ต่อสู้กับโอมาเอดะ ดาบฟันวิญญาณคือ"มามูต"(ทหารช้างยักษ์) คำปลดปล่อยคือ"จงกระทืบให้แหลกลาญ" หนึ่งในฟราเซี่ยนในสังกัดของบารากัน
อาปาช อารันคาร์หญิงมีนิสัยใจร้อน ขวานผ่าซาก(คล้ายๆกับฮิโยริ)มีดาบฟันวิญญาณ "ซิเอลวาร์" คำปลดปล่อย"จงเผ่าโผน"หนึ่งในฟราเชี่ยนในสังกัดของฮาริเบล ตายด้วย ริวจินจักกะ ของหัวหน้าใหญ่ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ
มิร่า โรส อารันคาร์หญิงมีรูปร่างล่ำเหมือนหุ่นผู้ชาย เป็นคนผิวสี มีดาบฟันวิญญาณ " เลโอน่า " คำปลดปล่อย "จงกัดกินให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย"หนึ่งในฟราเชี่ยนในสังกัดของฮาริเบล ตายด้วย ริวจินจักกะ ของหัวหน้าใหญ่ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ
ชุนชุน อารันคาร์หญิงที่แขนเสื้อยาวจนห้อย มักเอามือปิดปากเวลาพูดเป็นคนสงบเสงี่ยม มีดาบฟันวิญญาณ " อนาคอนด้า " คำปลดปล่อย "จงรัดพันให้บรรลัย"หนึ่งในฟราเชี่ยนในสังกัดของฮาริเบล ตายด้วย ริวจินจักกะ ของหัวหน้าใหญ่ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ
[แก้] อารันคาร์อื่นๆ
วอนเดอร์ไวซ์ มัลเจร่า
อาร์รันคาร์ผมเขียว ที่ดูเหมือนจะสติไม่ค่อยดี มีดาบฟันวิญญาณขนาดใหญ่ห้อยอยู่ที่หลัง ชอบอยู่กับโทเซ็น และมีพลังกดดันวิญญาณระดับเอสปาด้า
ดอนโด้แจ็คเกอร์
หนึ่งในสามฮอลโลว์เชิญยิ้ม แต่หน้าตาหลอนสุดๆ ชอบพูดลงท้ายด้วยคำว่า "เด้อขรั่บเด้อ" เป็นผู้ที่วิ่งตามเร็นจิมาจนมาตกหลุมพรางของซาเอล อพอลโล่ แกรนท์ ไปพร้อมกับเร็นจิ เคยเป็นทหารองค์สนิทของเนลมีท่าไม้ตายรวมกับเปชเช่คือซีโร่ที่คิดค้นขึ้นมาเอง ชื่อว่าซีโร่ซิงเครติโก้[จากตอนที่290กว่า]
เปชเช่ กาตีเช่
ผู้ที่ตามอิชิดะมาในการสู้กับจิรุตจิ ใช้ไม้ตายอินฟินิตี้ สลิค (ลื่นไร้ขีดจำกัด) ใส่จิรุตจิ ทำให้จิรุตจิรู้สึกอับอายมาก จึงปลดปล่อยดาบมาสู้กับอิชิดะและเปชเช่ทันที เปชเช่ชอบเรียกอิชิดะว่าอิจิโกะเ ป็นทหารองค์สนิทเหมือนดอนโด้แจ็คเกอร์ [จากตอนที่290กว่า]
แกรนด์ ฟิชเชอร์
อารันคาร์ที่ฆ่า มาซากิ แม่ของอิจิโกะ เคยพ่ายแพ้ให้กับอิจิโกะครั้งหนึ่ง แต่หนีไปได้ ภายหลังต้องการกลับมาแก้แค้น แต่ก็ถูกอิชชิน พ่อของอิจิโกะสังหารทิ้ง
เดโมร่า
อาร์รันคาร์ตนหนึ่งที่เข้ามาขวาง พวกอิจิโกะตอนที่เพิ่งเข้ามาถึงฮูเอโก้มุนโด้ เป็นอาร์รันคาร์ร่างใหญ่แต่สติปัญญาต่ำ สามารถยืดลิ้นได้ แต่สุดท้ายก็ถูกแช้ดกำจัด
ไอสลิงเกอร์
อาร์รันคาร์อีกตนที่เข้ามาขวางพวกอิจิโกะ ตอนเข้ามาฮูเอโก้มุนโด้ เป็นอาร์รันคาร์ที่หน้ากากเป็นรูปนก ชื่อดาบฟันฟันวิญญาณคือ "อูน่า ทิโรทีล (กระสุนเล็บปลายปีก)" ซึ่งสามารถยิงได้ถึง 108 ดอกติดต่อกัน ถูกอิชิดะกำจัด
[แก้] ตัวละครอื่นๆ
คุจิกิ ฮิซานะ (ญี่ปุ่น
朽木緋真 Kuchiki Hisana ?)
เป็นภรรยาของเบียคุยะ และมีศักดิ์เป็นพี่สาวของลูเคีย เธอเสียชีวิตจากโลกมนุษย์มาอยู่ที่โซล โซไซตี้พร้อมกับลูเคีย หากแต่ด้วยร่างกายที่อ่อนแออยู่เดิมของเธอ ทำให้ไม่อาจรับภาระเลี้ยงลูเคียได้ เธอจึงต้องทิ้งลูเคียไป หลายสิบปีต่อมาเธอก็ได้เข้ามาสู่ตระกูลคุจิกิ แต่เพียง5ปีให้หลังเท่านั้น ร่างกายของเธอก็เกินที่จะทนอยู่ไหว ก่อนที่จะเสียชีวิตเธอขอร้องให้เบียคุยะตามหาน้องสาวของตน และรับเธอเป็นน้องสาวด้วย เพื่อแทนกับสิ่งที่เธอทำกับลูเคียไว้ในอดีต จนในที่สุดฮิซานะก็เสียชีวิตจากร่างกายที่อ่อนแอเกินจะรับได้อีกต่อไปแล้ว
ฮิซานะ มีบทบาทเพียงช่วงย้อนอดีตของเบียคุยะเท่านั้น
คันออนจิ มิซาโอมารุ (ญี่ปุ่น
観音寺ミサオ丸 Kanonji Misaomaru ?) หรือ ดอน คันออนจิ (ญี่ปุ่น: ドン・観音寺 Don Kanonji ?)
ชายหนุ่มผู้อ้างว่าตนเห็นวิญญาณ เขาทำรายการวิญญาณจรที่จะไปสำรวจดูวิญญาณทั่วประเทศญี่ปุ่น แล้วตอนที่ไปเมืองคาราคุระก็ไปพบอิจิโกะ และได้ช่วยกับอิจิโกะต่อสู้ปราบฮอลโลว์สำเร็จ แล้วก็บอกว่าอิจิโกะเป็นลูกศิษย์หมายเลข 1 ของตน
ในภายหลัง คันออนจิได้มาร่วมมือกับจินตะ อุรุรุ ยูซึ และคาริน ซึ่งมาปราบฮอลโลว์ในนาม "คาราคุระ ไรเซอร์"
และหลังจากนั้นอีก เขาก็มาร่วมมือกับกอนที่เป็นคาราคุไรเซอร์ในนาม"คาราคุไรเซอร์ สปริตซ์"
อิโนอุเอะ โซระ (ญี่ปุ่น
井上 昊 Inoue Sora ?)
พี่ชายของโอริฮิเมะที่เลี้ยงดูโอริฮิเมะมาตั้งแต่ยังแบเบาะ แต่ได้เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางจราจรในช่วงที่โอริฮิเมะอยู่ ม.ต้น หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว ดวงวิญญาณก็ยังคงตามคุ้มครองโอริฮิเมะ แต่เมื่อได้เห็นว่าโอริฮิเมะเริ่มหันไปคบหาเพื่อนฝูงจนหลงลืมตนเอง ก็ทำให้ความเหงาและความเศร้าเข้าครอบงำจนกลายเป็นฮอลโลว์ และกลับมาทำร้ายโอริฮิเมะที่โลกมนุษย์
อิชิดะ โซเค็น (ญี่ปุ่น
石田宗弦 Ishida Sōken ?)
เป็นทั้งปู่และอาจารย์ของอิชิดะ อุริว เสียชีวิตเพราะถูกฮอลโลว์ฆ่าตาย แต่แท้จริงแล้ว คุโรซึจิ มายูริ (หัวหน้าหน่วยที่ 12) เป็นคนขอให้ยมทูต (ที่มีหน้าที่ไปต่อสู้กับฮอลโลว์ตัวที่ฆ่าอิชิดะ โซเค็น) ไปช่วยอย่างล่าช้า ทำให้ อิชิดะ โซเค็น เสียชีวิต เพื่อจะนำวิญญาณไปวิจัยเกี่ยวกับควินซี่
อิชิดะ ริวเค็น (ญี่ปุ่น
石田竜弦 Ishida Ryūken ?)
เป็นพ่อของ อิชิดะ อุริว และถึอว่าเป็นควินซี่คนสุดท้าย นอกจากนี้ยังเป็นคนช่วยฟื้นพลังควินซี่ให้ อิชิดะ อุริว อีกด้วย
ชิบาตะ ยูอิจิ (ญี่ปุ่น
シバタユウイチ Shibata Yūichi ?)
เป็นวิญญาณเด็กที่สิงในนกแก้ว แช้ดได้ช่วยไว้จากฮอลโลว์ และได้พบกันอีกครั้งในเมืองลูคอนตัวละครออริจินอล
ตัวละครที่ปรากฏเฉพาะในภาคอะนิเมะ ไม่มีในหนังสือการ์ตูนร่างวิญญาณเทียม
ริริน
เป็นวิญญาณเทียมเพศหญิง มีความสามารถสร้างภาพลวงตาได้ชั่วขณะหนึ่ง เธอจะอาศัยอยู่ในร่างเด็กผู้หญิง ผมสั้นสีเหลือง ใส่เสื้อคลุมไหล่ทับเสื้อสีชมพูอีกที่ ร่างตุ๊กตาเป็นนกหน้าตาประหลาดใส่ชุดสีฟ้าเวลาจับพลังวิญญาณของเบาท์ คู่ของริรินคืออิจิโกะ ซึ่งก็ชอบในรูปร่างอยู่แล้ว
โนวา
เป็นวิญญาณเทียมเพศชาย มีความสามารถคล้ายนินจาและหายตัวได้ อาศัยอยู่ในร่างของชายตัวสูงเช่นกัน แต่ยังสูงไม่เท่าคุโรโดะ ผมสีแดง ใส่ชุดนินจา มีหมวกคลุมศีรษะ มีส่วนที่เป็นขนสัตว์อยู่รอบคอ มีบุคลิกค่อนข้างเงียบขรึม ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ทางหน้าตา ไม่ได้พูดอะไรมาก ร่างตุ๊กตาเป็นเต่ากระดองเขียวใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวมีหูกระต่ายสีแดง เวลาอายหน้าจะแดงและหดตัวเข้าไปในกระดอง คู่ของโนวาคือซาโดะ
คุโรโดะ
เป็นวิญญาณเทียมเพศชาย มีความสามารถในการปลอมตัวเป็นคนอื่นได้ อาศัยอยู่ในร่างของชายตัวสูง มีผม2สี ผมและหนวดสีเหลือง ใส่ชุดและหมวกทรงสูงสีดำมีเส้นสีแดงและเหลืองเล็กน้อย มีนิสัยทะลึ่งนิด ร่างตุ๊กตาเป็นกระต่ายมีขา ไม่มีแขน แต่มีหูยาวเป็นแขนและชูขึ้นชูลงได้ มีสายสะพาย คู่ของคุโรโดะคือโอริฮิเมะ
กอน
เป็นวิญญาณดัดแปลงเพศชายที่มีนิสัยลามกมาก มีพลังขาที่มากกว่าปกติ มีร่างตุ๊กตาเป็นสิงโต คอยตามติดอิจิโกะตลอดเวลาและจะอยู่ในร่างของอิจิโกะเวลาที่อิจิโกะออกจากร่าง (แต่ชอบลูเคียเนื่องจากเธอช่วยให้เขารอดพ้นจากการทำลายของ โซล โซไซตี้)(กอนเป็นตัวเดียวที่ปรากฏในหนังสือการ์ตูน)เบาท์คาริยะ จิน
หัวหน้าพวกเบาท์ ต้งการพลังเพื่อใช้ทำลายล้างโซลโซไซตี้ สุดท้ายตายด้วยฝีมือ คุโรซากิ อิจิโกะ ดอร์ ประจำตัวคือ ลม
โซมะ โยชิโนะ
คุโรโดะ
เป็นวิญญาณเทียมเพศชาย มีความสามารถในการปลอมตัวเป็นคนอื่นได้ อาศัยอยู่ในร่างของชายตัวสูง มีผม2สี ผมและหนวดสีเหลือง ใส่ชุดและหมวกทรงสูงสีดำมีเส้นสีแดงและเหลืองเล็กน้อย มีนิสัยทะลึ่งนิด ร่างตุ๊กตาเป็นกระต่ายมีขา ไม่มีแขน แต่มีหูยาวเป็นแขนและชูขึ้นชูลงได้ มีสายสะพาย คู่ของคุโรโดะคือโอริฮิเมะ
กอน
เป็นวิญญาณดัดแปลงเพศชายที่มีนิสัยลามกมาก มีพลังขาที่มากกว่าปกติ มีร่างตุ๊กตาเป็นสิงโต คอยตามติดอิจิโกะตลอดเวลาและจะอยู่ในร่างของอิจิโกะเวลาที่อิจิโกะออกจากร่าง (แต่ชอบลูเคียเนื่องจากเธอช่วยให้เขารอดพ้นจากการทำลายของ โซล โซไซตี้)(กอนเป็นตัวเดียวที่ปรากฏในหนังสือการ์ตูน)เบาท์คาริยะ จิน
หัวหน้าพวกเบาท์ ต้งการพลังเพื่อใช้ทำลายล้างโซลโซไซตี้ สุดท้ายตายด้วยฝีมือ คุโรซากิ อิจิโกะ ดอร์ ประจำตัวคือ ลม
โซมะ โยชิโนะ
อดีตคนรักของคาริยะ แต่ล่วงรู้ความลับเข้า จึงหลบหนีออกมา และช่วยอิชิดะ สุดท้ายตายด้วยฝีมือ คาริยะ จิน ดอร์ ประจำตัวคือ ไฟ
อุดางาวะ เรียว อยากเป็นหัวหน้าเบาท์เอง สุดท้ายตายด้วยฝีมือ อิจิโนเสะ มากิ ดอร์ ประจำตัวคือ งู
โฮ - บัน
อุดางาวะ เรียว อยากเป็นหัวหน้าเบาท์เอง สุดท้ายตายด้วยฝีมือ อิจิโนเสะ มากิ ดอร์ ประจำตัวคือ งู
โฮ - บัน
ต้องใช้พลังร่วมกันถึงจะควบคุมดอร์ได้ สุดท้ายตายด้วยฝีมือ ชิบะ กันจู ดอร์ ประจำตัว คือ น้ำ
โคงะ โก
เป็นคนตรงไปตรงมา ในอดีตสูญเสียลูกน้องไป พ่ายแพ้ให้กับ ฮิซึกายะ โทชิโร่จนเกือบตายแต่รันเทาช่วยไว้ในฐานะเบาท์คนสุดท้าย ดอร์ ประจำตัวคือ เหล็ก
มาบาชิ
เป็นคนไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่งคาริยะ ชอบความซาดิส สุดท้ายตายด้วยฝีมือ ซุย ฟง ดอร์ ประจำตัวคือ ดอกไม้ที่ควบคุมคู่ต่อสู้ได้
โยชิ
โคงะ โก
เป็นคนตรงไปตรงมา ในอดีตสูญเสียลูกน้องไป พ่ายแพ้ให้กับ ฮิซึกายะ โทชิโร่จนเกือบตายแต่รันเทาช่วยไว้ในฐานะเบาท์คนสุดท้าย ดอร์ ประจำตัวคือ เหล็ก
มาบาชิ
เป็นคนไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่งคาริยะ ชอบความซาดิส สุดท้ายตายด้วยฝีมือ ซุย ฟง ดอร์ ประจำตัวคือ ดอกไม้ที่ควบคุมคู่ต่อสู้ได้
โยชิ
เป็นคนที่มีอาวุธที่เป็นชายและหญิงทั้งสองข้าง สุดท้ายตายด้วยฝีมือ อิชิดะ อุริว ดอร์ ประจำตัวคือ พัด (ซ้าย,หญิง) ดาบ (ขวา,ชาย)
อุงาคิ เป็นนักวิทยาศาสตร์ ผลิต Bitto สุดท้ายตายด้วยฝีมือ อาบาราอิ เร็นจิ ดอร์ ประจำตัวคือ อาวุธชนิดต่างๆ (ใช้เงาเป็นสื่อ)
ซาวาตาริ
อยากเป็นหัวหน้าเบาท์ สุดท้ายตายด้วยฝีมือ คุโรซึจิ มายูริ ดอร์ ประจำตัวคือ ปลา ที่ในท้องเป็นอีกมิติหนึ่ง
อิจิโนเสะ มากิ
เป็นคนที่ในอีกเคียดแค้น ซาราคิ เค็นปาจิ มาก ต่อมา ก็รับรู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเขา ไม่ใช่การช่วยคาริยะ แต่เป็นการแก้แค้นให้หัวหน้าที่ตายแล้วในฐานะอดีตรองหัวหน้า สุดท้ายตายด้วยฝีมือ คาริยะเพราะรู้ความจริง อาวุธประจำตัวคือ ดาบฟันวิญญาณสายวิถีมาร "นิจิกาซึมิ" (สายแสงสว่าง)
รันเทา
อดีตผู้สร้างเบาท์ขึ้น และช่วยดูแลเหล่าเบาท์ สุดท้าย 46 ห้องวังกลาง ก็ลงโทษโดย การขับไล่ออกจากเซย์เรย์เทย์ สุดท้ายเมื่อรู้ว่า คาริยะกลับมา ก็ใช้ร่างของตนเองเปลี่ยนร่างตนเองให้เป็นเบาท์ แต่ก็พลาด สุดท้ายอิชิดะก็ช่วยได้ทัน ดอร์ ประจำตัวคือ ไฟ (คล้ายของโยชิโนะ)
อุงาคิ เป็นนักวิทยาศาสตร์ ผลิต Bitto สุดท้ายตายด้วยฝีมือ อาบาราอิ เร็นจิ ดอร์ ประจำตัวคือ อาวุธชนิดต่างๆ (ใช้เงาเป็นสื่อ)
ซาวาตาริ
อยากเป็นหัวหน้าเบาท์ สุดท้ายตายด้วยฝีมือ คุโรซึจิ มายูริ ดอร์ ประจำตัวคือ ปลา ที่ในท้องเป็นอีกมิติหนึ่ง
อิจิโนเสะ มากิ
เป็นคนที่ในอีกเคียดแค้น ซาราคิ เค็นปาจิ มาก ต่อมา ก็รับรู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเขา ไม่ใช่การช่วยคาริยะ แต่เป็นการแก้แค้นให้หัวหน้าที่ตายแล้วในฐานะอดีตรองหัวหน้า สุดท้ายตายด้วยฝีมือ คาริยะเพราะรู้ความจริง อาวุธประจำตัวคือ ดาบฟันวิญญาณสายวิถีมาร "นิจิกาซึมิ" (สายแสงสว่าง)
รันเทา
อดีตผู้สร้างเบาท์ขึ้น และช่วยดูแลเหล่าเบาท์ สุดท้าย 46 ห้องวังกลาง ก็ลงโทษโดย การขับไล่ออกจากเซย์เรย์เทย์ สุดท้ายเมื่อรู้ว่า คาริยะกลับมา ก็ใช้ร่างของตนเองเปลี่ยนร่างตนเองให้เป็นเบาท์ แต่ก็พลาด สุดท้ายอิชิดะก็ช่วยได้ทัน ดอร์ ประจำตัวคือ ไฟ (คล้ายของโยชิโนะ)
อาวุธ
[แก้] ซัมปาคุโต (ดาบฟันวิญญาณ)
ซัมปาคุโตแต่ละเล่มสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้สามรูปแบบ รูปแบบแรกมีลักษณะเป็นดาบคะตะนะธรรมดา (ทำให้ชินิกามิดูเหมือนซามูไรไปโดยปริยาย) ซัมปาคุโตเกือบทุกเล่มจะดูเหมือนกันในรูปแบบนี้ (อาจแตกต่างกันในเรื่องความยาว รูปแบบกั่นด้ามดาบเป็นต้น)
รูปแบบที่สองเรียกว่า ชิไค (Shikai) หรือปลดปล่อยขั้นต้น ซึ่งซัมปาคุโตทุกเล่มจะแสดงลักษณะเฉพาะตัวของมัน ชิไคของชินิกามิส่วนใหญ่เป็นอาวุธมือที่มีรูปร่างเฉพาะตน บ้างคงรูปดาบญี่ปุ่น บ้างคล้ายดาบจีน บ้างคล้ายดาบเซเบอร์ บ้างเป็นหอก บ้างเป็นมีด เป็นต้น นอกจากนี้ ชิไคแต่ละเล่มยังมีพลังโจมตีเฉพาะตัว เช่น พ่นลูกไฟ พ่นน้ำแข็ง ยึดยาวได้ เป็นต้น
รูปแบบที่สามเรียกว่า บันไค (Bankai - ฉบับภาษาไทยใช้คำว่า ปลดปล่อยสวัสดิกะ) ซึ่งเป็นรูปแบบขั้นสุดยอดของซัมปาคุโต บังไคมีรูปร่างไม่แน่นอน เช่น บังไคของชินิกามิบางตนเป็นกระดูกงูขนาดยักษ์[อาบาราอิ เร็นจิ] บางตนเป็นดาบเล็กๆ นับล้านเล่ม[คุจิกิ เบียคุยะ] บางตนเป็นหุ่นขนาดยักษ์[ซาจิน] หรือแม้แต่ดาบซามูไรธรรมดาๆ แต่เพิ่มความเร็ว พลังของผู้ใช้[คุโรซากิ อิจิโกะ] เป็นต้น บังไคเป็นรูปแบบที่มีพลังโจมตีสูงและสามารถใช้ท่าไม้ตายที่มีความรุนแรงมาก ได้ มีชินิกามิน้อยตนนักที่สามารถบรรลุบันไคของตัวเอง ผู้ที่ปลดปล่อยบังไคได้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เป็นยมทูตในระดับ หัวหน้าหน่วย ใน 13 หน่วยพิทักษ์
[แก้] ชนิดของดาบฟันวิญญาณ
แบ่งตามลักษณะการใช้งาน เช่น
แบบใช้โจมตีโดยตรง เป็นดาบที่เปลี่ยนแปลงรูปร่างไปเพื่อใช้ในการโจมตีทางกายภาพเป็นหลัก เช่น โฮซึคิมารุ(อิกคาคุ) ซาบิมารุ(เร็นจิ) ซันเงสึ(อิจิโกะ) คาเสะชินิ(ชูเฮย์) เกะเกะซึบุริ(โอมาเอดะ) เท็นเค็น(โคมามูระ) และใช้รูปแบบบินโดยใช้พลังวิญญาณควบคุม เช่น เซมบ้งซากุระ(เบียคุยะ) และ ไฮเนโกะ(รันงิคุ)
แบบใช้วิธีมารโจมตี หรือที่เรียกว่าดาบฟันวิญญาณสายวิธีมาร คิโด
สายวิธีทำลาย (ฮาโด) คือดาบที่สามารถส่งคลื่นพลังทำลายออกไปได้ เช่น เบนิฮิเมะ(อุราฮาร่า) โทบิอุเมะ(ฮินาโมริ) กะเท็นเคียวคตสึ(ซุนซุย) โวเกียวโนะโคโตวาริ(อุคิทาเกะ)
สายวิธีพันธนาการ (บาคุโด) คือดาบที่สามารถใช้ความสามารถในการเหนี่ยงรั้ง ตรึงการเคลื่อนไหว สะกดการเคลื่อนไหว สะกดประสาทสัมผัสของคู่ต่อสู้ เช่น เคียวขะซุยเงสึ(ไอเซ็น) รุริอิโระ คุจาคุ(ยูมิจิกะ) ซาคานาเดะ(ฮิราโกะ) ซึซึมุชิ(โทเซ็น) คินซาละ(โรส)
สายพิเศษ สายพลังรักษาอาการบาดเจ็บ เช่น มินาซึกิ(อุโนะฮาน่ะ) ฮิซาโกะมารุ(ฮานะทาโร่) ดาบส่วนนี้ส่วนมากจะอยู่หน่วย 4
แบ่งตามสายพลัง เช่น
สายไฟ เช่น ริวจินจักกะ(ยามาโมโตะ) เท็นกูมารุ(เลิฟ) และ ไรคะ(อามาไก)
สายน้ำแข็ง เช่น เฮียวรินมารุ(ฮิซึกาย่ะ) และ โซเดะโนะชิรายูกิ(ลูเคีย)
สายลม เช่น ทาสึคาเสะ(เคนเซย์)
สายน้ำ เช่น เบจิบานะ (ไคเอ็น)
สายมนุษย์ คือสายที่มีคุณสมบัติเช่นทำให้ประสาทสัมผัสด้านชา หรือผสานรวมกับร่างกายผู้ใช้ เช่น อะซิซางิจิโซ(มายูริ) ซึซึเมะบาจิ(ซุยฟง) ดาบฟันวิญญาณของอารันคาร์
[แก้] ท่าวิชา
[แก้] วิชาของยมทูต
ประกอบด้วยวิชาสี่ประเภทดังนี้
วิชาดาบ (Zanjutsu) ในรูปแบบไม่ปลดปล่อย การใช้งานเหมือนักวิชาดาบทั่วไป แต่เมื่อปลดปล่อยขั้นต้นหรือปลดปล่อยสวัสดิกะ จะมีวิธีการใช้งานแตกต่างกันออกไปแล้วตามความสามารถของดาบและบุคลิกภาพของ เจ้าของ
วิถีมาร (Kidou) เป็นเวทมนตร์ ของยมทูต แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ
วิถีพิฆาตหรือวิถีทำลาย (Hadou)
วิถีผนึกหรือเรียกอีกอย่างว่าวิถีพันธนาการ(Bakudou)
ก้าวพริบตา (Hohou)
การต่อสู้ด้วยมือเปล่า (Hakuda)
อนึ่ง ยังมีวิชาที่ผนวกเอาวิถีมาร(Kidou)กับการต่อสู้ด้วยมือเปล่า(Hakuda)มาผสม กันเกิดเป็นวิชา "ยุทธพริบตา"(Shunko) อันมีลักษณะคล้ายใช้พลังของวิถีมารผสานไปกับกระบวนท่าต่อสู้ ซึ่งคิดค้นโดย ชิโฮอิน โยรุอิจิ ภายหลัง ซุยฟง ได้คิดค้นวิชานี้ขึ้นมาเช่นกัน
ทักษะทั้งสี่ชนิดนั้น สำหรับยมทูตคนหนึ่งๆ จะฝึกฝนให้ช่ำชองทั้งสี่ประเภทเป็นไปได้ยากมาก ยก ตัวอย่างเช่น หน่วย 11 เน้นการต่อสู้ด้วยดาบกันตรงๆ โดยไม่สนใจจะใช้วิถีมาร จึงเป็นที่รวมของเหล่านักดาบฝีมือดี ในขณะที่หน่วยอื่นๆ ก็จะมีคนที่ใช้ทั้งดาบ วิถีมาร ก้าวพริบตา ในการต่อสู้ สำหรับหน่วยลับ ก็เน้น ก้าวพริบตา กับการต่อสู้ด้วยมือเปล่า อย่างชุยฟงซึ่งฝีกมาสองด้านนี้ ดาบฟันวิญญาณของชุยฟงเมื่อปลดปล่อยแล้วกลับมีขนาดเล็ก แต่ความสามารถก็เสริมส่งกับทักษะก้าวพริบตากับการต่อสู้ด้วยท่ามือเปล่าเป็น อย่างดี
ด้วย "ขีดจำกัดวิญญาณ" ดังกล่าว ดังนั้นจึงเกิดแนวคิด "ไขว่คว้าพลังอีกด้าน" มาเสริมขีดจำกัดนั้น อันเป็นที่มาของการที่ ฮอลโลว์ต้องการให้ได้มาซึ่งพลังยมทูตจึงพยายามถอดหน้ากากออกกำเนิดเผ่าอารัน คาร์ หรือยมทูตที่ได้พลังในส่วนฮอลโลว์มาที่เรียกว่า "ไวซาร์ด"
[แก้] วิชาของควินซี่
วิธี ต่อสู้ของควินซี่นั้น เน้นการหยิบยืม "อณูวิญญาณ" ในสภาพแวดล้อมรอบตัวมาควบแน่นด้วยพลังวิญญาณของตัวเองเพื่อสร้างอาวุธ ดังนั้นความแข็งแกร่งของควินซี่จึงขึ้นอยู่กับความชำนาญ การฝึกฝนและสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ ยิ่งอยู่ในพื้นที่ ที่มีอณูวิญญาณหนาแน่นมากเท่าใด (เช่น โซล โซไซตี้ ฮูเอโก มุนโด้ เป็นต้น)
ธนู เป็นการรวบรวมอณูวิญญาณ แล้วควบแน่นด้วยพลังกดดันวิญญาณของควินซี่จนมีรูปร่างเป็นธนู ใช้สำหรับยิงออกไปจู่โจม
เหียบเวหา เป็นท่าก้าวความเร็วสูง คล้ายกับก้าวพริบตาของยมทูต และคล้ายกับโซนีดของอารันคาร์
การ ใช้ Seele Schneider (ซีเล่ ชไนเดอร์) โลหะแบนยาวมีห่วงที่ปลาย เป็นอุปกรณ์รวบรวมพลังกดดันวิญญาณ เมื่อมองเผินๆ เหมือนกับเป็นด้ามดาบที่มีพลังวิญญาณเป็นใบดาบ แต่แท้จริงแล้วมันคือ "ลูกศร" ชนิดหนึ่งที่มีพลังสูงกว่าลูกศรอณูวิญญาณทั่วไป และลูกศรชนิดนี้ อิชิดะ อุริว ได้ใช้ต่อสู้กับอดีตเอสปาด้า (พรีวารอน เอสปาด้า) ที่ชื่อ จิรุตจิ ธันเดอร์วิซ หมายเลข105 และอารันคาร์ตนนี้ก็ได้พ่ายแพ้ต่อ อิชิดะ อุริว หลังจากนั้นจึงโดนพวกหน่วยล่าสังหาร (Executional force) ตามมาฆ่าอีกด้วย
การ ใช้ Sprenger (สเปรนเจอร์) เป็นการวาดดาวห้าแฉกโดยใช้การประสานของ ซีเล่ ชไนเดอร์กับหลอดเงินทำลายทุกอย่างที่อยู่ในรัศมีของมัน ที่ปลายด้ามของซีเล่ ชไนเดอร์จะรวบรวมประจุวิญญาณที่ศัตรูปล่อยออกมาระหว่างการต่อสู้ และสามารถให้มันดูดกลืนพลังที่เก็บไว้และสร้างขอบเขตขึ้นมา และใช้มันวาดออกมาเป็นควินซี่ ไซเชน และขั้นตอนสุดท้ายก็ใช้พลังวิญญาณที่สะสมอยู่ในหลอดเงินเพื่อเป็นตัวจุด ระเบิด และมันมีพลังมหาศาลมากที่สุด
[แก้] วิชาของอารันคาร์
Zero(ซีโร่) หรือลำแสงศูนย์ ซีโร่ เป็นวิชาพื้นฐานหลักของพวกอารันคาร์(ที่เปลี่ยนผ่านมาจาก ฮอลโลว์ชั้น เมนอส กรังเด้) สามารถปล่อยซีโร่ออกมาตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น มือ นิ้ว ปาก เป็นต้น สำหรับอารันคาร์ที่เก่งที่สุด สิบอันดับแรก หรือ เอสปาด้า จะมีซีโร่ที่รุนแรงยิ่งขึ้น เรียกว่า Grand Rei Cero (กรังด์ เรย์ ซีโร่) หรือ ลำแสงศูนย์มหาราชันย์ แต่ตอนที่อุลคิโอร่าปลดปล่อยดาบแล้ว ได้ปล่อยซีโร่ออคคิวรัส(ลำแสงศูนย์ทมิฬ) ซึ่งเจ้าตัวบอกเองว่าแรงกว่า กรังด์ เรย์ ซีโร่ หลายเท่า
Sonido(โซนีด หรือท่าเท้าความเร็วเสียง) เป็นท่าก้าว ความเร็วสูง คล้ายกับวิชา "ก้าวพริบตา" ของยมทูต หรือ "เท้าเหิร" ของควินซี่
Resurrection (รีเซอเรคเชียน) หรือ การปลดปล่อยดาบฟันวิญญาน'ของ อารันคาร์ จะไม่ใช่การปลดปล่อยแบบยมทูต เมื่อปลดปล่อยแล้ว จะแปลงกลับสู่สภาพฮอลโลว์ของตน และมี "ถ้อยคำปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณ" คล้ายยมทูต เช่น จงเสียดเสียง-แพนเทร่า(กริมจอร์ แจ็คเกอร์แจ็ค) จงปิดกั้น-มูรเซียร์เอลาโก้(อุลคิโอร่า ซิฟเฟอร์)
Resurreccion Segunda(รีเซอเรคเชียน เซกันด้า)การปลดปล่อยดาบขั้นที่2ของอารันคาร์(คล้ายๆบังไคของยมทูต)อารัน คาร์ตัวเดียวที่ทำได้คืออุลคิโอร่า
13 หน่วยพิทักษ์
เป็นหน่วยงานของเหล่ายมทูตในโซลโซไซตี้ มีทั้งหมด 13 หน่วยด้วยกัน โดยมีหมายเลขเพื่อบ่งบอกหน้าที่และมีผู้นำมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วย โดยมีหัวหน้าของหน่วยหนึ่งยังดำรงตำแหน่งพิเศษเป็นผู้บังคับการสูงสุดของ 13 หน่วยพิทักษ์
เครื่องแบบของหัวหน้าหน่วยจะแตกต่างจากเครื่องแบบปกติของชินิกามิ เพื่อบ่งบอกโดยใช้เสื้อคลุมยาวสีขาวที่ด้านหลังเขียนหมายเลขของหน่วยทับยูกาตะสี ดำแบบเดียวกับของชินิกามิ
เครื่องแบบของรองหัวหน้าหน่วยนั้นมีปลอกแขนที่มีหมายเลขหน่วย
ภายในแต่ละหน่วยยังมีตำแหน่งที่ลดหลั่นลงมาจาก หัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยอีกหลายชั้น ผู้ถือตำแหน่งเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหมู่ของชินิกามิ ซึ่งในแต่ละหน่วยจะประกอบด้วยหมู่ย่อยๆ อย่างน้อย 20 หมู่ ความแข็งแกร่งของหัวหน้าหน่วยนั้นเหนือกว่าของรองหัวหน้าหน่วยมาก เนื่องจากผู้ที่จะเป็นหัวหน้าหน่วยได้จะต้องสามารถใช้บังไคได้ อย่างเชี่ยวชาญ
มีแต่เพียงหัวหน้าหน่วย 11 ซาราคิ เค็มปาจิ ที่ไม่สามารถใช้ได้ทั้งชิไคและบังไค แต่ด้วยความสามารถส่วนตัวทางการต่อสู้ที่เก่งกาจ ทำให้ได้รับการยอมรับเป็นหัวหน้าหน่วย ส่วนรองหัวหน้าหน่วยนั้นมีเพียงไม่กี่ตนที่สามารถปลดปล่อยบังไคของตัวเองได้ รองหัวหน้าหน่วยที่ปลดปล่อยบังไคได้ ตอนนี้มีเพียง เร็นจิและอิกคาคุไม่ใช่หัวหน้าแต่แรงดันวิญญาณอยู่ในระดับหัวหน้า
[แก้] รายชื่อหัวหน้า,รองหัวหน้า,และดอกไม้ประจำหน่วย
หน่วยที่ 1(หน่วยพิธีกรรม)
หัวหน้าหน่วยและหัวหน้าใหญ่แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเกคุนิ
รองหัวหน้า ซาซาคิเบะ โชจิโร่
ดอกไม้ประจำหน่วย คิคุ(เบญจมาศ) [ความเป็นจริงและความบริสุทธิ์]
หน่วยที่ 2(หน่วยลับ)
อดีตหัวหน้าหน่วย ชิโฮอิน โยรุอิจิ โดนเนรเทศ (โดนข้อหาช่วยเหลือนักโทษอุราฮาร่า คิสึเกะ)
หัวหน้าหน่วยและอดีตรองหัวหน้า ซุยฟง( ฟงเชาหลิน )
รองหัวหน้า โอมาเอดะ มาเระจิโยะ
ดอกไม้ประจำหน่วย โอคินะงุสะ [ไม่ปรารถนาในสิ่งใด]
หน่วยที่ 3(หน่วยสอดแนม)
อดีตหัวหน้าหน่วย โอโทริบาชิ โรจูโร่โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
หัวหน้าหน่วย อิชิมารุ งิน ทรยศและหนีไปร่วมกับอารันคาร์ (1 ในผู้ปกครองอารันคาร์)
หัวหน้าหน่วย อามางิ ซูสึเกะ หัวหน้าหน่วยคนใหม่หลังจากอิจิมารุทรยศ (เฉพาะ ภาคอะนิเมะ)
รองหัวหน้า คิระ อิซึรุ
ดอกไม้ประจำหน่วย คินเซ็นกะ(แมรี่โกลด์,ดาวเรือง) [ความสิ้นหวัง]
หน่วยที่ 4(หน่วยพยาบาล)
หัวหน้าหน่วย อุโนฮานะ เร็ตสึ
รองหัวหน้า โคเท็ตสึ อิซาเนะ
อดีตรองหัวหน้า ยามาดะ เซย์โนะสึเกะ
ดอกไม้ประจำหน่วย รินโด(กระดิ่งลม) [ฉันรักในตัวเธอผู้แสนเศร้า]
หน่วยที่ 5(หน่วยตรวจสอบภายใน)
อดีตหัวหน้าหน่วย ฮิราโกะ ชินจิ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
หัวหน้าหน่วยและอดีตรองหัวหน้า ไอเซ็น โซสึเกะ ทรยศและหนีไปร่วมกับอารันคาร์ (1 ในผู้ปกครองอารันคาร์ และก่อตั้งเอสปาด้า)
รองหัวหน้า ฮินาโมริ โมโมะ
ดอกไม้ประจำหน่วย อาชิบิ(อันโดรเมด้า)[เสียสละ,อันตราย,รักบริสุทธิ์(ออกเดินทางไปด้วยกันสองคนเถอะ)]
หน่วยที่ 6(หน่วยคุมกันและดูแลนักโทษ)
อดีตหัวหน้าหน่วย คุจิกิ รินเงย์ (เสียชีวิตไปแล้ว) [เป็นปู่ของเบียคุยะ]
หัวหน้าหน่วย คุจิกิ เบียคุยะ
รองหัวหน้า อาบาราอิ เร็นจิ
ดอกไม้ประจำหน่วย สึบากิ(คาเมลเลีย) [อุดมคติอันสูงส่ง]
หน่วยที่ 7(หน่วยคุมกันเหตุร้ายภายใน)
อดีตหัวหน้าหน่วย ไอคาว่า เลิฟ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
หัวหน้าหน่วย โคมามูระ ซาจิน
รองหัวหน้า อิบะ เท็ตซึซาเอมอน
ดอกไม้ประจำหน่วย โชวบุ(ไอริส) [ความห้าวหาญ]
หน่วยที่ 8 (หน่วยสืบราชการลับ)
หัวหน้าหน่วย เคียวราคุ ชุนซุย
อดีตรองหัวหน้า ยาโดมารุ ริสะ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
รองหัวหน้า อิเสะ นานาโอะ
ดอกไม้ประจำหน่วย โกคุราคุโจวกะ(ปักษาสวรรค์) [ทุกสรรพสิ่งในกำมือ]
หน่วยที่ 9(หน่วยการคลัง เช่นกักเก็บสินค้า อาหาร เครื่องนุ่งห่ม)
อดีตหัวหน้าหน่วย มุกุรุม่า เค็นเซย์ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
หัวหน้าหน่วย โทเซ็น คานาเมะ ทรยศและหนีไปร่วมกับอารันคาร์ (1 ในผู้ปกครองอารันคาร์)
อดีตรองหัวหน้า คุนะ มาชิโระ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
รองหัวหน้า ฮิซากิ ชูเฮย์
ดอกไม้ประจำหน่วย ชิโรเคะชิ(ป็อปปี้) [ลืมเลือน]
หน่วยที่ 10(หน่วยจัดหาและพิจารนาสินค้า)
หัวหน้าหน่วย ฮิซึกายะ โทชิโร่
รองหัวหน้า มัตสึโมโต้ รันงิคุ
ดอกไม้ประจำหน่วย ซุยเซ็น(นาร์ซิสซัส) [ความลึกลับ,อวดดี]
หน่วยที่ 11(หน่วยดูแลและคุมกันภายใน)
หัวหน้าหน่วย ซาราคิ เคมปาจิ
รองหัวหน้า คุซาจิชิ ยาจิรุ
อดีตรองหัวหน้า อิจิโนเสะ มากิ
ดอกไม้ประจำหน่วย โนโคงิริโซ [การต่อสู้]
หน่วยที่ 12(หน่วยค้นคว้าวิจัย)
อดีตหัวหน้าหน่วย ฮิคิฟุเนะ คิริโอะ เกษียณอายุราชการ
อดีตหัวหน้าหน่วย อุราฮาร่า คิสึเกะ โดนเนรเทศ (เจ้าของร้านอุราฮาร่า)
หัวหน้าหน่วย คุโรซึจิ มายูริ
อดีตรองหัวหน้า ซารุงากิ ฮิโยริ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
รองหัวหน้า คุโรซึจิ เนมุ
ดอกไม้ประจำหน่วย อาซามิ [การล้างแค้น, ความเกรี้ยวกราด, ความเดียวดาย]
หน่วยที่ 13(หน่วยดูแลและคุมกันภัยภายนอก)
หัวหน้าหน่วย อุคิทาเกะ จูชิโร่
รองหัวหน้า ชิบะ ไคเอ็น [ได้เสียชีวิตไปแล้ว]
ดอกไม้ประจำหน่วย มัทสึยูคิโซว(สโนว์ดร็อป) [ความหวัง]
[แก้] ลำดับความแข่งแกร่งของนักสู้ในหน่วย
ลำดับ 3
อิเอมูระ ยาโซจิกะ (หน่วยที่ 4)
เอ็นโจจิ ทัตสึฟุสะ (หน่วยที่ 8)
มาดาราเมะ อิกคาคุ (หน่วยที่ 11)
ชิบะ มิยาโกะ (อดีตหน่วยที่ 13)ถูก เมตัสตาเซีย(ฮอลโลว์) สังหาร [เป็นภรรยาของ ชิบะ ไคเอ็น]
โคเท็ตสึ คิโยเนะ (หน่วยที่ 13)
โคซึบากิ เซ็นทาโร่ (หน่วยที่ 13)
คิฟุเนะ(หน่วยที่ 3)
ลำดับ 4
อิคคังซากะ จิโรโบ (อดีตหน่วยที่ 7)ถูก อิชิดะ อุริว ยิงศรวิญญาณ ตัดโซ่กรรม และวิญญาณหลัก ทำให้สูญเสียพลังยมทูต
ลำดับ 5
ริคิจิ (หน่วยที่ 6)
อายาเซะงาวะ ยูมิจิกะ (หน่วยที่ 11)
คุจิกิ ลูเคีย (หน่วยที่ 13)
ลำดับ 7
ยามาดะ ฮานาทาโร่ (หน่วยที่ 4)
[แก้] ผลการเรียงลำดับความแข็งแกร่งจากการโหวต
เรียงลำดับตามผลโหวตโดยตามความสามารถในการรบ ดูทั้ง พลังโจมตี,พลังป้องกัน,การเคลื่อนไหว,วิถี มารและแรงกดดันวิญญาณ,ภูมิปัญญา,พลังกาย ในระดับหัวหน้าหน่วยจากมากสุดไปหา น้อยสุด ได้แก่
ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเกคุนิ และ ไอเซ็น โซสึเกะ 100%
คุจิกิ เบียคุยะ อุโนฮานะ เร็ตซึ และ เคียวราคุ ชุนซุย 97%
ซุยฟง และ ฮิสึกายะ โทชิโร่ 95%
อุคิทาเกะ จูชิโร่ 87%
อิจิมารุ งิน 86%
โทเซ็น คานาเมะ และ ซาราคิ เคมปาจิ 82%
โคมามุระ ซาจิน 80%
คุโรซึจิ มายูริ 77%
[แก้] หน่วยวิถีมาร
" หน่วยวิถีมาร" คือหน่วยพิเศษหน่วยหนึ่งของโซล โซไซตี้ที่รวบรวมเอาเฉพาะยมทูตที่มีฝีมือทางด้านวิถีมารสูงมาก่อตั้งเป็น หน่วยใหม่ เป็นหน่วยที่มีความสามารถด้านวิถีมารสูงที่สุดตามชื่อที่ตั้งให้ มักทำงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้วิถีมารเป็นหลัก เช่น เปิดปิดประตูที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโซล โซไซตี้ เป็นต้น และในสมัยก่อนมี สึคาบิชิ เท็ตไซ เป็นหัวหน้าหน่วยวิถีมาร และมี อุโชดะ ฮาจิเง็น หรือ ฮัตช์เป็นรองหัวหน้าหน่วยวิถีมาร
[แก้] หน่วยลับ
หนึ่งในองค์กรลับของโซลโซไซตี้ มีหน้าที่ในการสอดแนมเหล่าฮอลโลว์และทำการสังหารยมทูตที่มีความผิดร้ายแรง คนของหน่วยลับจะสวมชุดดำคล้ายกับนินจา และทุกคนจะใช้ชื่อรหัสแทนชื่อจริงไปตลอดชีวิต มีหัวหน้าคนปัจจุบันคือ"ซุยฟง" ส่วนหัวหน้าคนก่อนคือ ชิโฮอิน โยรุอิจิ หน่วยลับจะเป็นหน่วยที่2ของ13หน่วยพิทักษ์
วังกลาง 46 ห้อง
เรียกตามสถานที่กลุ่มผู้ปกครองสูงสุดในโซลโซไซตี้ใช้ประชุมลับและออกคำสั่งประกอบด้วยนักปราชญ์ที่รวบรวมมาจากทั่วทั้งโซลโซไซตี้ 40 คน และผู้อาวุโสอีก 6 คน ซึ่งได้รับมอบอำนาจสูงสุดจาก "ราชันย์แห่งวิญญาณ" ในการปกครองและการตัดสิน คำตัดสินจากพวกเขาถือเป็นเด็ดขาดสูงสุด
[แก้] หน่วยราชันย์
หน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อราชาแห่งโซลโซไซตี้ ทำหน้าที่ปกป้องราชาแห่งโซลโซไซตี้ และมอบคำสั่งไปยัง 46 วังกลาง โดยไม่มีการก้าวก่ายงานของ 46 ห้องวังกลาง และ 13 หน่วยพิทักษ์ ปัจจุบันยังไม่ได้รับการเปิดเผยแต่อย่างใด เรียกกันในหมู่ยมทูตว่าหน่วย 0 หรือหน่วยไร้ตัวตน หน่วยราชันย์คาดว่าน่าจะมีความสามารถในการรบสูงกว่า 13 หน่วยพิทักษ์
[แก้] ซัมปาคุโต (ดาบฟันวิญญาณ)
ซัมปาคุโตแต่ละเล่มสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้สามรูปแบบ รูปแบบแรกมีลักษณะเป็นดาบคะตะนะธรรมดา (ทำให้ชินิกามิดูเหมือนซามูไรไปโดยปริยาย) ซัมปาคุโตเกือบทุกเล่มจะดูเหมือนกันในรูปแบบนี้ (อาจแตกต่างกันในเรื่องความยาว รูปแบบกั่นด้ามดาบเป็นต้น)
รูปแบบที่สองเรียกว่า ชิไค (Shikai) หรือปลดปล่อยขั้นต้น ซึ่งซัมปาคุโตทุกเล่มจะแสดงลักษณะเฉพาะตัวของมัน ชิไคของชินิกามิส่วนใหญ่เป็นอาวุธมือที่มีรูปร่างเฉพาะตน บ้างคงรูปดาบญี่ปุ่น บ้างคล้ายดาบจีน บ้างคล้ายดาบเซเบอร์ บ้างเป็นหอก บ้างเป็นมีด เป็นต้น นอกจากนี้ ชิไคแต่ละเล่มยังมีพลังโจมตีเฉพาะตัว เช่น พ่นลูกไฟ พ่นน้ำแข็ง ยึดยาวได้ เป็นต้น
รูปแบบที่สามเรียกว่า บันไค (Bankai - ฉบับภาษาไทยใช้คำว่า ปลดปล่อยสวัสดิกะ) ซึ่งเป็นรูปแบบขั้นสุดยอดของซัมปาคุโต บังไคมีรูปร่างไม่แน่นอน เช่น บังไคของชินิกามิบางตนเป็นกระดูกงูขนาดยักษ์[อาบาราอิ เร็นจิ] บางตนเป็นดาบเล็กๆ นับล้านเล่ม[คุจิกิ เบียคุยะ] บางตนเป็นหุ่นขนาดยักษ์[ซาจิน] หรือแม้แต่ดาบซามูไรธรรมดาๆ แต่เพิ่มความเร็ว พลังของผู้ใช้[คุโรซากิ อิจิโกะ] เป็นต้น บังไคเป็นรูปแบบที่มีพลังโจมตีสูงและสามารถใช้ท่าไม้ตายที่มีความรุนแรงมาก ได้ มีชินิกามิน้อยตนนักที่สามารถบรรลุบันไคของตัวเอง ผู้ที่ปลดปล่อยบังไคได้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เป็นยมทูตในระดับ หัวหน้าหน่วย ใน 13 หน่วยพิทักษ์
[แก้] ชนิดของดาบฟันวิญญาณ
แบ่งตามลักษณะการใช้งาน เช่น
แบบใช้โจมตีโดยตรง เป็นดาบที่เปลี่ยนแปลงรูปร่างไปเพื่อใช้ในการโจมตีทางกายภาพเป็นหลัก เช่น โฮซึคิมารุ(อิกคาคุ) ซาบิมารุ(เร็นจิ) ซันเงสึ(อิจิโกะ) คาเสะชินิ(ชูเฮย์) เกะเกะซึบุริ(โอมาเอดะ) เท็นเค็น(โคมามูระ) และใช้รูปแบบบินโดยใช้พลังวิญญาณควบคุม เช่น เซมบ้งซากุระ(เบียคุยะ) และ ไฮเนโกะ(รันงิคุ)
แบบใช้วิธีมารโจมตี หรือที่เรียกว่าดาบฟันวิญญาณสายวิธีมาร คิโด
สายวิธีทำลาย (ฮาโด) คือดาบที่สามารถส่งคลื่นพลังทำลายออกไปได้ เช่น เบนิฮิเมะ(อุราฮาร่า) โทบิอุเมะ(ฮินาโมริ) กะเท็นเคียวคตสึ(ซุนซุย) โวเกียวโนะโคโตวาริ(อุคิทาเกะ)
สายวิธีพันธนาการ (บาคุโด) คือดาบที่สามารถใช้ความสามารถในการเหนี่ยงรั้ง ตรึงการเคลื่อนไหว สะกดการเคลื่อนไหว สะกดประสาทสัมผัสของคู่ต่อสู้ เช่น เคียวขะซุยเงสึ(ไอเซ็น) รุริอิโระ คุจาคุ(ยูมิจิกะ) ซาคานาเดะ(ฮิราโกะ) ซึซึมุชิ(โทเซ็น) คินซาละ(โรส)
สายพิเศษ สายพลังรักษาอาการบาดเจ็บ เช่น มินาซึกิ(อุโนะฮาน่ะ) ฮิซาโกะมารุ(ฮานะทาโร่) ดาบส่วนนี้ส่วนมากจะอยู่หน่วย 4
แบ่งตามสายพลัง เช่น
สายไฟ เช่น ริวจินจักกะ(ยามาโมโตะ) เท็นกูมารุ(เลิฟ) และ ไรคะ(อามาไก)
สายน้ำแข็ง เช่น เฮียวรินมารุ(ฮิซึกาย่ะ) และ โซเดะโนะชิรายูกิ(ลูเคีย)
สายลม เช่น ทาสึคาเสะ(เคนเซย์)
สายน้ำ เช่น เบจิบานะ (ไคเอ็น)
สายมนุษย์ คือสายที่มีคุณสมบัติเช่นทำให้ประสาทสัมผัสด้านชา หรือผสานรวมกับร่างกายผู้ใช้ เช่น อะซิซางิจิโซ(มายูริ) ซึซึเมะบาจิ(ซุยฟง) ดาบฟันวิญญาณของอารันคาร์
[แก้] ท่าวิชา
[แก้] วิชาของยมทูต
ประกอบด้วยวิชาสี่ประเภทดังนี้
วิชาดาบ (Zanjutsu) ในรูปแบบไม่ปลดปล่อย การใช้งานเหมือนักวิชาดาบทั่วไป แต่เมื่อปลดปล่อยขั้นต้นหรือปลดปล่อยสวัสดิกะ จะมีวิธีการใช้งานแตกต่างกันออกไปแล้วตามความสามารถของดาบและบุคลิกภาพของ เจ้าของ
วิถีมาร (Kidou) เป็นเวทมนตร์ ของยมทูต แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ
วิถีพิฆาตหรือวิถีทำลาย (Hadou)
วิถีผนึกหรือเรียกอีกอย่างว่าวิถีพันธนาการ(Bakudou)
ก้าวพริบตา (Hohou)
การต่อสู้ด้วยมือเปล่า (Hakuda)
อนึ่ง ยังมีวิชาที่ผนวกเอาวิถีมาร(Kidou)กับการต่อสู้ด้วยมือเปล่า(Hakuda)มาผสม กันเกิดเป็นวิชา "ยุทธพริบตา"(Shunko) อันมีลักษณะคล้ายใช้พลังของวิถีมารผสานไปกับกระบวนท่าต่อสู้ ซึ่งคิดค้นโดย ชิโฮอิน โยรุอิจิ ภายหลัง ซุยฟง ได้คิดค้นวิชานี้ขึ้นมาเช่นกัน
ทักษะทั้งสี่ชนิดนั้น สำหรับยมทูตคนหนึ่งๆ จะฝึกฝนให้ช่ำชองทั้งสี่ประเภทเป็นไปได้ยากมาก ยก ตัวอย่างเช่น หน่วย 11 เน้นการต่อสู้ด้วยดาบกันตรงๆ โดยไม่สนใจจะใช้วิถีมาร จึงเป็นที่รวมของเหล่านักดาบฝีมือดี ในขณะที่หน่วยอื่นๆ ก็จะมีคนที่ใช้ทั้งดาบ วิถีมาร ก้าวพริบตา ในการต่อสู้ สำหรับหน่วยลับ ก็เน้น ก้าวพริบตา กับการต่อสู้ด้วยมือเปล่า อย่างชุยฟงซึ่งฝีกมาสองด้านนี้ ดาบฟันวิญญาณของชุยฟงเมื่อปลดปล่อยแล้วกลับมีขนาดเล็ก แต่ความสามารถก็เสริมส่งกับทักษะก้าวพริบตากับการต่อสู้ด้วยท่ามือเปล่าเป็น อย่างดี
ด้วย "ขีดจำกัดวิญญาณ" ดังกล่าว ดังนั้นจึงเกิดแนวคิด "ไขว่คว้าพลังอีกด้าน" มาเสริมขีดจำกัดนั้น อันเป็นที่มาของการที่ ฮอลโลว์ต้องการให้ได้มาซึ่งพลังยมทูตจึงพยายามถอดหน้ากากออกกำเนิดเผ่าอารัน คาร์ หรือยมทูตที่ได้พลังในส่วนฮอลโลว์มาที่เรียกว่า "ไวซาร์ด"
[แก้] วิชาของควินซี่
วิธี ต่อสู้ของควินซี่นั้น เน้นการหยิบยืม "อณูวิญญาณ" ในสภาพแวดล้อมรอบตัวมาควบแน่นด้วยพลังวิญญาณของตัวเองเพื่อสร้างอาวุธ ดังนั้นความแข็งแกร่งของควินซี่จึงขึ้นอยู่กับความชำนาญ การฝึกฝนและสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ ยิ่งอยู่ในพื้นที่ ที่มีอณูวิญญาณหนาแน่นมากเท่าใด (เช่น โซล โซไซตี้ ฮูเอโก มุนโด้ เป็นต้น)
ธนู เป็นการรวบรวมอณูวิญญาณ แล้วควบแน่นด้วยพลังกดดันวิญญาณของควินซี่จนมีรูปร่างเป็นธนู ใช้สำหรับยิงออกไปจู่โจม
เหียบเวหา เป็นท่าก้าวความเร็วสูง คล้ายกับก้าวพริบตาของยมทูต และคล้ายกับโซนีดของอารันคาร์
การ ใช้ Seele Schneider (ซีเล่ ชไนเดอร์) โลหะแบนยาวมีห่วงที่ปลาย เป็นอุปกรณ์รวบรวมพลังกดดันวิญญาณ เมื่อมองเผินๆ เหมือนกับเป็นด้ามดาบที่มีพลังวิญญาณเป็นใบดาบ แต่แท้จริงแล้วมันคือ "ลูกศร" ชนิดหนึ่งที่มีพลังสูงกว่าลูกศรอณูวิญญาณทั่วไป และลูกศรชนิดนี้ อิชิดะ อุริว ได้ใช้ต่อสู้กับอดีตเอสปาด้า (พรีวารอน เอสปาด้า) ที่ชื่อ จิรุตจิ ธันเดอร์วิซ หมายเลข105 และอารันคาร์ตนนี้ก็ได้พ่ายแพ้ต่อ อิชิดะ อุริว หลังจากนั้นจึงโดนพวกหน่วยล่าสังหาร (Executional force) ตามมาฆ่าอีกด้วย
การ ใช้ Sprenger (สเปรนเจอร์) เป็นการวาดดาวห้าแฉกโดยใช้การประสานของ ซีเล่ ชไนเดอร์กับหลอดเงินทำลายทุกอย่างที่อยู่ในรัศมีของมัน ที่ปลายด้ามของซีเล่ ชไนเดอร์จะรวบรวมประจุวิญญาณที่ศัตรูปล่อยออกมาระหว่างการต่อสู้ และสามารถให้มันดูดกลืนพลังที่เก็บไว้และสร้างขอบเขตขึ้นมา และใช้มันวาดออกมาเป็นควินซี่ ไซเชน และขั้นตอนสุดท้ายก็ใช้พลังวิญญาณที่สะสมอยู่ในหลอดเงินเพื่อเป็นตัวจุด ระเบิด และมันมีพลังมหาศาลมากที่สุด
[แก้] วิชาของอารันคาร์
Zero(ซีโร่) หรือลำแสงศูนย์ ซีโร่ เป็นวิชาพื้นฐานหลักของพวกอารันคาร์(ที่เปลี่ยนผ่านมาจาก ฮอลโลว์ชั้น เมนอส กรังเด้) สามารถปล่อยซีโร่ออกมาตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น มือ นิ้ว ปาก เป็นต้น สำหรับอารันคาร์ที่เก่งที่สุด สิบอันดับแรก หรือ เอสปาด้า จะมีซีโร่ที่รุนแรงยิ่งขึ้น เรียกว่า Grand Rei Cero (กรังด์ เรย์ ซีโร่) หรือ ลำแสงศูนย์มหาราชันย์ แต่ตอนที่อุลคิโอร่าปลดปล่อยดาบแล้ว ได้ปล่อยซีโร่ออคคิวรัส(ลำแสงศูนย์ทมิฬ) ซึ่งเจ้าตัวบอกเองว่าแรงกว่า กรังด์ เรย์ ซีโร่ หลายเท่า
Sonido(โซนีด หรือท่าเท้าความเร็วเสียง) เป็นท่าก้าว ความเร็วสูง คล้ายกับวิชา "ก้าวพริบตา" ของยมทูต หรือ "เท้าเหิร" ของควินซี่
Resurrection (รีเซอเรคเชียน) หรือ การปลดปล่อยดาบฟันวิญญาน'ของ อารันคาร์ จะไม่ใช่การปลดปล่อยแบบยมทูต เมื่อปลดปล่อยแล้ว จะแปลงกลับสู่สภาพฮอลโลว์ของตน และมี "ถ้อยคำปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณ" คล้ายยมทูต เช่น จงเสียดเสียง-แพนเทร่า(กริมจอร์ แจ็คเกอร์แจ็ค) จงปิดกั้น-มูรเซียร์เอลาโก้(อุลคิโอร่า ซิฟเฟอร์)
Resurreccion Segunda(รีเซอเรคเชียน เซกันด้า)การปลดปล่อยดาบขั้นที่2ของอารันคาร์(คล้ายๆบังไคของยมทูต)อารัน คาร์ตัวเดียวที่ทำได้คืออุลคิโอร่า
13 หน่วยพิทักษ์
เป็นหน่วยงานของเหล่ายมทูตในโซลโซไซตี้ มีทั้งหมด 13 หน่วยด้วยกัน โดยมีหมายเลขเพื่อบ่งบอกหน้าที่และมีผู้นำมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วย โดยมีหัวหน้าของหน่วยหนึ่งยังดำรงตำแหน่งพิเศษเป็นผู้บังคับการสูงสุดของ 13 หน่วยพิทักษ์
เครื่องแบบของหัวหน้าหน่วยจะแตกต่างจากเครื่องแบบปกติของชินิกามิ เพื่อบ่งบอกโดยใช้เสื้อคลุมยาวสีขาวที่ด้านหลังเขียนหมายเลขของหน่วยทับยูกาตะสี ดำแบบเดียวกับของชินิกามิ
เครื่องแบบของรองหัวหน้าหน่วยนั้นมีปลอกแขนที่มีหมายเลขหน่วย
ภายในแต่ละหน่วยยังมีตำแหน่งที่ลดหลั่นลงมาจาก หัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยอีกหลายชั้น ผู้ถือตำแหน่งเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหมู่ของชินิกามิ ซึ่งในแต่ละหน่วยจะประกอบด้วยหมู่ย่อยๆ อย่างน้อย 20 หมู่ ความแข็งแกร่งของหัวหน้าหน่วยนั้นเหนือกว่าของรองหัวหน้าหน่วยมาก เนื่องจากผู้ที่จะเป็นหัวหน้าหน่วยได้จะต้องสามารถใช้บังไคได้ อย่างเชี่ยวชาญ
มีแต่เพียงหัวหน้าหน่วย 11 ซาราคิ เค็มปาจิ ที่ไม่สามารถใช้ได้ทั้งชิไคและบังไค แต่ด้วยความสามารถส่วนตัวทางการต่อสู้ที่เก่งกาจ ทำให้ได้รับการยอมรับเป็นหัวหน้าหน่วย ส่วนรองหัวหน้าหน่วยนั้นมีเพียงไม่กี่ตนที่สามารถปลดปล่อยบังไคของตัวเองได้ รองหัวหน้าหน่วยที่ปลดปล่อยบังไคได้ ตอนนี้มีเพียง เร็นจิและอิกคาคุไม่ใช่หัวหน้าแต่แรงดันวิญญาณอยู่ในระดับหัวหน้า
[แก้] รายชื่อหัวหน้า,รองหัวหน้า,และดอกไม้ประจำหน่วย
หน่วยที่ 1(หน่วยพิธีกรรม)
หัวหน้าหน่วยและหัวหน้าใหญ่แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเกคุนิ
รองหัวหน้า ซาซาคิเบะ โชจิโร่
ดอกไม้ประจำหน่วย คิคุ(เบญจมาศ) [ความเป็นจริงและความบริสุทธิ์]
หน่วยที่ 2(หน่วยลับ)
อดีตหัวหน้าหน่วย ชิโฮอิน โยรุอิจิ โดนเนรเทศ (โดนข้อหาช่วยเหลือนักโทษอุราฮาร่า คิสึเกะ)
หัวหน้าหน่วยและอดีตรองหัวหน้า ซุยฟง( ฟงเชาหลิน )
รองหัวหน้า โอมาเอดะ มาเระจิโยะ
ดอกไม้ประจำหน่วย โอคินะงุสะ [ไม่ปรารถนาในสิ่งใด]
หน่วยที่ 3(หน่วยสอดแนม)
อดีตหัวหน้าหน่วย โอโทริบาชิ โรจูโร่โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
หัวหน้าหน่วย อิชิมารุ งิน ทรยศและหนีไปร่วมกับอารันคาร์ (1 ในผู้ปกครองอารันคาร์)
หัวหน้าหน่วย อามางิ ซูสึเกะ หัวหน้าหน่วยคนใหม่หลังจากอิจิมารุทรยศ (เฉพาะ ภาคอะนิเมะ)
รองหัวหน้า คิระ อิซึรุ
ดอกไม้ประจำหน่วย คินเซ็นกะ(แมรี่โกลด์,ดาวเรือง) [ความสิ้นหวัง]
หน่วยที่ 4(หน่วยพยาบาล)
หัวหน้าหน่วย อุโนฮานะ เร็ตสึ
รองหัวหน้า โคเท็ตสึ อิซาเนะ
อดีตรองหัวหน้า ยามาดะ เซย์โนะสึเกะ
ดอกไม้ประจำหน่วย รินโด(กระดิ่งลม) [ฉันรักในตัวเธอผู้แสนเศร้า]
หน่วยที่ 5(หน่วยตรวจสอบภายใน)
อดีตหัวหน้าหน่วย ฮิราโกะ ชินจิ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
หัวหน้าหน่วยและอดีตรองหัวหน้า ไอเซ็น โซสึเกะ ทรยศและหนีไปร่วมกับอารันคาร์ (1 ในผู้ปกครองอารันคาร์ และก่อตั้งเอสปาด้า)
รองหัวหน้า ฮินาโมริ โมโมะ
ดอกไม้ประจำหน่วย อาชิบิ(อันโดรเมด้า)[เสียสละ,อันตราย,รักบริสุทธิ์(ออกเดินทางไปด้วยกันสองคนเถอะ)]
หน่วยที่ 6(หน่วยคุมกันและดูแลนักโทษ)
อดีตหัวหน้าหน่วย คุจิกิ รินเงย์ (เสียชีวิตไปแล้ว) [เป็นปู่ของเบียคุยะ]
หัวหน้าหน่วย คุจิกิ เบียคุยะ
รองหัวหน้า อาบาราอิ เร็นจิ
ดอกไม้ประจำหน่วย สึบากิ(คาเมลเลีย) [อุดมคติอันสูงส่ง]
หน่วยที่ 7(หน่วยคุมกันเหตุร้ายภายใน)
อดีตหัวหน้าหน่วย ไอคาว่า เลิฟ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
หัวหน้าหน่วย โคมามูระ ซาจิน
รองหัวหน้า อิบะ เท็ตซึซาเอมอน
ดอกไม้ประจำหน่วย โชวบุ(ไอริส) [ความห้าวหาญ]
หน่วยที่ 8 (หน่วยสืบราชการลับ)
หัวหน้าหน่วย เคียวราคุ ชุนซุย
อดีตรองหัวหน้า ยาโดมารุ ริสะ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
รองหัวหน้า อิเสะ นานาโอะ
ดอกไม้ประจำหน่วย โกคุราคุโจวกะ(ปักษาสวรรค์) [ทุกสรรพสิ่งในกำมือ]
หน่วยที่ 9(หน่วยการคลัง เช่นกักเก็บสินค้า อาหาร เครื่องนุ่งห่ม)
อดีตหัวหน้าหน่วย มุกุรุม่า เค็นเซย์ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
หัวหน้าหน่วย โทเซ็น คานาเมะ ทรยศและหนีไปร่วมกับอารันคาร์ (1 ในผู้ปกครองอารันคาร์)
อดีตรองหัวหน้า คุนะ มาชิโระ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
รองหัวหน้า ฮิซากิ ชูเฮย์
ดอกไม้ประจำหน่วย ชิโรเคะชิ(ป็อปปี้) [ลืมเลือน]
หน่วยที่ 10(หน่วยจัดหาและพิจารนาสินค้า)
หัวหน้าหน่วย ฮิซึกายะ โทชิโร่
รองหัวหน้า มัตสึโมโต้ รันงิคุ
ดอกไม้ประจำหน่วย ซุยเซ็น(นาร์ซิสซัส) [ความลึกลับ,อวดดี]
หน่วยที่ 11(หน่วยดูแลและคุมกันภายใน)
หัวหน้าหน่วย ซาราคิ เคมปาจิ
รองหัวหน้า คุซาจิชิ ยาจิรุ
อดีตรองหัวหน้า อิจิโนเสะ มากิ
ดอกไม้ประจำหน่วย โนโคงิริโซ [การต่อสู้]
หน่วยที่ 12(หน่วยค้นคว้าวิจัย)
อดีตหัวหน้าหน่วย ฮิคิฟุเนะ คิริโอะ เกษียณอายุราชการ
อดีตหัวหน้าหน่วย อุราฮาร่า คิสึเกะ โดนเนรเทศ (เจ้าของร้านอุราฮาร่า)
หัวหน้าหน่วย คุโรซึจิ มายูริ
อดีตรองหัวหน้า ซารุงากิ ฮิโยริ โดนเนรเทศ (1 ในกลุ่มไวเซิร์ด)
รองหัวหน้า คุโรซึจิ เนมุ
ดอกไม้ประจำหน่วย อาซามิ [การล้างแค้น, ความเกรี้ยวกราด, ความเดียวดาย]
หน่วยที่ 13(หน่วยดูแลและคุมกันภัยภายนอก)
หัวหน้าหน่วย อุคิทาเกะ จูชิโร่
รองหัวหน้า ชิบะ ไคเอ็น [ได้เสียชีวิตไปแล้ว]
ดอกไม้ประจำหน่วย มัทสึยูคิโซว(สโนว์ดร็อป) [ความหวัง]
[แก้] ลำดับความแข่งแกร่งของนักสู้ในหน่วย
ลำดับ 3
อิเอมูระ ยาโซจิกะ (หน่วยที่ 4)
เอ็นโจจิ ทัตสึฟุสะ (หน่วยที่ 8)
มาดาราเมะ อิกคาคุ (หน่วยที่ 11)
ชิบะ มิยาโกะ (อดีตหน่วยที่ 13)ถูก เมตัสตาเซีย(ฮอลโลว์) สังหาร [เป็นภรรยาของ ชิบะ ไคเอ็น]
โคเท็ตสึ คิโยเนะ (หน่วยที่ 13)
โคซึบากิ เซ็นทาโร่ (หน่วยที่ 13)
คิฟุเนะ(หน่วยที่ 3)
ลำดับ 4
อิคคังซากะ จิโรโบ (อดีตหน่วยที่ 7)ถูก อิชิดะ อุริว ยิงศรวิญญาณ ตัดโซ่กรรม และวิญญาณหลัก ทำให้สูญเสียพลังยมทูต
ลำดับ 5
ริคิจิ (หน่วยที่ 6)
อายาเซะงาวะ ยูมิจิกะ (หน่วยที่ 11)
คุจิกิ ลูเคีย (หน่วยที่ 13)
ลำดับ 7
ยามาดะ ฮานาทาโร่ (หน่วยที่ 4)
[แก้] ผลการเรียงลำดับความแข็งแกร่งจากการโหวต
เรียงลำดับตามผลโหวตโดยตามความสามารถในการรบ ดูทั้ง พลังโจมตี,พลังป้องกัน,การเคลื่อนไหว,วิถี มารและแรงกดดันวิญญาณ,ภูมิปัญญา,พลังกาย ในระดับหัวหน้าหน่วยจากมากสุดไปหา น้อยสุด ได้แก่
ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเกคุนิ และ ไอเซ็น โซสึเกะ 100%
คุจิกิ เบียคุยะ อุโนฮานะ เร็ตซึ และ เคียวราคุ ชุนซุย 97%
ซุยฟง และ ฮิสึกายะ โทชิโร่ 95%
อุคิทาเกะ จูชิโร่ 87%
อิจิมารุ งิน 86%
โทเซ็น คานาเมะ และ ซาราคิ เคมปาจิ 82%
โคมามุระ ซาจิน 80%
คุโรซึจิ มายูริ 77%
[แก้] หน่วยวิถีมาร
" หน่วยวิถีมาร" คือหน่วยพิเศษหน่วยหนึ่งของโซล โซไซตี้ที่รวบรวมเอาเฉพาะยมทูตที่มีฝีมือทางด้านวิถีมารสูงมาก่อตั้งเป็น หน่วยใหม่ เป็นหน่วยที่มีความสามารถด้านวิถีมารสูงที่สุดตามชื่อที่ตั้งให้ มักทำงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้วิถีมารเป็นหลัก เช่น เปิดปิดประตูที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโซล โซไซตี้ เป็นต้น และในสมัยก่อนมี สึคาบิชิ เท็ตไซ เป็นหัวหน้าหน่วยวิถีมาร และมี อุโชดะ ฮาจิเง็น หรือ ฮัตช์เป็นรองหัวหน้าหน่วยวิถีมาร
[แก้] หน่วยลับ
หนึ่งในองค์กรลับของโซลโซไซตี้ มีหน้าที่ในการสอดแนมเหล่าฮอลโลว์และทำการสังหารยมทูตที่มีความผิดร้ายแรง คนของหน่วยลับจะสวมชุดดำคล้ายกับนินจา และทุกคนจะใช้ชื่อรหัสแทนชื่อจริงไปตลอดชีวิต มีหัวหน้าคนปัจจุบันคือ"ซุยฟง" ส่วนหัวหน้าคนก่อนคือ ชิโฮอิน โยรุอิจิ หน่วยลับจะเป็นหน่วยที่2ของ13หน่วยพิทักษ์
วังกลาง 46 ห้อง
เรียกตามสถานที่กลุ่มผู้ปกครองสูงสุดในโซลโซไซตี้ใช้ประชุมลับและออกคำสั่งประกอบด้วยนักปราชญ์ที่รวบรวมมาจากทั่วทั้งโซลโซไซตี้ 40 คน และผู้อาวุโสอีก 6 คน ซึ่งได้รับมอบอำนาจสูงสุดจาก "ราชันย์แห่งวิญญาณ" ในการปกครองและการตัดสิน คำตัดสินจากพวกเขาถือเป็นเด็ดขาดสูงสุด
[แก้] หน่วยราชันย์
หน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อราชาแห่งโซลโซไซตี้ ทำหน้าที่ปกป้องราชาแห่งโซลโซไซตี้ และมอบคำสั่งไปยัง 46 วังกลาง โดยไม่มีการก้าวก่ายงานของ 46 ห้องวังกลาง และ 13 หน่วยพิทักษ์ ปัจจุบันยังไม่ได้รับการเปิดเผยแต่อย่างใด เรียกกันในหมู่ยมทูตว่าหน่วย 0 หรือหน่วยไร้ตัวตน หน่วยราชันย์คาดว่าน่าจะมีความสามารถในการรบสูงกว่า 13 หน่วยพิทักษ์